"โฟร์"เปิดตัวสู่โลกกว้าง ตัดสินใจไม่ผิดมีชีวิตอิสระ
2016-02-07 16:45:10
Advertisement
คลิก!!!

เป็นสาวสุดขยัน นอกจากงานในวงการบันเทิงแล้ว สาว "โฟร์-ศกลรัตน์" ยังมีธุรกิจเป็นของตัวเองด้วย

โฟร์ กล่าวว่า "ตอนนี้มีธุรกิจ 2 อย่าง ร้านดอกไม้ "มอร์นิ่ง กลอรี่ บาย โฟร์" กับสเปรย์กันแดด "โฟร์เฟซ" ที่ทำกับพี่นัท (ณัฐพล จุฬางกูร) จริงๆ ธุรกิจที่เริ่มต้นก่อนคือโฟร์เฟซ แต่ยังคิดค้นสูตรไม่ได้ ตอนนั้นใจอยากทำธุรกิจแล้ว โฟร์เป็นคนวางแผนล่วงหน้า ปีที่แล้วทั้งปีรู้ว่าจะไม่มีงานออกหน้าจอเท่าไหร่ ฉะนั้นต้องทำธุรกิจเพื่อจะได้มีช่องทางออกสื่อได้ โฟร์เลยขอลุยทำร้านดอกไม้ก่อน ซึ่งเปิดประมาณกลางปี 2557"

"ธุรกิจ ร้านดอกไม้ถือว่าไปได้ดีมาก ตอนแรกไม่คิดว่าจะมีคนตอบรับขนาดนี้ แค่คิดว่าอยากทำอะไรที่ชอบ แล้วก็มีพี่สาวมาช่วย มีช่างที่เก่ง ส่วนหนึ่งโชคดีที่โฟร์เป็นดารา โฟร์ลงทุนไปก้อนหนึ่งตอนนั้น 5 แสนบาท แรกๆ ก็เหวอว่าจะมีคนมาซื้อดอกไม้ที่ร้านได้ยังไง คนจะสั่งดอกไม้ทุกวันเหรอ แต่พอรูปแรกที่ลงไอจี เห็นคอมเมนต์ที่คนเข้ามาชื่นชมก็รู้ว่าพอจะรอดแล้ว จากนั้นก็เริ่มมีคนโทร.มาสั่ง ยิ่งคนเห็นรูปแบบที่ร้านจัดออกมาให้ดูก็โอเคมาก รวมถึงดอกไม้ที่ร้านจะเน้นสีพาสเทล ฉะนั้นเวลานึกถึงอะไรหวานๆ คนจะนึกถึงร้านโฟร์ ส่วนเรื่องขยายสาขาคงยัง ส่วนใหญ่ลูกค้าจะโทร.มาสั่งและจัดส่ง ซึ่งร้านส่งทั่วกรุงเทพฯ อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านอีกอันหนึ่งให้เปลืองค่าเช่าที่เปลืองแอร์ แต่อนาคตถ้ามีโอกาสก็อยากเปิดอีกที่ในเมืองเป็นหน้าร้านสวยๆ ให้คนมานั่งรอทำดอกไม้ได้ ส่วนธุรกิจโฟร์เฟซก็อยู่ตัวแล้วค่ะ แต่อยากให้คนชอบมากกว่านี้ก่อนค่อยเปิดตัวผลิตภัณฑ์ต่อไป"

เป็นคนทำ งานเยอะอยู่นะ โฟร์ยิ้มก่อนตอบว่า "จริงๆ ไม่รู้เลยว่าที่ตัวเองทำอยู่มันเยอะหรือน้อย แต่ตั้งแต่อายุ 16 ก็ทำงานทุกวันมาตลอดเป็นเวลาเกือบ 10 ปีจนชิน แล้วโฟร์ก็เห็นป๊าซึ่งเป็นคนทำงานคนหนึ่งที่ทำมาตลอด เลยไม่รู้สึกว่าจะต้องเหนื่อยหรือท้อ เพราะป๊าประสบความสำเร็จจนถึงทุกวันนี้ได้เพราะป๊าทำงานหนักมากและขยัน ฉะนั้นถ้าอยากประสบความสำเร็จ เหมือนป๊าโฟร์ก็ต้องขยันเหมือนกันค่ะ"

