“บุ๋ม” ระดมอัยการ-มูลนิธิช่วยดัน กม.ข่มขืนต้องประหาร หดหู่ “ไอ้เกมส์” ไม่สำนึกสักนิด
2014-10-03 22:59:34
Advertisement
คลิก!!!

“บุ๋ม” เปิดใจนาทีศาลตัดสินประหารชีวิต “ไอ้เกมส์” หดหู่ฆาตกรหน้าไม่สลดเลยสักนิด ซ้ำตอนสืบพยานยังหัวเราะจนศาลถามว่าไม่สำนึกเลยหรอ เผยไม่ได้ดีใจกับผลการตัดสินเพราะคดียังไม่สิ้นสุดสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อฎีกาได้อีก พ้อทำไมคนผิดมีโอกาสเยอะจังในขณะที่น้องแก้มไม่ได้รับโอกาสนั้นเลย ลั่นจะไม่ยอมให้กระแสสังคมหายไป เตรียมปลุกระดมทนายความ-อัยการ-มูลนิธิช่วยผลักดันกฎหมายข่มขืนต้องประหารให้ถึงที่สุด
       
       จากเหตุการณ์สุดสลด กรณี “น้องแก้ม” เด็กหญิงวัย 13 ปี ถูกฆาตกรใจโหด “นายวันชัย แสงขาว” หรือ “ไอ้เกมส์” พนักงานปูเตียงการรถไฟลงมือข่มขืนและฆ่าบนรถไฟเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา นอกจากจะทำให้ครอบครัวของน้องแก้มหัวใจสลายแล้วเหตุการณ์นี้ยังได้สร้างความสะเทือนใจให้กับสังคมเป็นอย่างมาก มีการแสดงความคิดเห็นรวมถึงโพสต์ข้อความเรียกร้องไปยังเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบต่อบ้านเมืองให้มีการเพิ่มโทษคดีข่มขืนเพื่อให้สาสมกับสิ่งที่คนผิดกระทำลงไปและจะได้เกรงกลัวไม่มีใครกล้าทำผิดอีก ซึ่งหนึ่งในคนดังที่ทนไม่ไหวก็คือ “บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” ที่ลุกขึ้นมาเป็นแกนนำล่า 1 แสนรายชื่อเพื่อยื่นให้แก้กฎหมายเพิ่มโทษข่มขืนต้องประหารและได้มีการดำเดินการยื่นหนังสือและรายชื่อดังกล่าวไปแล้วนั้น ทั้งนี้บุ๋มไม่ได้แค่เป็นแค่หัวเรี่ยวหัวแรง แต่เจ้าตัวยังเดินทางไปร่วมฌาปณกิจศพน้องแก้มด้วย เช่นเดียวกันในวันที่ศาลหัวหินตัดสินพิพากษาประหารชีวิตไอ้เกมส์บุ๋มก็เดินทางไปฟังคำตัดสินด้วยตนเอง งานนี้ทำเอาเจ้าตัวอึ้งที่ฆาตกรไม่มีสีหน้าสำนึกใดๆ เลย พร้อมเผยส่วนตัวไม่ได้ดีใจกับผลการตัดสินเพราะคดียังไม่สิ้นสุดสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อฎีกาได้อีก พ้อทำไมคนผิดมีโอกาสเยอะจัง ลั่นจะไม่ยอมให้กระแสสังคมหายไป เตรียมปลุกระดมทนายความ-อัยการ-มูลนิธิช่วยผลักดันกฎหมายข่มขืนต้องประหารให้ถึงที่สุด
       
