10 สุดยอดความจริงเกี่ยวกับกลิ่นตัวที่คุณอาจจะยังไม่รู้
2015-08-01 16:34:49
Advertisement
Pyramid Game

 

เมื่อพูดกันถึงกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ ที่มีผลกระทบต่อการดำรงชีวิตถึงขนาดทำให้คุณสูญเสียความมั่นใจในการเข้าสังคมกันเลยก็มี ซึ่งนอกจากความเหม็นของกลิ่นใต้วงแขนจะทำให้คุณเสียเซลฟ์ได้แล้ว มาดูความจริง 10 ประการเกี่ยวกับที่คุณอาจจะยังไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามีอะไรกันบ้างดีกว่า

 

1. กลิ่นตัวไม่ได้เกิดจากเหงื่อ

หนุ่มๆ ทราบหรือไม่ว่าเหงื่อของคนเรานั้นไร้กลิ่น แต่กลิ่นอันไม่พึงประสงค์ที่สร้างความรำคาญใจให้คุณนั้นเกิดจากการที่แบคทีเรียบนผิวหนังทำปฏิกิริยากับเหงื่อที่ร่างกายหลั่งออกมาต่างหาก ที่ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นๆ โดยเฉพาะบริเวณใต้วงแขนที่มีต่อมเหงื่ออยู่มาก

2. กลิ่นตัวบอกโรคได้นะ

มนุษย์เรานั้นมีกลิ่นตัวเป็นเอกลักษณ์ ฟังดูไม่น่าเชื่อแต่เป็นเรื่องจริงที่แต่ละคนมีกลิ่นเฉพาะตัว เรียกได้ว่าไม่ซ้ำใคร แต่กลิ่นตัวบางอย่างอาจบ่งบอกว่าคุณกำลังป่วยอยู่ก็ได้นะ ยิ่งถ้าคุณได้กลิ่นตัวแปลกๆ คล้ายกลิ่นไฮเตอร์ แปลว่าคุณอาจจะกำลังเป็นโรคตับ โรคไต อยู่ก็ได้ แต่หากคุณได้กลิ่นตัวคล้ายกลิ่นผลไม้ ส่วนใหญ่ที่พบกันก็มักจะมีอาการของโรคเบาหวาน ทางที่ดีเมื่อได้กลิ่นตัวแปลกๆ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพประจำปีกันบ้างน่าจะดีที่สุด

3. กลิ่นตัวหนุ่มๆ ดึงดูดเพศตรงข้ามนะขอบอก

มีนักวิจัยที่ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับกลิ่นเหงื่อระบุว่า สารประกอบบางตัวที่อยู่ในเหงื่อของผู้ชายนั้น มีส่วนไปกระตุ้นการสั่งการของสมองส่วนควบคุมอารมณ์และความรู้สึกทางเพศของสาวๆ เค้า ทำให้มีอารมณ์หวั่นไหว เกิดความรู้สึกปิ๊งปั๊งกับคุณทันทีที่ได้กลิ่นเลยล่ะ แต่ในกรณีที่กลิ่นตัวของคุณแรงจนเกินไป คงต้องหาผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายมาเป็นตัวช่วยลดกลิ่นลงบ้างซะแล้วล่ะ ไม่เช่นนั้นจากที่จะเป็นการดึงดูดสาว จะกลายเป็นการทำให้สาวๆ วิ่งหนีแทนซะมากกว่า

4. กลิ่นตัวมีผลต่อการเลือกคู่ของมนุษย์เรา

หากหนุ่มๆ มีความรู้สึกไม่พิศวาสกลิ่นตัวของคู่ควงของคุณขึ้นมา นั่นแปลว่าความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับเธออาจจะไปกันไม่รอดซะแล้วล่ะ ทั้งนี้ก็เพราะกลิ่นตัวของคนเรานั้นมีความสัมพันธ์กับการดึงดูดทางเพศ ซึ่งหากคุณไม่โอเคกับกลิ่นกายของอีกฝ่าย จะคบกันยาวๆ ก็อาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

