“ชัช บอดี้สแลม” ก้มหน้ารับเมางัดห้องสาว อ้างจะเอากุญแจไปคืน (ชมคลิป)

2014-04-18 21:34:26

<p>Your browser does not support iframes.</p> <p>ขออภัยด้วยค่ะ ไม่สามารถแสดงผลบนเบราเซอร์ของคุณได้ค่ะ</p>
	คลิก!!!

“ชัช” มือกลองวงบอดี้สแลม รับเมางัดห้องสาว แจงหวังดีเพราะต้องการเอากุญแจไปคืน ยันไม่มีเจตนาร้าย คอตกบอกได้บทเรียนเหล้าไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นเลย พร้อมโพสต์ข้อความ sorry ด้านแฟนคลับแห่ให้กำลังใจเพียบ ขณะที่สาวเจ้าทุกข์รับหวาดกลัว รอปรึกษาผู้ใหญ่จะดำเนินคดีกับอีกฝ่ายอย่างไร

ตกเป็นข่าวฉาวอีกแล้ว สำหรับ “ชัช สุชัฒติ จั่นอี๊ด” มือกลองวงร็อกชื่อดัง “บอดี้สแลม” หลังเมื่อเวลา 11.00 น. ของวันนี้(18 เม.ย.) ได้มีเจ้าทุกข์ คือ น.ส.ขวัญจิรา บุญหล่อปั้น เดินทางไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คันนายาว ให้ดำเนินคดีกับ ชัช มือกลองคนดัง หลังเจ้าตัวก่อเหตุใช้มีดงัดห้องคอนโดของ น.ส.ขวัญจิรา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา กระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ของวันนี้ มือกลองคนดังได้กลับมาเคาะห้องอีกครั้งและพยายามขอโทษ แต่ตนกลัวจึงเดินทางมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เพื่อความปลอดภัย

“เหตุเกิดประมาณ 06.20 น. ได้ยินเสียงไขลูกบิด ก็เลยเดินมาดูตรงประตูตาแมวเพราะว่าไม่กล้าเปิดประตูออกไปดู แต่พอดูก็ไม่มีคน ตอนนั้นอยู่กับแฟน พอเราตื่น ช่วงบ่ายๆ ก็เลยลงไปขอนิติบุคคลคอนโด เพื่อขอดูกล้องวงจรปิดปรากฎว่าในภาพก็มีคนมางัดประตูจริงๆ ค่ะ ในกล้องวงจรปิดเขาเข้ามาในห้องตอน 06.20 น. แต่ตอนช่วง 05.00-06.00 น. เขาเดินวนเวียนไปมาเป็น 10 รอบ แล้วก็ถอดเสื้อถือขวดเบียร์ นิติบุคคลที่คอนโดเขาก็บอกว่า คนนี้ชื่อชัช มือกลองวงบอดี้สแลม เราไม่เคยรู้จักเขาเลยค่ะ ไม่เคยเจอเลย ไม่ทราบด้วยว่าอยู่คอนโดเดียวกัน”

รับเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้ตนกลัวเพราะคู่กรณีมีมีดและบุกเข้ามายามวิกาล เผยอีกฝ่ายขอโทษแล้ว ยอมรับทำไปเพราะเมา...“แล้วเขาก็เข้ามาเคาะห้องอีกทีตอน 10 โมงเช้าวันนี้ค่ะ เคาะเสียงดังมากและบอกว่าขอโทษ แต่เราไม่กล้าเปิดประตู ก็เลยโทร.เรียกตำรวจมาค่ะ และมาแจ้งความที่โรงพักเพื่อความปลอดภัยเพราะกลัว ได้คุยกับเขาแล้วนิดหน่อย เขายอมรับว่าได้เข้ามาในห้องจริงๆ เขาก็ขอโทษ ยอมรับว่าเขาเมา คือเรารู้สึกว่าเราไม่ปลอดภัยเพราะว่าเขามีอาวุธ มีมีดเข้ามางัดแงะในห้อง”

เผยข้าวของในห้องไม่มีอะไรเสียหายแต่กลัวคู่กรณีทำอย่างอื่น...“ของในห้องไม่ได้มีอะไรเสียหาย ไม่ได้มีของมีค่าสูญหาย แต่กลัวเขาทำอย่างอื่นค่ะ ส่วนเรื่องคดีต้องรอปรึกษาผู้ใหญ่ก่อนว่าจะเอายังไง เพราะเราก็หวาดกลัวค่ะ เพราะว่ามาเคาะห้องยามวิกาลแล้วยังมีอาวุธด้วย”

