เขาลาออกจากงานและเริ่มต้นท่องเที่ยวไปทั่วโลกในช่วงอายุ 30 ปี เขาเอาเงินมาจากไหน?
2015-07-20 10:12:26
Advertisement
คลิก!!!

พวกเขาทำอย่างไรในการหาเงิน 1 ล้านเหรียญ

เพื่อที่จะลาออกจากงานและเริ่มต้นท่องเที่ยวไปทั่วโลกในช่วงอายุ 30 ปี

นี่คือ เจเรมี จาคอปสัน (Jeremy Jacobson) วัย 40 ปี และวินนี่ ทเซ็ง (Winnie Tseng) วัย 36 ปี ผู้ซึ่งเกษียณอายุจากการทำงานในบริษัทที่เมืองซีแอตเทิล

ในช่วงต้นของการเกษียณอายุของพวกเรา : "ในปี 2002 ผมใช้วันหยุดจริงๆ ครั้งแรกของผมไปเที่ยวที่ประเทศฟิลิปปินส์ครับ หลังจากนั้นสามสัปดาห์ผมก็ได้ดำนำและทานอาหารทะเลที่ยอดเยี่ยม เป้าหมายในชีวิตของผมได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสมบูรณ์แบบครับ ผมต้องการที่จะทำสิ่งนี้ในทุกๆ วันตลอดชีวิตของผมเลยครับ!

ต่อจากนั้นในอีก 2 ปีต่อมา ผมขายบ้านของผม รถยนต์ และมอเตอร์ไซต์ แล้วนำเงินนั้นไปเก็บไว้ในบัญชีธนาคารของผมครับ ไม่กี่ปีต่อมา ผมได้พบกับภรรยาในอนาคตของผม เธอชื่อว่าวินนี่ครับ เธอเป็นคนที่ประหยัดมากและรักในการท่องเที่ยวครับ

พวกเราย้ายไปอยู่ด้วยกันตอนปลายปี 2005 และการใช้จ่ายของพวกเรานั้นค่อนข้างน้อย พวกเราสามารถประหยัดเงินได้มากกว่า 70% จากเงินที่ได้มาจากการทำงานของพวกเราครับ ผมเป็นวิศวกรไฟฟ้า และเธอเป็นผู้จัดการโครงการครับ

ต้องขอบคุณความประหยัดของพวกเรา ทำให้พวกเรานั้นเกษียณอายุในอีก 3 ปีต่อมา และตอนนี้ได้ทำการเปิดบล็อกเกี่ยวกับการท่องเที่ยวของพวกเราไว้ที่เว็บไซต์ 'GoCurryCracker' ครับ

เงินออมของพวกเรา : คนส่วนใหญ่ใช้จ่ายเงินของพวกเขาไปกับเรื่องของบ้าน อาหาร และการเดินทาง ดังนั้นพวกเรารู้ดีว่าการลดรายจ่ายสิ่งเหล่านี้ จะทำให้เรามีเงินใช้ในระยะยาว   

ในเมืองซีแอตเทิล พวกเราเลือกที่จะเช่าอพาร์ทเม้นท์ขนาดเล็ก ที่อยู่ใกล้เคียงกับทางเดิน ซึ่งทำให้เราไม่จำเป็นต้องใช้รถยนต์กันครับ

วินนี่เป็นคนทำอาหารเก่ง ดังนั้นพวกเราจะกินข้าวและหาเรื่องบันเทิงทำกันในบ้านเสมอๆ ครับ ถ้าพวกเราถามคุณกันว่า 'คุณต้องการที่จะออกไปทานอาหารเช้าและยอมจ่ายเงิน 50 เหรียญเพื่อทานไข่ หรือคุณอยากจะทำอาหารทานเองที่บ้านกันครับ?'  

นอกจากนั้นพวกเรายังประหยัดค่าอาหารด้วยการทำแปลงผักสวนครัว และทำกิมจิของพวกเราเอง ทำเครื่องดื่มชาหมักคอมบูชา และขนมปังที่บ้าน เพื่อประหยัดเงินของเราครับ

เสื้อผ้าของพวกเราส่วนใหญ่จะซื้อจากร้านค้าราคาถูก และวินนี่ก็ทำเครื่องประดับต่างๆ ด้วยมือของเธอเอง  

เมื่อตอนที่ผมได้เดินทางไปทำงาน ผมได้นำสบู่และแชมพูของโรงแรมกลับมาด้วย ดังนั้นพวกเราจึงไม่เคยต้องซื้อสิ่งของเหล่านี้กันเลยครับ และตอนที่พวกเราไปพักผ่อนท่องเที่ยว พวกเราก็ใช้รางวัลที่ได้มาฟรีทั้งตั๋วเครื่องบินและที่พักโรงแรมครับ   

พวกเราไม่เคยมองว่าการประหยัดเป็นการเสียสละความสุขส่วนตัว แต่มันเป็นทางที่เราจะใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพในขณะที่กำลังสร้างรังของตัวเองครับ ประหยัดเพื่อเดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดไป หรือจะซื้อของอื่นๆ ก็กลายเป็นเรื่องที่ง่ายดายครับ

ผลกระทบต่อรังของพวกเรา : ก่อนปี 2002 ผมมีค่าใช้จ่าย 5,000 เหรียญต่อเดือนในการใช้ชีวิตของตัวเองร่วมกับวินนี่ และผมใช้จ่ายเงินน้อยกว่า 2,000 เหรียญต่อเดือนในช่วงเงินออมสูงสุดของพวกเราครับ

ด้วยการประหยัดอย่างมาก พวกเราก็เห็นผลงานที่เติบโตขึ้นจนมีเงินเก็บไปแล้วมากกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐครับ ซึ่งเราคำนวนกันแล้วว่ามันเพียงพอสำหรับพวกเราที่จะเกษียณอายุในวัย 38 ปี และ 33 ปีครับ

พวกเราได้ย้ายไปอยู่กันที่ประเทศไต้หวัน ที่ซึ่งเป็นบ้านเกิดของวินนี่ครับ พวกเราเพิ่งมีลูกคนแรกเมื่อสามเดือนที่ผ่านมา เราเลือกที่จะปฏิเสธวิธีการทำเด็กในหลอดแก้วเพราะว่ามีค่าใช้จ่ายที่สูงครับ เงินจำนวนนั้นสามารถนำพวกเราเดินทางไปกลับซีแอตเทิลได้ถึง 5 รอบด้วยกันครับ

ตอนที่ลูกชายของพวกเราอายุ 6 เดือน พวกเราวางแผนที่จะออกเดินทางกันอีกครั้ง

มากกว่าปีแล้วว พวกเราควรที่จะได้ซื้อสิ่งของที่เป็นตัวแทนของความสำเร็จ อาทิ บ้านหลังใหญ่ รถยนต์สวยๆ ซักคัน นาฬิกาดีๆ แต่วัตถุประสงค์ของการซื้อสิ่งเหล่านี้คืออะไรกันครับ?

แทนที่จะทำแบบนั้น พวกเราขอเลือกเดินทางไปยังสถานที่ที่สวยงาม เช่าที่อยู่อาศัยที่หรูหรา และไม่เคยมีการตัดหญ้าในสนามหรือต้องมากังวลเรื่องการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรถยนต์ นี่ล่ะคือการใช้ชีวิตครับ"  

 

แปลจาก http://www.businessinsider.com.au

โดย http://www.popcornfor2.com

 

 

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X