“จีจี้” หุ่นยนต์กำจัดเชื้ออีโบลา – เกาหลีเหนือห้ามนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ
2014-10-26 13:24:48
Advertisement
คลิก!!!

หลังมีการระบาดของโรคอีโบลาขนาดหนัก ล่าสุดได้มีแนวคิดที่มีการนำหุ่นยนต์ “จีจี้” มากำจัดเชื้อโรค โดยเมื่อ 23 ต.ค. มติชนออนไลน์รายงาน ถึงหุ่นยนต์ “จีจี้” ว่า เป็นหุ่นยนต์ที่ถูกออกแบบมาสำหรับการทำลายเชื้อโรคในพื้นที่จำกัดโดยเฉพาะ อย่างเช่น ในวอร์ด หรือตามห้องผู้ป่วยของโรงพยาบาล อาวุธสำคัญของมันคือแสงอัลตราไวโอเลต (ยูวี) ที่มีความเข้มข้นสูงกว่าแสงแดดปกติราว 25,000 เท่า จีจี้ทำความสะอาดห้องให้ปราศจากเชื้อได้ดีกว่าการทำความสะอาดด้วยมือคน เหตุผลหนึ่งเป็นเพราะแสงยูวีที่ส่องออกมาจากตัวมันนั้นสามารถแทรกเข้าไปฆ่าเชื้อได้ในทุกๆ ตารางนิ้วของพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นใต้เตียงผู้ป่วย หรือตามรอยพับหรือกลีบผ้าม่านต่างๆ เป็นต้น ภายในระยะเวลา 5-10 นาที ดีเอ็นเอของเชื้อโรคที่มีอยู่ในห้องดังกล่าวจะถูกทำลายเสียหายร้ายแรงจนไม่สามารถแบ่งตัวได้ และตายไปในที่สุด

นายแพทย์ เรย์ คาสซิอารี ผู้เชี่ยวชาญโรคติดเชื้อที่ปอดของโรงพยาบาลเซนต์โจเซฟ ในเมืองออเรนจ์ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งใช้หุ่นยนต์ฆ่าเชื้อโรคแบบนี้อยู่ ยอมรับว่าการทำความสะอาดฆ่าเชื้อด้วยคนนั้น สามารถทำความสะอาดได้สูงสุดแค่ 85 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งไม่เพียงพอ แต่จีจี้สามารถจัดการเชื้อโรคได้เกือบหมดจดคือ 99.99 เปอร์เซ็นต์

จีจี้เป็นผลงานการพัฒนาของ ซีเน็กซ์ ดิสอินเฟคชั่น เซอร์วิส ผู้ให้บริการอุปกรณ์และกรรมวิธีฆ่าเชื้อโรคในเมือง ซานตันโตนิโอ รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ตอนนี้มีใช้อยู่ในโรงพยาบาล 250 โรงทั่วสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อจากภายในสถานพยาบาล ซึ่งสำนักงานควบคุมและป้องกันโรค (ซีดีซี) ระบุว่า เป็นสาเหตุทำให้คนอเมริกันเสียชีวิตมากถึงวันละกว่า 200 คน จากจำนวนผู้ป่วยที่ติดเชื้อในโรงพยาบาลทั้งหมดที่สัดส่วน 1 คนในทุกๆ 25 คน ในปี 2011 มีผู้ติดเชื้อในลักษณะนี้ถึง 722,000 คน

มีรายงานจากลูกค้าของซีเน็กซ์ 30 ราย ระบุว่า จีจี้สามารถลดการติดเชื้อในสถานพยาบาลของตนลงระหว่าง 20-53 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

ซีเนกซ์ระบุว่า หุ่นยนต์ของตนเป็นเพียงรายเดียวเท่านั้นที่ใช้หลอดซีนอนในการสร้างแสงยูวี อุปกรณ์ฆ่าเชื้อด้วยแสงยูวีทั่วไปที่มีใช้กันมานาน ใช้หลอดที่สร้างแสงยูวีจากไอระเหยของสารปรอท ซึ่งนอกจากเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังจำเป็นต้องวอร์มเครื่องเป็นชั่วโมงเป็นอย่างน้อย และใช้เวลาทำความสะอาดอีกนับชั่วโมง ต่างจากจีจี้ที่ใช้เวลาทั้งหมดไม่เกิน 10 นาที

จีจี้กลับมาอยู่ในความสนใจสูงอีกครั้งหลังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลา โดยนอกจากจะได้รับความสนใจจากสถานพยาบาลแล้ว สายการบินต่างๆ ก็ให้ความสนใจเพื่อนำมันไปใช้งานเช่นเดียวกัน

นอกจากนั้น เมลินดา ฮาร์ท โฆษกของซีเนกซ์ ระบุว่า ทางบริษัทกำลังหารืออยู่กับทางกระทรวงกลาโหมและองค์กรเพื่อบรรเทาสาธารณภัยต่างๆ เพื่อดูว่าจะจัดส่ง และนำจีจี้ไปใช้งานในประเทศต่างๆ ในแอฟริกาตะวันตกได้อย่างไร ที่ไหนบ้าง รวมถึงการฝึกอบรมเพื่อให้แน่ใจว่า จีจี้ สามารถทำงานได้ตามมาตรฐาน

ขณะเดียวกัน เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจรายงาน บริษัทนำเที่ยว 3 แห่งที่จัดท่องเที่ยวเกาหลีเหนือประกอบด้วยบริษัทที่กรุงปักกิ่งและเมืองซีอานของจีน และบริษัทที่กรุงลอนดอนของอังกฤษ ได้แจ้งไปยังลูกค้าในวันนี้ว่า เกาหลีเหนือจะปิดประเทศงดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติมเนื่องจากกังวลเรื่องเชื้ออีโบลา ยังไม่ชัดเจนว่ามาตรการนี้มีผลถึงเจ้าหน้าที่และนักธุรกิจต่างชาติที่จะเดินทางเข้าเกาหลีเหนือด้วยหรือไม่ ด้านบริษัทนำเที่ยวจีน 3 แห่งที่อำเภอปกครองตนเองหยานเปียน ซึ่งมีคนเชื้อสายเกาหลีอยู่เป็นจำนวนมากและมีชายแดนทางใต้ติดกับเกาหลีเหนือเผยว่า ยังไม่ได้รับแจ้งจากเกาหลีเหนือแต่อย่างใด

จนถึงขณะนี้ มีเพียงบางประเทศที่ห้ามผู้เดินทางมาจากประเทศที่มีอีโบลาระบาด แต่เกาหลีเหนือถือเป็นประเทศแรกที่ห้ามชาวต่างชาติเข้าประเทศทั้งหมด อย่างไรก็ดี เกาหลีเหนือเคยมีมาตรการเช่นนี้มาก่อนในปี 2546 เมื่อครั้งโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (ซาร์ส) ระบาด โดยงดรับทัวร์ต่างชาติเป็นเวลา 3 เดือน

 

ที่มา  http://thaipublica.org/

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X