ทั้งนี้จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทางมือกลองชื่อดังได้ยอมรับว่า ได้เมาสุราและพยายามจะเข้าไปในห้องจริง แต่ที่ไปงัดห้องผู้เสียหายเพราะตั้งใจจะเอากุญแจห้องและกุญแจรถที่ผู้เสียหายลืมไว้ประตูไปคืน ไม่มีเจตนาไม่ดีแต่อย่างใด โดยเจ้าตัวเปิดเผยรายละเอียดว่า

“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดจากผม เอ่อ...เมาสุรา และด้วยวันนั้นผมทะเลาะกับแฟนหนักมาก แล้วบังเอิญด้วยห้องของผู้เสียหายติดอยู่กับทางหนีไฟ ผมก็ทะเลาะกับแฟนเดินออกมาแล้วออกไปทางหนีไฟ ก็ไปดื่มเบียร์นิดหนึ่งแล้วก็เดินกลับเข้ามา เผอิญเห็นกุญแจคาอยู่ แล้วกุญแจนั้นมันมีกุญแจรถอยู่ด้วย ผมก็เลยไปเคาะประตูเรียกๆ เขา แล้วก็ไม่มีใครตื่น จนผมบิดลูกกุญแจเข้าไปห้อง ก็เปิดประตูแง้มออกนิดนึงครับ ผมก็เรียก เรียกด้วยเสียงคนเมาแหละครับ ว่าคุณลืมกุญแจไว้ครับ แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ”

“จนผมแบบกลับไปห้อง ด้วยความเมาคือมันไม่มีสติที่จะคิดว่าจะต้องเอากุญแจลงไปให้ที่นิติหรืออะไรแบบนี้ครับ คือด้วยความที่เขาไม่ตื่น ถ้ามันมีกุญแจธรรมดาผมจะไม่ยุ่งเลย แต่มันมีกุญแจรถอยู่ด้วย แล้วแฟนผมใช้รถยี่ห้อนี้เหมือนกัน แล้วกุญแจมันเหมือนกัน ผมก็เลยเข้าห้องด้วยความมึนเมาแล้วก็เดินออกมา แล้วอีกทีผมก็ใส่เสื้อผ้าออกมาแล้วก็ไปงัดไอ้ตัวสายยูเพื่อเปิดห้องเข้าไป ซึ่งผมก็ไม่คิดว่ามันจะงัดออกหรอก แต่มันดันงัดออก เสร็จผมก็เดินเอากุญแจเข้าไปวาง แล้วก็เดินออกมาโดยที่ไม่มีอะไร”

ยันไม่ได้มีเจตนาร้าย แต่เพราะความเมาจึงทำไปโดยไม่มีสติ
“ผมไม่ได้อะไรเลย แต่ด้วยความที่ผมเมา วันนั้นยอมรับว่าเมามาก เมาจนไม่มีสติ ก็ต้องขอโทษทุกคนด้วย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันเกิดจากด้วยความที่ต้องการจะเอากุญแจให้น้องเขา เขาคงไม่รู้ว่าเขาลืมกุญแจไว้หน้าห้อง (น้องเขาอาจจะรู้สึกว่าเรางัดแงะเข้าไปเพื่อจะทำอะไรสักอย่างหรือเปล่า?) ไม่ๆ ครับ ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะทำอย่างนั้น ผมไม่เคยรู้จักน้องเขาเลยครับ ไม่เคยเห็นหน้าด้วย เพิ่งเคยเห็นวันนี้แหละครับ”

ส่วนอาวุธมีดที่หยิบติดมือมาด้วย เจ้าตัวก็ย้ำอีกว่าเพราะความเมาตัวเดียว
“คือมีดนี่คือหยิบมาด้วยเพราะความที่คนเมาแหละครับ”

พร้อมแจงที่ไปเคาะห้องอีกฝ่ายอีกรอบเมื่อช่วง 10.00 น. ที่ผ่านมา เพราะตั้งใจไปขอโทษจริงๆ
“เพื่อจะขอโทษครับ คือจะขอโทษเขา ทาง สน.โทรไปหาทางแฟนผม แล้วแฟนผมบอกว่าพี่มันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ถามว่าจริงหรือเปล่า ผมก็บอกว่าจริง แล้วผมก็เลยบอกว่าถ้าอย่างนั้นพี่ไปขอโทษเขาดีกว่าแล้วผมก็เดินไปดูว่าเขาอยู่ห้องหรือเปล่า พร้อมเคาะห้อง แล้วเขาก็ไม่เปิด ผมก็พูดว่าผมเองครับที่เคาะห้องคุณวันนั้น ก็เลยกลายเป็นเรื่องจากที่ผมจะไปขอโทษเขา จากนั้นมาน้องเขาก็แจ้งความ ตำรวจมา ผมก็บอกผมเองครับ”

