ยอดบริจาคฟ้อง “ทพญ.หนีทุน” วันแรกทะลัก 2 แสน! “ทพ.เผด็จ” ระดมทุนต่อ เหตุต้องใช้ ทนายความ 2 คน
2016-02-19 18:16:38
Advertisement
คลิก!!!

ความคืบหน้ากรณี ทพ.เผด็จ พูลวิทยกิจ 1 ใน 4 ผู้ค้ำประกัน ทพญ.ดลฤดี จำลองราษฎร์ อดีตอาจารย์คณะทันตแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล (มม.) ที่ขอทุนสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ไปศึกษาต่อระดับปริญญาโท และเอก ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบายความในใจกรณีต้องชดใช้หนี้ 2 ล้านบาท จากการเซ็นค้ำประกันให้ ทพญ.ดลฤดี หลังจากที่ ทพญ.ดลฤดี เรียนจบแล้วไม่ยอมกลับมาทำงานใช้ทุน และไม่ยอมชำระเงินชดใช้ทุน ทำให้ ทพ.เผด็จ และผู้ค้ำรวม 4 คน ต้องใช้หนี้จากการเซ็นค้ำประกัน 8 ล้านบาท โดยหลังจากทพ.เผด็จ ร่วมกับ 3 ผู้ค้ำประกัน มอบหมายให้คนไทยในสหรัฐ ร่างคำฟ้องเพื่อมอบทนายความในสหรัฐ ฟ้อง ทพญ.ดลฤดี พร้อมกับเปิดบัญชีระดมเงินทุนในชื่อ “นายเผด็จ พูลวิทยกิจ และ นางภัทรวดี ลีลาทวีวุฒิ” ธนาคารกสิกรไทย สาขาอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เลขที่บัญชี 009-1-77277-9 นั้น

เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ทพ.เผด็จ ให้สัมภาษณ์ “มติชน” ว่า หลังจากเปิดบัญชีและแจ้งหน้าเฟสบุ๊คไปเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ เวลา 19.00 น. นั้น เช้าวันนี้หลังจากที่นางภัทรวดี นำสมุดบัญชีไปอัพเดต ปรากฏว่ามียอดเงินเข้ามาเกือบ 2 แสนบาท ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณคนไทยทุกคน ดีใจที่ทุกคนระดมความช่วยเหลือ

“ขอบคุณทุกคนที่ช่วยพวกผมต่อสู้เพื่อความถูกต้อง ผมอยากบอกว่าเงินบริจาค จะน้อยหรือมาก ก็ไม่เป็นไร สิ่งสำคัญกว่าคือความตั้งใจที่จะช่วย แต่ผมอยากบอกอย่างหนึ่งว่า ขอให้ช่วยตามกำลัง อย่าช่วยจนตัวเองเดือดร้อนซึ่งถ้าเป็นแบบนั้น ผมคงเสียใจมากกว่า ฉะนั้นถ้าใครไม่มีกำลังทรัพย์ ก็ขอให้ช่วยเป็นกำลังใจให้กับพวกผมก็พอแล้วครับ” ทพ.เผด็จ กล่าว

เมื่อถามต่อว่า ยอดเงินวันแรกเกินความคาดหมายหรือไม่ ทพ.เผด็จ กล่าวว่า เกินความคาดหมายมาก แต่กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ตั้งใจและรอให้ตนเปิดบัญชีอยู่แล้ว ฉะนั้นจึงมีการโอนเข้ามาทันทีที่ตนแจ้งเปิดบัญชี แต่หลังจากนี้ก็คงต้องรอดูว่าหมดจากกลุ่มนี้แล้ว จะเป็นอย่างไร ซึ่งคาดว่าอาจจะไม่สูงมากนัก ดังนั้นอาจจะต้องรอดูในส่วนของการระดมทุนจากต่างประเทศ

ทพ.เผด็จ กล่าวต่อว่า สำหรับการหารือกับคนไทยในต่างประเทศและทนายความลูกครึ่งไทย-อเมริกันทางสไกป์ในเช้าวันนี้นั้น เบื้องต้นได้พูดคุยกันถึงกระบวนการทางศาลซึ่งทางนั้นให้คำตอบว่าน่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี – 1 ปีครึ่ง เมื่อถามถึงค่าใช้จ่าย ทางทนายความตอบว่าอาจจะคิดในราคาเหมารวม ซึ่งตนก็คิดว่าดีที่คิดในราคาเหมา เพราะหากต้องขึ้นศาลหลายครั้ง ค่าใช้จ่ายก็เหมารวมอยู่ในนั้นแล้ว แต่ทางนั้นได้สอบถามถึงความคืบหน้าคดีในเมืองไทย ซึ่งตนตอบว่าในส่วนของศาลล้มละลาย จะมีการพิจารณานัดแรกในวันที่ 14 มีนาคมนี้ ในส่วนของทันตแพทยสภา และสำนักงานการตรวจเงินเงินแผ่น(สตง.) ยังเงียบ ซึ่งทางนั้นบอกว่าถ้าศาลไทยมีคำพิพากษาออกมาแล้ว ก็จะช่วยทำให้คดีทางนี้มีน้ำหนักมากขึ้น โดยเฉพาะหาก สตง.ยกระดับให้เป็นคดีอาญา ก็จะช่วยเพิ่มน้ำหนัก เพราะในส่วนของเรา เป็นแค่การฟ้องแพ่ง

“จากการพูดคุยกับทนายความ พบว่าค่าใช้จ่ายไม่ได้ถูกนัก เดิมทีที่ผมคิดว่าจะอยู่ที่ 3-5 แสนบาท แต่จากการพูดคุยกับทนายความลูกครึ่งไทย-อเมริกันในวันนี้ ปรากฏว่าจะต้องใช้ทนายความอีกคนที่อยู่ในบอสตัน ส่วนทนายความลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ซึ่งพูดคุยภาษาไทยได้คนนี้ ก็จะเป็นคนกลางช่วยประสานข้อมูลกับทนายความในบอสตันให้ ฉะนั้นที่ถามว่าจะดำเนินการฟ้องร้องได้เมื่อไรนั้น ทางทนายความลูกครึ่งบอกว่าจะต้องไปปรึกษาหารือกับทนายความอีกคนในบอสตันก่อน” ทพ.เผด็จ กล่าว

ดลฤดีเบี้ยวทุน

 

ที่มา  มติชนออนไลน์

 

 






เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X