ตัวเลข $191.27 ล้านของ Avengers: Age of Ultron นั้นคิดเป็น 85% ของรายได้หนังทั้งหมดในท็อป 12 ประจำสุดสัปดาห์นี้ หรือพูดง่ายๆ ว่ารายได้ของหนัง 12 อันดับแรกรวมกันเนี่ย มาจาก Age of Ultron ซะ 85% ซึ่งก็ทำลายสถิติเดิมของ Spider-Man 3 ที่ทำไว้ 83% เมื่อครั้งเปิดตัวด้วยรายได้ $174.14 ล้านปี 2013 ซึ่ง ไอ้แมงมุมภาค 3 ก็เป็นหนังเปิดตัวสูงสุดอันดับ 3 ตลอดกาลนั่นเอง

  ทั้งนี้แม้มองเผินๆ Age of Ultron จะทำไม่ได้อย่างที่หลายคนคาดหวังคือ เปิดตัวให้มากกว่าภาคแรก แต่เวลาผ่านไป ปัจจัยก็เปลี่ยนไป และสถานการณ์ในแต่ละปีก็ต่างกัน และหนึ่งในปัจจัยสำคัญน่าจะเป็นประเด็นความแปลกใหม่ เมื่อ Marvel's The Avengers คือ "ครั้งแรก" ที่คอหนังได้ดูหนังรวมฮิตซูเปอร์ฮีโร่ กระแสก็จะมากเป็นพิเศษ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องธรรมชาติที่ยังไงๆ ภาคสองก็ยากจะทำได้แบบภาคแรก

    นอกจากนี้ "กระแสรีวิว" ก็เป็นอีกจุดที่มองข้ามไม่ได้ ซึ่งหลายๆ เสียงเห็นตรงกันว่าภาคแรกเข้าท่ากว่าและปัจจัยสุดท้าย เป็นปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบถึง นั่นก็คือ "กีฬา" ซึ่งในสัปดาห์ที่ Age of Ultron เข้าฉายนั้น มีกีฬาสนุกๆ 3 รายการ เริ่มที่ม้าแข่ง Kentucky Derby ต่อด้วย บาสเกตบอล เอ็นบีเอ รอบเพลย์-ออฟ รอบแรก เกมเจ็ด ชิงดำ ระหว่าง คลิปเปอร์ส กับสเปอร์ส แชมป์เก่า ซึ่งมันส์ฝุดๆ ซะด้วย และสุดท้ายคือคู่มวยหยุดโลก "ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ กับ แมนนี่ ปาเกียว" นั่นเอง

    อย่างไรก็ตาม มันเป็นเพียงสาเหตุที่ใช้อธิบายความแตกต่างทางตัวเลขของหนัง 2 เรื่อง ไม่เกี่ยวอะไรกับผลงานในอนาคตของ Age of Ultron และต้องยอมรับว่า $191.27 ล้านเนี่ย มันสุดยอดสุดๆ แล้ว และเป็นอีกหนึ่งการประกาศศักดาของ Marvel ว่าครองบัลลังก์บ็อกซ์ ออฟฟิศ อย่างแท้จริงในยุคนี้พอศอนี้ เพราะทั้ง Marvel's The Avengers , Avengers: Age of Ultron และ Spider-Man 3 ท็อปทรีหนังเปิดตัวรายได้มากสุดเป็นของพวกเขาทั้งสิ้น 

    ทีนี้มาเจาะลึกรายละเอียดบ้าง ผู้ชม Avengers: Age of Ultron นั้นเป็นผู้ชาย 59% และอายุ 25 อัพ 59% เช่นกัน ส่วนเกรดหนังนั้น CinemaScore ให้เกรด "A" (ขณะที่ Avengers ภาคแรกได้ A+) โดยหาก Age of Ultron โชว์ฟอร์มได้แบบ Avengers ดูแล้วตัวเลขก็จะไปตกแถวๆ $560 ล้านได้ หรือถ้าเลือกเดินตามรอย Iron Man 3 มันก็จะจบแถวๆ $440 ล้าน แต่ถ้าเลือกมองบวก ไม่ว่าจะลงเอยแบบไหน มันก็จะเป็นหนึ่งในหนังทำเงินถล่มทลายที่สุด 

    แน่นอนว่า ผลพวงจากการเปิดตัวของ Age of Ultron ทำให้หนังเรื่องอื่นๆ พลอยโดนหางเลขไปด้วย เริ่มที่ Furious 7 สัปดาห์นี้เก็บได้ $6.64 ล้าน เปอร์เซ็นต์หล่นวูบถึง 63% แต่ก็เป็นสิ่งที่คาดกันเอาไว้แล้วแหละ ดังนั้นอย่าไปคิดมาก และตอนนี้หนังแอ็คชั่นซิ่งถล่มโลกก็กวาดรายได้ไปแล้วทั้งสิ้น $331.07 จากการเข้าฉาย 31 วัน นับว่าสุดยอดเอามากๆ หากเทียบกับ Fast & Furious 6 ที่ในระยะเวลาเดียวกันทำได้ $228.62 ล้าน

    อันดับ 3 เป็นเจ้าของตำแหน่งเดิม The Age of Adaline หนังรักแนวดราม่าข้ามภพข้ามชาติของ เบลค ไลฟ์ลี่ย์ เก็บเพิ่มอีก $6.20 ล้าน ดร็อปจากอาทิตย์ก่อน ซึ่งเป็นสัปดาห์เปิดตัว 53% ตัวเลขอาจจะน้อย แต่ก็มองได้ว่ามันต้านทานพลังชั่วร้ายของอัลตรอนได้ดีทีเดียว หากเทียบกับหนังเรื่องอื่นๆ ที่เข้าฉายแบบวงกว้าง ตอนนี้ The Age of Adaline เลยทำเงินไปแล้ว $23.38 ล้าน (จาก 10 วัน) เรียกว่าสวยงาม และน่าพอใจแล้ว ถ้าเทียบกับ The Longest Ride หนังรักหวานหยาดเยิ้มจากหนังสือของ นิโคลัส สปาร์ค ที่ทำได้ $23.68 ล้าน จากการเข้าฉาย 10 วันเท่ากัน (ตอนนี้ฉายมา 1 เดือนแล้ว) 

    อันดับ 4 สัปดาห์นี้เป็น Paul Blart: Mall Cop 2 หนังตลกยามอ้วนภาคต่อของ เควิน เจมส์ ที่ร่วงมาจากอันดับสอง ด้วยรายได้ $5.88 ล้าน ตอนนี้ฟันไปแล้ว $51.52 ล้าน หลังเข้าฉายมา 17 วัน เรียกว่าไปได้สวยแบบที่คาดหวัง และอยู่ในระดับเดียวกับที่ Zookeeper เคยทำเอาไว้ $59.21 ล้าน จาก 17 วัน เมื่อปี 2011 และปิดท้ายรายงานสัปดาห์นี้ด้วยอันดับ 5 ซึ่งเป็นของ Home (2015) หนังแอนิเมชั่นของ DreamWorks เก็บเพิ่ม $3.47 ล้าน รวมทำรายได้ไปแล้วทั้งสิ้น $158.3. ล้าน อย่างน้อยก็ไม่ขาดทุนหละนะ!

http://www.siamdara.com