คอตกยอมรับผิด ทำใจผู้เสียหายไม่ยอมความ
“ก็แล้วแต่น้องเขาครับ ผมทำด้วยความมึนเมา มันผิดอยู่แล้ว”

ต้นสังกัดแกรมมี่กำลังปรึกษากันอยู่ว่าจะหาทางออกยังไง
“ผู้ใหญ่ก็ปรึกษาปัญหากันอยู่ครับ อย่างที่รู้ๆ มันผิดแหละครับ คนเมาขับรถชนก็ผิดแล้ว เมาขับรถชนเด็กเสียอนาคตก็ผิดแล้ว พอดีผมเมาแบบไม่มีสติครับ แต่ผมไม่ต้องพักงานครับไม่ขนาดนั้น”

ก้มหน้ายอมรับบทเรียนครั้งนี้สอนให้รู้ว่าสุราไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น
“สุราไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นเลย วันนั้นผมขาดสติด้วย ผมทะเลาะกับแฟนด้วย หนักมาก ก็เข็ดไปอีกนานเลยครับ สำหรับน้องผู้เสียหายผมก็ขอโทษครับ ผมก็บอกกับน้องเขาแล้วว่าแล้วแต่น้องเลยว่าจะทำอย่างไร คือมันเป็นเหตุการณ์บุกรุก แล้วผมไปเอามีดมาด้วย คือด้วยตอนนั้นคนเมาก็คงไม่ได้นึกว่าจะต้องเอามาด้วยครับ วันนั้นเมามากครับ ยอมรับผิดครับ”

อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับขั้นตอนการดำเนินคดี ทางด้านของ พ.ต.ท สุบรรณ์ อธิเศรษฐ์ หัวหน้าสอบสวน สน.คันนายาว ได้เผยว่าตอนนี้ “ชัช” ถูกตั้ง 2 ข้อหา คือข้อหาบุกรุกโดยมีอาวุธมีด และข้อหาความผิดฐานก่อความเดือดร้อนรำคาญ ส่วนขั้นตอนต่อไปคือการตรวจสอบพยานหลักฐานว่าสอดคล้องกับคำให้การของชัชที่ให้การว่า บุกรุกห้องเพียงเพื่อเอากุญแจไปคืนเท่านั้นหรือไม่ หรือมีเจตนาไปทำอย่างอื่น รวมถึงจะต้องตรวจสอบประวัติอาชญากรต่อไป

“ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนนะครับ คดีนี้ผู้เสียหายคือนางขวัญธิดา มาแจ้งความตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน แล้ว ร้องทุกข์กล่าวโทษ นายสุชัฒติ ทราบว่าเป็นมือกลองวงบอดี้สแลม ผู้เสียหายแจ้งว่า วันที่ 16 ช่วงเวลาประมาณตี 5 – 6 โมงเช้า เขาพักอยู่ในห้อง ได้ยินเสียงคนมาเคาะประตู บิดลูกบิดก๊อกแก๊ก เขาก็ไม่กล้าไปเปิด จนกระทั่งอีกสักระยะหนึ่ง เขามีความรู้สึกว่า มีการงัดแงะและเปิดประตูเข้ามาในห้อง พอเข้ามาในห้องแล้วก็เดินออกมา แล้วก็ได้ยินเสียงมีอะไรหล่นที่พื้น เหมือนเป็นมีดหล่น เขามีความรู้สึกเขากลัว เขาไม่กล้าออกมา”

“หลังจากนั้นรุ่งเช้าเขาไปแจ้งนิติบุคคลที่ดูแลอาคาร มีกล้องวงจรปิดปรากฏว่าภาพบนกล้องวงจารปิดไม่ชัดเจน แต่ว่าดูลักษณะท่าทางคล้ายกับนักดนตรี จากนั้นเราก็รับแจ้งความ อีกในวันนี้เวลาประมาณ 10.30 ขณะที่พักอยู่ในห้อง เขาได้ยินเสียงเคาะประตู เขากลัวและตกใจและเขาเชื่อว่าน่าจะเป็นคนร้ายที่มาในลักษณะวันนั้น เราก็เคยให้เบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เขาก็โทร.แจ้งตำรวจ ทางเราก็แจ้งตำรวจสายตรวจไปเอาตัวมาสอบสวนให้ดูภาพ คุณชัชก็รับว่าเป็นบุคคลตามภาพ”