อย่างนี้เรียกว่าลูกไม้หล่นใต้ต้น

ทั้งสาวและสวย แถมยังหุ่นดี นิสัยก็แมนๆ อย่างนี้ ทำมั้ยทำไมถึงยังคงสถานะโสดอยู่ได้ สาว "โฟร์-ศกลรัตน์" รีบแจง

"หนึ่ง เลย เวลาอยู่กับเพื่อนแล้วสนุกมาก ผู้ชายเห็นคงกลัว บวกกับไม่ค่อยได้เจอสังคมใหม่ๆ หรือพอจะเปิดใจเจอสังคมใหม่ปุ๊บก็รู้สึกว่ากลุ่มนี้จะเหมาะกับเรามั้ย โฟร์ค่อนข้างเป็นคนมีกรอบให้ตัวเอง ไม่ใช่ใครชวนไปไหนไปหมด นิสัยส่วนตัวไม่ปาร์ตี้ ไม่สังคม เพราะฉะนั้นการจะเจอใครใหม่ๆ สักคนจึงเป็นเรื่องยากมาก แต่ถามว่ามีคนมาจีบมั้ย มีเหมือนกันค่ะ แต่เดี๋ยวค่อยว่ากัน ยังไม่อยากเจอหรืออยากคุย"

แย็บถามว่าแล้วกับ เด็กน้อย "ธามไท แพลงศิลป์" ล่ะ เห็นแฟนคลับก็จิ้นอยู่ น้องหนูหัวเราะ "เด็กน้อยหอยสังข์นั่นน่ะเหรอ เขาก็ดี เป็นเพื่อนเป็นน้องที่ดีมากๆ"

"อย่าง เวลาอยู่ในช่วงเสียใจหรือมีความสุข สามารถโทร.หาเขาได้ว่าอยู่ไหน ออกมาข้างนอกกินข้าวกันมั้ย ถ้าเขาว่างก็จะมา บางคนสงสัยว่าทำไมถึงจิ้นกันเยอะเพราะดูไม่น่าไปกันได้ จริงๆ โฟร์ถูกสร้างให้จิ้นกับ ธามไทตั้งแต่อยู่กามิกาเซ่แล้ว ตอนนั้นโฟร์จะมองว่าเด็กคนนี้น่ารักหล่ออนาคตไกลแน่ เลยชอบไปแกล้งเขา ส่วนเขาก็เป็นเด็ก ขี้แกล้งเหมือนกัน เลยรู้สึก แมนๆ คุยกันได้"

แต่ หลายคนมองว่าธามไทดูคิดจริงจังอยู่หรือเปล่า โฟร์ตอบแทน "โฟร์ว่าเขาไม่ได้คิดอะไรขนาดนั้น แต่ด้วยเหมือนสื่อไปจ้องปุ๊บ แฟนคลับลุ้นปุ๊บ เขาก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง หรือว่าจะต้องจีบเหรอ (หัวเราะ) ทุกวันนี้ที่ว่างก็เจอกันไปไหนมาไหน โฟร์ว่าต่างคนต่างแฮปปี้ด้วยกันทั้งคู่แล้ว ไม่ต้องมากังวลกดดันกันด้วยคำว่าแฟนค่ะ"

โอกาสพัฒนาจะเป็นศูนย์ไหม "อันนี้ไม่อยากพูดฟันธงไปเลยว่าเป็นศูนย์ แต่ถามว่าจะพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ ได้มั้ย โฟร์ว่าคงยาก เพราะเชื่อว่าเขายังมีโอกาสที่จะเจอใครรุ่นๆ เดียวกัน อย่างทุกวันนี้เวลาที่เจอกันเหมือนโฟร์อยู่ในฐานะที่สอนเขาได้ด้วย"

สเป๊ก ยังคงชอบคนหล่ออยู่เหมือนเดิม สาวโฟร์พยักหน้ารับ "ร้อยเปอร์เซ็นต์ค่ะ ให้ตายยังไงโฟร์ก็ชอบคนหล่อ นิสัยจะไม่ดีแค่ไหน ขอหน้าตาดีไว้ก่อน แม่เคยบอกว่าวันหนึ่งโฟร์จะเปลี่ยนใจ แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่เปลี่ยนใจเลยค่ะ เพียงแต่ตอนนี้อาจจะไม่ได้ต้องหล่อมากขนาดที่เคยคิดไว้ เพราะจะเริ่มดูนิสัยประกอบด้วย ถ้านิสัยเข้ากันได้ รับในความกระโดก กระเดกของโฟร์ได้ พร้อมไปเฮด้วยกันทุกที่ บวกกับหน้าตาหล่อด้วย แบบนั้นคือใช่เลยค่ะ"

