เคยคิดกันมั้ยว่าบางที "โมอาย" แห่งเกาะอีสเตอร์ อาจจะเดินได้?

รูปปั้นหินยักษ์บนเกาะอีสเตอร์นั้นบางทีอาจจะสามารถเดินได้จริง ทฤษฎีใหม่นี้เกี่ยวข้องกับวิธีการเคลื่อนย้ายรูปปั้นเสาหินไปยังทุกซอกทุกมุมทั่วทั้งเกาะแห่งนี้   

ในส่วนของนักโบราณคดี ทีมวิจัยท้องถิ่น และนักวิจัยแห่งสหรัฐ ได้แสดงให้เห็นว่ารูปปั้นขนาดใหญ่ที่เรียกมันว่า "โมอาย" นั้น สามารถเคลื่อนย้ายได้จากด้านข้างด้วยการใช้คนจำนวนไม่มากนัก

"พวกเราได้สร้างแบบจำลองสามมิติที่แม่นยำ ของรูปปั้นน้ำหนักกว่า 4.35 เมตริกตัน เพื่อแสดงวิธีการวางตำแหน่งศูนย์กลางของรูปปั้นให้ตกไปข้างหน้า และทำการบังคับมันจากด้านข้างหนึ่งไปอีกข้างหนึ่งเพื่อให้มันเดินได้ครับ" นาย คาร์ล ลิปโป นักโบราณคดี จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย และผู้เขียนบทความในวารสารวิทยาศาสตร์ทางโบราณคดี กล่าว  

วิเคราะห์ : มีมนุษย์ต่างดาวมาที่เกาะอีสเตอร์รึปล่าวนะ?

เป็นเวลาเกือบ 1,000 ปีแล้ว ที่รูปปั้นขนาดใหญ่ได้ถูกเคลื่อนย้ายไปยังที่ต่างๆ โดยชาวราปานูอี ชนเผ่าพื้นเมืองของเกาะอีสเตอร์ ด้วยขนาดความสูงที่มีตั้งแต่ 6 ฟุตไปจนถึง 33 ฟุต ของรูปปั้นหินที่มีรูปร่างเหมือนกับมนุษย์ ทั้งหัวที่โต ใบหูที่ยาว และริมฝีปากที่หนา  

นักวิชาการต่างถกเถียงกันว่า ใช้เวลานานเท่าไหร่ที่รูปปั้นหินน้ำหนักหลายตันนี้ได้ถูกย้ายมาจากเหมืองหินที่ปล่องภูเขาไฟราโนรารากู ไปยังพื้นที่ส่วนต่างๆ ของเกาะ

มีการกล่าวว่าอาจเป็นการแทรกแซงจากสิ่งมีชีวิตนอกโลกสำหรับการกำเนิดรูปปั้นแปลกประหลาดเหล่านี้ อย่างไรก็ดีนักโบราณคดีส่วนใหญ่เห็นว่าการเคลื่อนย้ายรูปปั้นขนาดใหญ่นี้อาจเกิดขึ้นโดยการใช้ไม้ซุง ในการทำสิ่งนี้ชาวราปานูอีคงได้โค่นต้นไม้ลงเกือบทั้งหมดที่มีอยู่ในเกาะ  

แต่ทีมงานของคาร์ลก็ได้พบกับหลักฐานใหม่ที่ท้าทาย "คิดกันมาโดยตลอดเลยว่ามันอาจเกิดจาก 'การทำลายสิ่งแวดล้อมของคน' และการล่มสลายของประชากรก่อนที่จะทำการติดต่อกับทางยุโรป"

นักวิจัยได้ชี้ให้เห็นถึงรูปปั้นที่ถูกวางเรียงกันไว้อย่างสมบูรณ์แบบทั่วทั้งบริเวณของเกาะ   

วิเคราะห์ : เคยคิดกันมั้ยว่าบางที "โมอาย" แห่งเกาะอีสเตอร์ อาจจะเดินได้?

ทีมนักวิจัยได้ทำการผูกเชือกติดไว้ที่ด้านหลังหัวของรูปปั้นยักษ์ เพื่อไม่ให้มันล้มลงไปด้านหน้า และใช้เชือกพันบริเวณรอบดวงตาพร้อมทั้งดึงเชือกในฝั่งด้านข้างทั้งสองข้างเอาไว้  

"เราใช้เวลานานนับชั่วโมง เพื่อทำให้รูปปั้นนั้นเดินทางได้ในระยะทางกว่า 100 เมตร"

"ในทางตรงกันข้ามแทนที่จะเป็นการใช้ลูกกลิ้งหรือท่อนไม้ในการเคลื่อนย้ายโมอาย แต่เห็นได้ชัดเจนเลยว่าโมอายนั้นถูกออกแบบมาเพื่อให้เดินได้ในตำแหน่งแนวตั้งโดยเฉพาะ ด้วยการใช้เพียงแค่เชือกและแรงของมนุษย์เพียงไม่กี่คนในการเคลื่อนย้ายมันครับ" ทีมนักวิจัยกล่าว

พวกเขายังกล่าวอีกว่าเชือกเป็นสิ่งที่หาได้ง่ายตามเกาะแห่งนี้ ซึ่งเชือกสามารถดัดแปลงด้วยการทำมาจากพุ่มไม้ต่างๆ ได้ ดังนั้น "การทำรูปปั้นและการเคลื่อนย้าน จึงไม่มีความเชื่อมโยงกับการตัดไม้ทำลายป่าครับ" พวกเขากล่าว

"มีหลักฐานหลายสิ่ง อาทิ วิศวกรรมที่แยบยลในการทำให้รูปปั้นนั้นเดินได้ ซึ่งเป็นจุดที่ชี้ให้เห็นว่าเกาะอีสเตอร์นั้นประสบความสำเร็จมากเพียงใดในประวัติศาสตร์ครับ" พวกเขากล่าว

แปลจาก http://www.livescience.com

โดย http://www.popcornfor2.com