“Blind Massage” คว้า 6 รางวัล พร้อมภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

               “Blind Massage” ผลงานการกำกับของ “ลู่เย่” คือหนังที่คว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในงานประกาศรางวัลม้าทองคำครั้งที่ 51 ไปครองได้สำเร็จ พร้อมรางวัลต่างๆ อีก 5 สาขา ส่วนนักแสดงชาวจีนแผ่นดินใหญ่ “เฉินเจี่ยนปิน” ก็สร้างประวัติศาสตร์คว้ารางวัลกลับบ้านไปได้ถึง 3 สาขา
       
       หนังที่เล่าเรื่องของหมอนวดแผนโบราณตาบอดในโรงนวดที่นานจิง Blind Massage คือผลงานที่ประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นที่สุด บนเวทีม้าทองคำครั้งที่ 51 ซึ่งจัดกันไปเมื่อค่ำคืนของวันที่ 22 พ.ย. ที่ผ่านมา ณ Sun Yat Sen Memorial Hall ในกรุงไทเป ด้วยการคว้ารางวัลไปได้ถึง 6 สาขา
       
       โดยนอกจากรางวัลใหญ่ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแล้วผลงานของ ลู่เย่ เรื่องนี้ กวาดไปทั้งรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ (จางเล่ย), รางวัลบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม (หม่าอิงลี่), รางวัลถ่ายภาพยอดเยี่ยม (เจิ้งเจี่ยน), รางวัลการตัดต่อ (กงจินเล่ย กับ จูโจวหลิน) และรางวัลเทคนิคทางเสียง (ฟู่กัง)
       
       ถือว่า Blind Massage ที่เข้าชิงถึง 7 สาขาพลาดรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมไปเพียงรางวัลเดียวเท่านั้น ส่วนหนังดังจากจีนแผ่นดินใหญ่ Black Coal, Thin Ice ที่คว้ารางวัลในระดับนานาชาติมามากมาย ซึ่งก็ได้ชิงรางวัล 7 สาขาเท่ากัน กลับคว้าไปได้รางวัลเดียวคือสาขากำกับศิลป์ยอดเยี่ยม (หลิวเฉียง)
       
       อย่างไรก็ตามพระเอกของม้าทองคำในปีนี้คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากนักแสดงหนุ่มใหญ่ เฉินเจี้ยนปิน ที่คว้ารางวัลกลับบ้านไปถึง 3 สาขา ทั้งจากหนัง A Fool ที่ทำให้เขาเป็นทั้งผู้กำกับหน้าใหม่ยอดเยี่ยม และนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ส่วนบทสมทบสร้างสีสันในหนังดังของไต้หวัน Paradise in Service ก็ทำให้ดาราชาวจีนแผ่นดินใหญ่ เฉินเจี่ยนปิน ที่ชาวไต้หวันคุ้นหน้าคุ้นตาดีอยู่แล้วจากงานแสดงทางโทรทัศน์ คว้ารางวัลนักแสดงสมทบชายไปอีกสาขา
       
       แต่ที่ว่ากันว่าเหนือความคาดหมายก็คือรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมของ แอน ฮุย จากภาพยนตร์เรื่อง The Golden Eraหนังชีวประวัติของนักเขียนหญิงผู้ยิ่งใหญ่ของจีน ที่ผู้กำกับหญิงชาวฮ่องกงก็ยอมรับว่าเธอไม่ได้คิดเอาไว้เลยว่าตัวเองจะได้รับรางวัลขึ้นมา จึงแทบไม่ได้เตรียมสุนทรพจน์อะไรเอาไว้เลย
       
       อย่างไรก็ตามรางวัลที่ถูกจับตามองมากที่สุดก็คงจะเป็นนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมที่มีดาราหญิงชื่อดัง 4 คนถูกเสนอชื่อชิงรางวัล ได้แก่ กงลี่, เจ้าเวย, ทังเวย และ กุ้ยหลุนเหม่ย แต่สุดท้ายกลายเป็นนักแสดงชาวไต้หวัน เฉิงเซียงฉี ที่คว้ารางวัลไปจากภาพยนตร์เรื่อง Exit แบบเหนือความคาดหมายเล็กน้อย โดยนักแสดงหญิงวัย 44 ปี เข้าวงการจากการเล่นหนังของ เอ็ดเวิร์ด หยาง ก่อนที่จะดังจากการแสดงหนังหลายๆ เรื่องของ ไช่หมิงเหลียง โดยหลังได้รับรางวัลเธอยังกล่าวขอบคุณ ไช่หมิงเหลียง ที่ถือว่ามีส่วนต่อความสำเร็จในวงการหนังของเธอด้วย
       
       ถือว่าเป็นอีกปีที่หนังจีนแผ่นดินใหญ่สร้างความโดดเด่นเหนือหนังไต้หวัน และฮ่องกงบนเวทีการมองรางวัลม้าทองคำ ซึ่งหลายฝ่ายยกให้เป็นรางวัล “ออสการ์สำหรับหนังภาษาจีน” ส่วนไต้หวันก็ได้รางวัลสำคัญไปหลายสาขา แม้หนังดังKANO ที่เล่าเรื่องการต่อสู้ของทีมเบสบอลระดับโรงเรียนจากไต้หวัน ในศึกชิงแชมป์เบสบอลระดับมัธยมปลายของญี่ปุ่น จะไม่ได้รับรางวัลอะไรไปเลย แต่ก็ยังได้รับรางวัลพิเศษไปสองสาขา ส่วนหนังฮ่องกงนอกจาก แอน ฮุย แล้วก็มี The Midnight After ของ ฟรุต ชาน กับหนังแอ็กชั่น As the Light Goes Out ที่ เซียะถิงฟง แสดงนำที่ได้รับรางวัลเทคนิคพิเศษ และกำกับคิวบู๊กลับบ้านไป
       
       ในงานม้าทองคำครั้งนี้ยังมีการมอบรางวัลเกียรติยศให้กับนักแสดงรุ่นใหญ่วัย 87 ปี เถียนเฟิง ที่โลดแล่นอยู่ในวงการหนังมามากกว่า 6 ทศวรรษ และฝากฝีมือการแสดงเอาไว้ในหนังคลาสสิคมากมาย ไม่ว่าจะเป็นยุคหนังขาวดำ, หนังชอว์บราเดอร์ เคยรวมงานกับทั้ง หวังหยู่, บรูซ ลี และ เฉินหลง ก่อนจะทิ้งผลงานการแสดงเอาไว้ใน Eros ของ หว่องกาไว เป็นผลงานเรื่องสุดท้ายเมื่อ 10 ปีก่อน