คนหล่อก็น่าจะเข้ามาจีบเยอะอยู่นะ น้องหนูแย้ง "ไม่มีเลยค่ะ โฟร์เป็นคนหน้านิ่งๆ ใครไม่รู้จักก็คิดว่าหยิ่งและขี้เหวี่ยงเลยไม่กล้าเข้ามาเพราะคิดว่าคงเข้า ไม่ถึงตัว แต่โฟร์ไม่ได้ซีเรียส ไม่ได้รีบร้อนจะมีแฟน"

ดาราสาวยอมรับ สมัยอายุ 25 อยากแต่งงานมาก แต่พอมาตอนนี้ที่อายุเข้าเลขสาม เธอบอกไม่อยากแล้ว

"ตอน นี้คิดอย่างเดียว อยากทำงานให้เก่ง ดูแลตัวเองได้ก็ไม่จำเป็นต้องแต่งงานหรือมีสามี โฟร์เป็นคนซีเรียสมากนะ ถ้าสามีไปเที่ยวกลางคืนก็จะคิดแล้วว่ามีใครหรือเปล่า ระแวงไปหมด เกิดมีปัญหาขึ้นมาต้องเลิกกันก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ ฉะนั้นคิดว่าอยู่คนเดียวดีกว่า"

สุดท้ายเจ้าตัวเผยถึงนิยามความรัก ของตัวเองว่า "ความรักสำหรับโฟร์คือการเข้าใจซึ่งกันและกัน ไม่ใช่แค่เขาเข้าใจโฟร์ แต่โฟร์ต้องเข้าใจเขาด้วยค่ะ"



เริ่ม ศักราชใหม่กับชีวิตใหม่ สำหรับนักร้องสาว "โฟร์"ศกลรัตน์ วรอุไร หลังหลุดพ้นสัญญาจากบ้านเก่า "อาร์เอส" ก็ตัดสินใจก้าวสู่โลกกว้าง เป็น "นักแสดงอิสระ" 

หลัง สัมผัสชีวิตเสรีในการทำงานมาได้ 1 เดือน สาวโฟร์ก็เจียดเวลามาพูดคุย โดยนัดแนะกันที่ร้านดอกไม้ "มอร์นิ่ง กลอรี่ บาย โฟร์" ที่เฟสติวัล วอล์ค เกษตร นวมินทร์ ของตัวเอง

อัพเดตชีวิตอิสระตอนนี้หน่อย?

โฟร์ - "ดีค่ะ เรียกว่าเป็นนักแสดงอิสระมาได้หนึ่งเดือนเต็มๆ ตอนนี้มีซีรีส์จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ 2 เรื่อง "คลับฟรายเดย์ ตอนคนขี้เบื่อที่รักเธอ" และ "รุ่นพี่ Secret Love" แล้วก็มีละคร "ยุทธการสลัดนอ" ของเวิร์คพอยท์ฯ ถือว่าได้กลับมาทำงานเต็มที่อีกครั้ง พูดตรงๆ ปีที่แล้วทั้งปีโฟร์นอนตื่นบ่าย 2 แทบทุกวัน ตอนนั้นคิดว่าการไม่ทำอะไรเลยและเที่ยวอย่างเดียวแฮปปี้ดีเหมือนกัน รู้สึกดีใจที่ได้พัก หลังทำงานหนักมา 9-10 ปี ผ่านไปซักพักเริ่มรู้สึกตัวเองขี้เกียจ เลยออกไปหากิจกรรมทำกระตุ้นตัวเอง พอถึงวันที่เป็นอิสระก็เริ่มกลับมารับงานได้ คราวนี้ชีวิตการทำงานเริ่มขึ้น ต้องกลับมาตื่นตี 5 ต้องปรับเวลานอนใหม่ ส่วนเรื่องการแสดงก็โทร.ไปปรึกษาครูที่เคยเรียนแอ๊กติ้ง บางงานที่ได้รับติดต่อมาก็กลุ้มใจ ไม่รู้จะทำออกมาได้ดีหรือเปล่า เพราะจริงๆ มีอีกโปรเจ็กต์ที่ยังไม่เคยทำมาก่อนแต่รับไปแล้ว ยังพูดรายละเอียดไม่ได้"

ฟีลมันแตกต่างกันเยอะไหมกับการมีสังกัดแล้วมาเป็นอิสระ?