ทั้งนี้ในส่วนของบทลงโทษนั้นหัวหน้าสอบสวนแจงว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหา “ชัช” รวม 2 ข้อหา คือข้อหาบุกรุกโดยมีอาวุธมีด และข้อหาความผิดฐานก่อความเดือดร้อนรำคาญ
“คดีนี้มี 2 กรรมนะครับ ตามความผิดของผู้ต้องหามี 2 กรรม ต่างกรรมต่างวาระ กรรมที่ 1 คือวันที่ 16 เราตั้งข้อหาบุกรุกโดยมีอาวุธมีด ส่วนกรรมที่ 2 คือวันนี้ ความผิดฐานก่อความเดือดร้อนรำคาญ บังเอิญว่ากรรมหลังสามารถเปรียบเทียบปรับ ผู้ต้องหาเขาก็ยอมรับ และคู่กรณียินยอมให้เปรียบเทียบปรับในชั้นนี้ เราก็เลยปรับเป็นเงิน 500 บาท ส่วนข้อหาบุกรุกก็ยังสืบสวนต่อไป ยืนยันว่าทาง สน.จะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย”

“ขณะนี้ในเมื่อผู้ต้องหาปรากฏและเขายอมรับข้อเท็จจริง เราก็ต้องสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหาและเข้าสู้กระบวนการสอบสวน เนื่องจากกรณีนี้ไม่ได้มีการจับเพราะเห็นว่าเป็นเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้ว ไม่ได้เป็นความผิดซึ่งหน้า ไม่ได้มีการจับ ก็ต้องไม่มีการประกันตัว แจ้งข้อกล่าวหาและเขารับทราบข้อกล่าวหาแล้วก็ปล่อยตัว และนัดหมายผู้ต้องหาให้มาพบในวันพุธที่ 23 เมษายน เวลา 15.00 เพราะต้องสอบสวนในคดีบุกรุกต่อ”

ขั้นตอนต่อไปคือการตรวจสอบพยานหลักฐานว่าสอดคล้องกับคำให้การของ “ชัช” ที่ให้การว่าบุกรุกห้องเพียงเพื่อเอากุญแจไปคืนเท่านั้นหรือไม่ หรือมีเจตนาไปทำอย่างอื่น
“อันนี้เราจะสอบสวนให้ความเป็นธรรมเขานะครับ เป็นข้อต่อสู้เป็นข้อเท็จจริงที่ผู้ต้องหาเขาให้การไว้ เราก็ฟัง แต่เราก็จะสอบรวบรวมพยานหลักฐานดูว่าจริงเท็จเป็นยังไง เราต้องดูว่าหลักฐานทั่วๆ ไปมันสอดคล้องกับข้อเท็จจริง พยานและหลักฐานมันสอดคล้องกับข้อเท็จจริงหรือไม่ ผู้เสียหายเขาให้การยืนยันไว้แล้ว ถ้าเป็นไปตามนั้นก็ต้องไปว่ากันชั้นศาล
(ชัชเคยมีคดีมาก่อนไหม?) เราตรวจสอบต่อไป วันนี้ได้พิมพ์ลายนิ้มมือไปแล้ว เดี๋ยวจะตรวจสอบประวัติอาชญากร”

ขณะที่ในส่วนของมือกลองคนดังเองก็ได้โพสต์ข้อความขอโทษเป็นภาษาอังกฤษผ่านอินสตาแกรมตนเองที่ Shutt666 ว่า sorry พร้อมกับบอกด้วยว่า “ผมไม่เคยคิดร้ายกับใคร...” ซึ่งก็ได้มีแฟนเพลงเข้ามาให้กำลังใจเจ้าตัวมากมาย ส่วนความคืบหน้าต่างๆ ทีมข่าวจะรายงานให้ทราบต่อไป

สำหรับมือกลองคนดังนั้นที่ผ่านมาเจ้าตัวเคยตกเป็นข่าวฉาวมาแล้วหลังได้เดินเข้าไปกระชากคอเสื้อและขู่ทำร้ายพี่ชายของไฮโซสาวคนหนึ่งเนื่องจากไม่พอใจที่อีกฝ่ายต่อว่าสมาชิกวงบอดี้สแลมว่าทำไมได้สิทธิ์เช็กอินก่อนคนอื่นทั้งๆ ที่ผู้โดยสารคนอื่นๆ นั้นต่างยืนรอคิวกันอยู่