เมื่อวันที่ 10 เม.ย. เอเอฟพีรายงานสถานการณ์ความไม่สงบในฟิลิปปินส์ ว่า เกิดเหตุปะทะนองเลือดระหว่างกองทัพฟิลิปปินส์ และกลุ่มอาบู ไซยาฟ กลุ่มติดอาวุธมุสลิมสายสุดโต่ง บนเกาะบาซิลัน ทางตอนใต้ของประเทศ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 23 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ทหาร 18 นาย ในจำนวนนี้ 5 นายถูกฆ่าตัดศีรษะ และอีก 53 นายได้รับบาดเจ็บ ขณะที่นักรบกลุ่มก่อการร้ายเสียชีวิต 5 ราย เป็นชายถือสัญชาติโมร็อกโก 1 ราย และกว่า 20 คนบาดเจ็บ โดยการสู้รบยืดเยื้อนานกว่า 10 ชั่วโมงก่อนทั้งสองฝ่ายจะล่าถอยจากการสูญเสียกำลัง อย่างไรก็ตาม กองทัพจะเดินหน้านำกำลังบุกทลายแหล่งซ่องสุมของกลุ่มอาบู ไซยาฟ ในช่วง 3-4 วันข้างหน้านี้  

รัฐมนตรีกลาโหมฟิลิปปินส์เยี่ยมทหารที่ได้รับบาดเจ็บ

 พันตรีไฟล์มอน ตัน โฆษกกองทัพฟิลิปปินส์ประจำภูมิภาค เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่นำกำลังปฏิบัติภารกิจโจมตีกลุ่มอาบู ไซยาฟ หลังก่อเหตุลักพาตัวชาวต่างชาติอย่างน้อย 18 คนในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา รวมถึง เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวชาวแคนาดา 2 คน และชาวนอร์เวย์อีก 1 คนที่ถูกจับตัวไปจากรีสอร์ทบนเกาะซามัลเมื่อเดือนก.ย.ปีที่แล้ว และเพิ่งครบกำหนดเส้นตายจ่ายค่าไถ่กว่า 2,000 ล้านบาทเมื่อ 8 เม.ย. ส่วน บาทหลวงเกษียณอายุชาวอิตาลีที่ถูกจับตัวไปตั้งแต่ 6 เดือนก่อน ได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

 ขณะเดียวกันทางการระบุว่า นักรบอาบู ไซยาฟ ชาวโมร็อกโก ทราบชื่อภายหลัง คือ นายโมฮัมหมัด คัตตาบ ครูสอนศาสนาสายสุดโต่ง ซึ่งรับหน้าที่สอนการประกอบอาวุธระเบิด และเป็นมือปืนประจำกลุ่มอาบู ไซยาฟ ด้วย ทั้งนี้ กลุ่มอาบู ไซยาฟ จัดตั้งขึ้นจากเงินทุนของเครือข่ายอัล ไคด้า ในช่วงทศวรรษที่ 1990 เมื่อครั้งนายโอซามา บิน ลาเดน ยังเป็นหัวหน้า แต่ภายหลังแกนนำกลุ่มอาบู ไซยาฟ ประกาศตัวขอสิโรราบต่อนายอาบู ยักร์ อัล แบกแดดี หัวหน้ากองกำลังรัฐอิสลาม หรือไอเอส อย่างเป็นทางการเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

ที่มา  ข่าวสดออนไลน์