โฟร์ - "จะต่างตอนเวลาไปออก งานที่ตอนมีสังกัดจะมีคนล้อมหน้าล้อมหลัง แต่ตอนนี้มีกันแค่โฟร์กับพี่เบิ้ลผู้จัดการ เมื่อก่อนจะถูกดันให้ไปอยู่ข้างหน้าหรือตรงกลางตลอด แต่ตอนนี้ไม่จำเป็นแล้ว อยู่ริมๆ ก็ได้เพราะทุกวันนี้คนรู้จักโฟร์แล้ว หนึ่งปีที่ผ่านมาทำให้โฟร์เรียนรู้และโตขึ้น ทุกอย่างไม่แน่นอน ไม่จำเป็นต้องเก่งหรือดีที่สุด เอาที่ตัวเองทำได้สุดความสามารถและสบายใจก็พอ"

"คนถามโฟร์เยอะมากว่า ทำไมไม่ต่อสัญญา เหตุผลหลักคือเขาไม่ทำโฟร์มดแล้ว ทั้งที่ก่อน หน้ามีการคุยกันว่ายังทำ คุยโปรเจ็กต์เพลงและ รีเฟอเรนซ์ว่าชุดคอนเซ็ปต์เป็นแบบไหน ถ้าทำก็จะเป็นโฟร์เดี่ยวหรือมดเดี่ยว ตอนนั้นเสียความรู้สึกมาก ถ้าจะทำเดี่ยวโฟร์ไม่สะดวกใจและไม่กล้าจะออก เหตุผลหลักๆ ที่โฟร์จะอยู่ได้คือออกอัลบั้มคู่ เขาบอกมันไม่ได้แล้ว โฟร์เลยให้คำตอบไปว่างั้นขอไม่ต่อสัญญา เขาก็บอกแต่มีงานละคร สนใจมั้ย อันนี้พูดตรงๆ โฟร์เคยเล่นละครมาหลากหลายช่อง ละครเป็นโอกาสที่ดี แล้วช่อง อาร์เอส กำลังมาแรง แต่บางบทบาทที่ได้รับมันไม่ค่อยสะดวกใจจะเล่น เลยตัดสินใจงั้นลองไปเป็นอิสระดูดีกว่า ได้เลือกอะไรตามใจตัวเอง ไม่ใช่ยัดมาให้แล้วต้องเล่นๆ ซึ่งโฟร์รู้ศักยภาพตัวเองว่าความสามารถมีอยู่แค่ไหน โฟร์เล่นละครมาเกือบ 10 เรื่อง แต่คนที่เห็นโฟร์กับภาพละครน้อยมาก หลายคนยังคิดว่าโฟร์ยังใหม่กับการแสดงมาก ฉะนั้นถ้ามีโอกาสเริ่มต้นใหม่อีกครั้งต้องมีอะไรที่ดี และค่อยๆ ไต่ขึ้นไปเป็นสเต็ป"

งานร้องเพลงจะมีโอกาสได้เห็นอีกไหม?

โฟร์ - "จริงๆ ก็อยาก พยายามฝึกฝนตัวเองอยู่ เพราะโฟร์ไม่มั่นใจการร้องเพลงคนเดียว ตอนนี้พอมีเวลาว่างเลยไปลงเรียนร้องเพลง แต่โอกาสจะทำซิงเกิลเดี่ยวให้ร้องให้เต้นหรือเป็นสายร้องเพลงเก่งๆ มันไม่ใช่ตัวโฟร์ จริงๆ มีค่ายมาชวน เลยถามว่ามั่นใจในตัวโฟร์หรือเปล่า ถ้ามั่นใจในกันและกันเดี๋ยวมาคุยเรื่องความต้องการของแต่ละคนก่อนมั้ย แต่ตอนนี้สองจิตสองใจว่าทำออกมาแล้วไม่ดีก็ไม่อยากทำ เพราะเมื่อก่อนทำอัลบั้มคู่มันดีมากๆ อยากให้เก็บไว้เป็นตำนานแบบนั้นดีกว่า"

แฟนคลับโฟร์มดยังเรียกร้องอยู่ไหม?