ภาพจาก : legumes

5. กลิ่นตัวบ่งบอกการกินของคุณ

หนุ่มๆ ที่ชอบรับประทานอาหารเผ็ดๆ อาทิเช่น เครื่องเทศ กระเทียม หัวหอม ยี่หร่า ก็เตรียมตัวรับมือกับกลิ่นตัวแรงๆ ได้เลย เพราะอาหารกลิ่นฉุนเหล่านี้จะทำให้คุณมีกลิ่นตัวแรงนานถึง 24 ชม. หลังจากที่คุณรับประทานมันเข้าไป ใครไม่อยากเสียเซลฟ์เวลามีนัดเดทกับสาวๆ ก็พยายามเลี่ยงอาหารเหล่านี้ก่อนวันนัดล่วงหน้าซักวันสองวันก็น่าจะโอเคแล้ว

ภาพจาก : Products I Love

6. ผู้หญิงเหม็นเหมือนหัวหอม ผู้ชายเหม็นเหมือนชีส

มีนักวิจัยออกมาระบุว่ากลิ่นตัวของสาวๆ นั้นมักมีสารซัลเฟอร์เป็นส่วนประกอบอยู่ในปริมาณมาก และเมื่อซัลเฟอร์ทำปฏิกิริยากับเหงื่อก็จะทำให้เกิดกลิ่นคล้ายกลิ่นของหัวหอม ในขณะที่เหงื่อของหนุ่มๆ นั้นมีกรดไขมันเป็นส่วนประกอบในปริมาณที่สูง ซึ่งเมื่อทำปฏิกิริยากับแบคทีเรียบนผิวหนัง ก็จะทำให้เกิดกลิ่นคล้ายกลิ่นชีส ใครชอบรับประทานหอมกับชีส งานนี้คงมีเฮกันบ้างล่ะ

7. คนเอเชียมีกลิ่นตัวแรงไม่เท่าฝรั่ง

ชาวคอเคเชี่ยน และ ชาวแอฟริกัน เป็นกลุ่มชนที่มีต่อมผมและต่อมขนมากกว่าชาวเอเชีย ดังนั้นร่างกายจึงมีการผลิตเหงื่อออกมาในปริมาณที่มากกว่า ทำให้ฝรั่งส่วนใหญ่ที่มาเจออากาศร้อนๆ ของบ้านเรา ก็มักจะมีกลิ่นตัวค่อนข้างแรงกันเลยทีเดียว

8. มนุษย์เรามีกลิ่นเฉพาะตัวเช่นเดียวกับลายนิ้วมือ

ร่างกายคนเราผลิตกลิ่นออกมาเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และสัมพันธ์กับการรับประทานอาหารของแต่ละคน นอกจากนี้ลักษณะทางพันธุกรรมก็มีส่วนทำให้กลิ่นตัวของคุณนั้นไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน เช่นเดียวกับลายนิ้วมือ และ DNA ที่แต่ละคนนั้นมีไม่เหมือนกัน

9. เด็กเล็กไม่มีกลิ่นตัว

กลิ่นเหม็นๆ ใต้วงแขนอาจจะไม่เป็นปัญหาสำหรับเด็กๆ เลยจนกว่าจะเข้าสู่วัยแรกรุ่น โดยเด็กๆ จะเริ่มมีกลิ่นตัวกันได้ตั้งแต่ช่วงอายุ 8-14 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่ร่างกายเริ่มผลิตฮอร์โมนเพศชาย หรือ แอนโดรเจน ซึ่งส่งผลให้ต่อมเหงื่อเริ่มมีการผลิตกลิ่นตัวขึ้นมา

10. สาวๆ มักจมูกไวกับกลิ่นตัวมากกว่าหนุ่มๆ

หนุ่มๆ ทั้งหลายอย่าเพิ่งรำคาญเวลาสาวๆ เค้าสะกิดบอกคุณว่าแอบได้กลิ่นตัวคุณแล้วนะ เพราะมีนักวิจัยออกมายืนแล้วว่า โดยธรรมชาติแล้วสาวๆ เค้ามีความสามารถในการรับรู้กลิ่นได้ดีกว่าคุณ ดังนั้นถ้าเค้าทักคุณแล้วก็รีบหาทางจัดการกับกลิ่นอันไม่พึงประสงค์โดยด่วน ด้วยวิธีง่ายๆ เพียงแค่ใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นเหงื่อใต้วงแขนเป็นประจำหลังอาบน้ำ คุณก็จะหมดห่วงกับปัญหากลิ่นตัวแล้วล่ะ

 

ขอบคุณภาพประกอบ: http://www.pinterest.com

ขอขอบคุณที่มา  www.sanook.com

 

 

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X