ไทยไม่ติด 200 มหา′ลัยโลกอีกแล้ว มาเลเซียนำจนน่าเป็นห่วง!
2014-09-20 11:30:16
Advertisement
คลิก!!!

เมื่อวันที่ 18 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกโดย QS World University Rankings ปี 2014-2015 ปรากฏว่ามหาวิทยาลัยไทยติดอยู่ในอันดับ ดังนี้ 

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อันดับที่ 1 ของไทย อันดับที่ 48 ของเอเชีย และอันดับที่ 243 ของโลก 

มหาวิทยาลัยมหิดล (มม.) อันดับที่ 2 ของไทย อันดับที่ 49 ของเอเชีย และอันดับที่ 257 ของโลก 

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อันดับที่ 104 ของเอเชีย และอันดับที่ 501-550 ของโลก

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อันดับที่ 135 ของเอเชีย และอันดับที่ 601-650 ของโลก

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อันดับที่ 150 ของเอเชีย และอันดับที่ 651-700 ของโลก 

มหาวิทยาลัยขอนแก่น อันดับที่ 188 ของเอเชีย และอันดับที่ 701 ของโลก

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี อันดับที่ 190 ของเอเชีย และอันดับที่ 701+ ของโลก

มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อันดับที่ 194 ของเอเชีย และอันดับที่ 701+ ของโลก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับมหาวิทยาลัยที่อยู่ในอันดับ 1-4 ของโลก ในการจัดอันดับครั้งนี้ ได้แก่ 


อันดับ 1 Massachusetts Institute of Technology (MIT) 
อันดับ 2 University of Cambridge 
อันดับ 3 Imperial College London และอันดับ 
อันดับ 4 Harvard University, University of Oxford ตามลำดับ

ซึ่งการจัดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกครั้งนี้ QS World University Rankings พิจารณาจากตัวชี้วัด 6 ด้าน ได้แก่ 


1.ชื่อเสียงทางวิชาการของมหาวิทยาลัย 
2.ทัศนคติของผู้จ้างงานบัณฑิต 
3.สัดส่วนจำนวนอาจารย์ต่อนักศึกษา 
4.สัดส่วนจำนวนการอ้างอิงต่อผลงานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมาต่อจำนวนอาจารย์ 
5.สัดส่วนจำนวนอาจารย์ต่างชาติ และ
6.สัดส่วนนักศึกษาต่างชาติ

นายภาวิช ทองโรจน์ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) กล่าวว่าจากการจัดอันดับโดย QS World University Rankings ปี 2014-2015 ปรากฏว่ามหาวิทยาลัยไทยไม่ติดอยู่ใน 200 อันดับแรกของโลก ขณะที่มาเลเซียอยู่อันดับที่ 151 ของโลก 

ส่วนมหาวิทยาลัยไทยที่ติดอันดับแรกๆ จุฬาฯ อยู่ในอันดับที่ 243 ของโลก และ มม.อยู่ในอันดับที่ 257 ของโลก ซึ่งเป็นอันดับที่น่าเป็นห่วง โดยเฉพาะการที่มาเลเซียมีอันดับที่ก้าวกระโดดไปไกลกว่าไทยมาก จากที่เคยไต่อันดับตามไทย จึงเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าไทยต้องเร่งพัฒนาอุดมศึกษาให้มากกว่านี้ โดยการพัฒนาอาจต้องเริ่มจากการตั้งเป้า และพัฒนาคุณภาพอุดมศึกษาให้เข้าใกล้มาเลเซียให้มากขึ้นก่อน 

"การจัดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกโดย QS World University Rankings พิจารณาจากงานวิจัยเป็นสำคัญ ดังนั้น รัฐบาลควรสนับสนุนงบประมาณวิจัยเพิ่มมากขึ้น จะปล่อยให้ประเทศใช้งบวิจัยไม่ถึง 1% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ หรือจีดีพี คงเป็นไปไม่ได้แล้ว เพราะประเทศที่พัฒนาส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับงบวิจัยเพื่อพัฒนาประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น ที่สนับสนุนงบวิจัยไม่น้อยกว่า 3% ของจีดีพี" นายภาวิชกล่าว





มติชนรายวัน
19 ก.ย. 2557

ที่มา  มติชนออนไลน์

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X