โฟร์ - "มีค่ะ แต่จะให้ทำยังไง ถามว่าอยากร้องมั้ย ก็อยาก แต่บางทีโอกาสนั้นยังไม่มาถึง ก็บอกได้แค่ว่าถ้ามีโอกาส โฟร์กลับไปร้อง เพลงแน่ ถามว่าเสียดายมั้ยที่โฟร์มดไม่มีแล้ว ตอนแรกเสียดายมากเพราะนึกภาพไม่ออกว่าถ้าไม่มีโฟร์มดแล้วจะยังไงต่อ แต่ตอนนี้ก็ดีแล้วที่เลือกมาในทางแบบนี้"

โฟร์มดปิดตัวแล้ว แต่กลุ่มคนที่รักก็ยังมีอยู่ วันนี้ยังมีข่าวเกาเหลากับมด (ณปภัช) ออกมา กลัวแฟนคลับจะเสียใจไหมที่ปิดตัวไม่สวย?

โฟร์ - "สำหรับคนที่รักในความเป็นโฟร์มด โฟร์คงไม่มีอะไรจะพูดกับเรื่องนี้ นอกจากว่าหลังจากนี้อยากให้ดูที่ผลงาน เรื่องส่วนตัวก็อยากปล่อยให้เป็นเรื่องส่วนตัว ที่ยังไม่อยากพูดเรื่องนี้อาจจะมีคนไม่เข้าใจหรือต้องการความกระจ่าง แต่ส่วนตัวโฟร์ไม่ซีเรียสถ้าใครจะเข้าใจผิดในตัวโฟร์ เพราะคนที่รู้จักและรักโฟร์จริงๆ รู้อยู่แล้วว่าโฟร์เป็นคนยังไง เอาเป็นว่าคนที่รักโฟร์มดก็เก็บภาพความทรงจำที่ดีไว้ แล้วมองกันที่ผลงานของแต่ละคนดีกว่าค่ะ"

ถึงวันนี้ถ้าต้องเจอกับมดหรือร่วมงานกับอาร์เอสทำได้ไหม?

โฟร์ - "ได้ค่ะ ถ้าเกิดมีโอกาสค่ะ"

มีงานอะไรที่อยากทำอีก?

โฟร์ - "อยากเป็นดีเจ.ค่ะ และอยากทำรายการเกี่ยวกับแฟชั่นค่ะ"

อยู่วงการมา 14 ปี วงการได้ให้อะไรกับตัวเองบ้าง?

โฟร์ - "จริงๆ โฟร์มีความคิดความอ่านที่โตขึ้น รวมถึงมีภูมิต้านทานเยอะมากกว่าคนรุ่นเดียวกัน ตั้งแต่เด็กโฟร์เจออะไรมาเยอะมาก คนจริงใจ คนไม่จริงใจ คนเอาเปรียบ คนเสียสละ ทำให้โฟร์แยกแยะออกว่าคนไหนเข้ามาหาแบบไหน อีกอย่างโฟร์เป็นคนพูดตรงมาก ชอบหรือไม่ชอบอะไรก็พูดหมด จนวันหนึ่งมาพบว่าการพูดตรงมันทำให้คนมองว่าโฟร์เป็นเด็กก้าวร้าว ไม่มีสัมมาคารวะ ซึ่งตอนแรกไม่เข้าใจ สุดท้ายก็ค่อยๆ ปรับตัว"

แพลนชีวิตในวงการหลังจากนี้ยังไง?

โฟร์ - "ที่คิดไว้คือพยายามเลี้ยงตัวเองด้วยธุรกิจและผลงานในวงการบันเทิง อยากแสดงไปเรื่อยๆ เรียนรู้ไปทีละบทบาท มีโอกาสก็อยากทำงานเพลงอีก รวมถึงอยากลองงานใหม่ๆ อย่างการเป็นพิธีกรและดีเจ.ค่ะ"

มีเป้าหมายชัดเจนอย่างนี้ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงได้ประสบความสำเร็จ

เป็นคนมีกรอบ-คงสเป๊กหนุ่มเน้น"หล่อ"

 

 

ที่มา  ข่าวสดออนไลน์

 

 

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X