คลิปโฆษณาที่กำลังเป็นที่กล่าวขวัญถึงกันมากและเป็นคลิปโฆษณาที่คนโหลดดูกันมากที่สุดในโลกอยู่ขณะนี้ คือ Dove Real Beauty Sketches หรือ "โดฟ สเก็ตช์ ความงามที่แท้จริง" เป็นคลิปโฆษณาความยาว 3 นาที 1 วินาที ตอนนี้มีคนโหลดชมทั่วโลกกว่า 114 ล้านครั้ง

เฉพาะใน YouTube มีการโหลดดูกว่า 54 ล้านครั้งหลังจากลงคลิปเมื่อวันที่ 14 เมษายน 2556 

Dove Real Beauty Sketches เป็นคลิปโฆษณาที่เรียบง่าย ไม่มีการกล่าวถึงผลิตภัณฑ์เสริมความงามยี่ห้อโดฟ แต่เชิญผู้หญิงมาหลายคนมาบรรยายถึงใบหน้าตัวเองให้กับ กิล ซาโมร่า (Gil Zamora) ศิลปินสเก็ตช์รูปผู้ต้องสงสัยที่ผ่านการฝึกสเก็ตช์จาก FBI โดยที่ต่างฝ่ายต่างไม่เห็นหน้ากัน มีผ้าขาวกั้นไว้ แต่สามารถพูดสื่อสารกันได้ 

กิล ซาโมร่า ขอให้ผู้หญิงบรรยายรายละเอียดใบหน้า ทรงผมของพวกเธอ เขาฟังไปด้วย สเก็ตช์รูปไปด้วย โดยตอนแรกพวกเธอไม่ทราบว่า กิล ซามาโร่ ถามไปเพื่ออะไร แต่สักพักก็ทราบว่าเพื่อไปสเก็ตช์รูป ซึ่งหลังจากวาดเสร็จก็ร่ำลาโดยไม่เห็นหน้ากัน

จากนั้น กิล ซาโมร่า ก็เชิญผู้หญิงอีกคนเข้ามา แล้วให้บรรยายถึงใบหน้าของผู้หญิงคนก่อนหน้าที่เพิ่งสเก็ตช์รูปเสร็จไป หลังจากเสร็จเรียบร้อยก็นำรูปสเก็ตช์ใบหน้าที่เจ้าตัวบรรยายมาเปรียบเทียบกับรูปสเก็ตช์ที่บรรยายผ่านสายตาของคนอื่น แล้วเชิญบรรดาผู้หญิงเจ้าของรูปสเก็ตช์มาดูรูปสเก็ตช์เปรียบเทียบทั้งสองรูป 

ในคลิปโฆษณา ผู้หญิงบางคนรู้สึกอึ้งถึงกับน้ำตาคลอเมื่อเห็นรูปตัวเองที่คนอื่นบรรยายซึ่งดูดี มีชีวิตชีวา มีความสุขกว่ารูปที่ตัวเองบรรยาย

ที่น่าสนใจมากก็คือใบหน้าเหมือนตัวจริงมากกว่ารูปสเก็ตช์ที่เจ้าตัวบรรยายตัวเอง

ทำให้ได้คิดว่า ผู้หญิงควรพอใจรูปร่างหน้าตาที่มีมาตามธรรมชาติให้มากกว่านี้ เพราะความรู้สึกพอใจนี้มีความสัมพันธ์กับความสุขในชีวิต การคบเพื่อน การสมัครงาน ตลอดจนการเลี้ยงดูลูก 

ผู้หญิงเราใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการหมกมุ่นแก้ไขสิ่งที่ไม่ถูกใจ จริงๆ แล้วควรจะใช้เวลาไปกับการชื่นชมในสิ่งที่ตัวเองพึงพอใจ

คลิปโฆษณานี้จบด้วยประโยคที่สั้นแต่กินใจว่า "You are more beautiful than you think." หรือ "คุณสวยกว่าที่คุณคิด"

กระแสตอบรับคลิปโฆษณา Dove Real Beauty Sketches ส่วนใหญ่เป็นไปในทางบวก จากที่อ่านคอมเม้นต์ใน YouTube หลายคนบอกว่าเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงหันมาพอใจในความงามของตัวเอง อย่ามองตัวเองในแง่ลบ เพราะความคิดว่าเราไม่สวยทำให้ชีวิตไม่มีความสุข

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับโฆษณาชิ้นนี้ออกมาแย้งว่า จริงๆ แล้ว คนส่วนใหญ่คิดว่าตัวเองสวยหรือหล่อกว่าความเป็นจริง แต่ที่ผู้หญิงในโฆษณามาบรรยายตัวเองให้สวยน้อยกว่าความเป็นจริงนั้นก็เพราะพูดอยู่หน้ากล้อง จึงไม่อยากถูกมองว่าหลงตัวเองหากบรรยายว่าสวยดูดี

ส่วนคนแปลกหน้าที่ได้รับเชิญมาให้บรรยายหน้าตาผู้หญิงนั้นก็ต้องหาจุดดีมาพูดเพื่อรักษามารยาท

คงไม่มีใครที่ไหนจะกล้าพูดต่อหน้ากล้องว่าผู้หญิงคนนี้ขี้เหร่ที่สุด 

ความสวย ความงามนั้นอยู่ที่สายตาของผู้มอง หรือที่ฝรั่งมีสำนวนว่า "Beauty is in the eye of the beholder." ความงามขึ้นอยู่กับรสนิยมของแต่ละคน ดังนั้น ผู้หญิงสวยไม่จำเป็นต้องขาว ผอม 

ความแตกต่างของหน้าตา รูปร่าง สีผิว ถือเป็นเรื่องสวยงามและเป็นเสน่ห์ของมนุษย์ แต่การที่สังคมตั้งบรรทัดฐานความงามเอาไว้ ทำให้ผู้หญิงที่มีอัตลักษณ์แตกต่างออกไปรู้สึกว่าตัวเองมีปมด้อย

จากการสุ่มสำรวจผู้หญิงทั่วโลกของโดฟ พบว่าผู้หญิง 4 เปอร์เซ็นต์ คิดว่าตัวเองสวย 

ที่น่าตกใจยิ่งกว่านี้ก็คือ ผู้หญิงไทยเพียง 1 เปอร์เซ็นต์ คิดว่าตัวเองสวย ทั้งๆ แต่ละวันใช้เวลา 24 นาทีไปกับการประทินโฉม ในขณะที่โดยเฉลี่ยผู้หญิงเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ใช้เวลาประมาณ 19 นาที

แม้จะใช้เวลานานไปกับการเสริมแต่งรูปลักษณ์ภายนอก แต่กลับไม่ช่วยให้ตัวเองรู้สึกพอใจในรูปร่างหน้าตาของตัวเอง 

ดังนั้น ผู้หญิงควรที่จะปรับเปลี่ยนวิธีเสริมความงามเสียใหม่ โดยเริ่มจากทำจิตใจให้สวย พอใจกับความงามตามธรรมชาติในแบบฉบับของเรา

cr. พิศณุ นิลกลัด : มติชน
https://www.facebook.com/Clip55