       “บรรยากาศช่วงตัดสินค่อนข้างจะตึงเครียดมาก เพราะเราเองก็ไม่รู้ว่าผลจะเป็นยังและเป็นห่วงสุขภาพของแม่น้องแก้มมากกว่า เพราะท่านน้ำหนักลงมา 8 กิโลฯ ผอมมากและนอนไม่หลับทุกคืนบุ๋มเครียดตรงนั้นมากกว่า แต่ในส่วนของผลการตัดสินบุ๋มยังเชื่อมั่นใจกระบวนการยุติธรรมอยู่ ซึ่งตอนแรกบุ๋มคิดว่าอาจจำคุกตลอดชีวิต เพราะก่อนหน้านี้ที่มีการสืบพยานบุ๋มไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่าเกมส์สารภาพอะไรยังไง เพิ่งได้มาฟังวันนั้นเลยกว่า 2 ชั่วโมงที่ฟังถึงได้รู้รายละเอียดทั้งหมดอย่างละเอียดยิบเลย บรรยากาศในห้องพิจารณาคดีเครียดมากเพราะโดยกระบวนการกว่าศาลจะพูดคำพิพากษาได้ต้องย้อนอดีตหลายรอบมาก ย้อนว่าน้องแก้มโดนบีบคอยังไง โดนค่อมยังไง อวัยวะเพศช้ำตรงไหนกี่เซ็นต์ แล้วคนเป็นแม่ฟัง 4-5 รอบ น้ำตาพรากทุกรอบ ตรงนี้มากกว่าคือจุดที่ทำให้อึ้ง”
       
       “ดังนั้นความอึ้งตรงนี้ผมการตัดสินจะเป็นยังไงไม่สนแล้วล่ะ บุ๋มถึงไปเขียนในอินสตาแกรมบุ๋มไงว่าไม่ได้ดีใจเลยกับผลที่เกิดขึ้น แต่มันอึ้งมากกว่าว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้มันไม่ควรเกิดขึ้นตั้งแต่แรกด้วยซ้ำไป น้องแก้มควรได้เดินในสังคมเพราะน้องเป็นเด็กดี ครอบครัวน้องแก้มควรจะมีรอยยิ้ม ครอบครัวของเกมส์เองก็ควรจะมีรอยยิ้ม เพราะวันนั้นครอบครัวของเกมส์ก็ร้องไห้นะเขาก็คงเป็นห่วงลูกหลานเขา แต่สิ่งที่บุ๋มรู้สึกแย่ก็คือเกมส์ไม่มีสีหน้าเครียดหรือสำนึกอะไรเลย ตอนสืบพยานมีขำด้วย ศาลยังพูดเลยว่าไม่สำนึกเลยหรอ ศาลพูดแบบนี้เลยนะ มีสื่อถ่ายสีหน้านั้นไปได้ด้วย สีหน้านั้นคือสีหน้าคนรู้สึกผิดเหรอ คงเป็นเพราะมีคนบอกเขาว่าจำคุกตลอดชีวิตและมีอภัยโทษยังไงไม่เกิน 15 ปีได้ออก คงมีคนไปบอกเขาอย่างนั้น”
       
       “เห็นแบบนั้นแล้วบุ๋มอึ้ง คือสำนึกหน่อยก็ดีเราจะได้เห็นใจกันบ้าง จะได้ไม่รู้สึกผิดในสิ่งที่ฉันทำในตอนนี้(หัวเราะ) พอเขาทำหน้าไม่สำนึกบุ๋มก็เอาเถอะศาลตัดสินยังไงก็ตามนั้นทำให้บุ๋มคิดแบบนี้เลย เพราะบางคนก็บอกว่าประหารก็ตายง่ายไปมั้ย แต่เราก็ไม่รู้จะเก็บไว้ทำไมไง ในเมื่อข้าวทุกจานก็ภาษีเรานะ แต่ก็เอาเถอะมันเป็นกระบวนการยุติธรรมว่าถ้ามีการตัดสินว่าจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารมันต้องมีการยื่นในศาลต่อไปแม้ว่าจำเลยไม่ได้อุทธรณ์ก็ตามเพื่อเป็นการยืนยันว่าศาลชั้นต้นยุติธรรมหรือเปล่า”
       
       ลั่นไม่ได้ดีใจกับผลการตัดสินเพราะคดียังไม่สิ้นสุด ฆาตกรสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อฎีกาได้อีก พ้อทำไมคนผิดมีโอกาสเยอะจัง ลั่นจะไม่ยอมให้กระแสสังคมหายไป เตรียมปลุกระดมทนายความ-อัยการ-มูลนิธิช่วยผลักดันกฎหมายข่มขืนต้องประหารให้ถึงที่สุด
       “ศาลตัดสินออกมาแบบนี้ความรู้สึกบุ๋มแปลกตรงที่ไม่ได้ดีใจอะไรเลย เพราะหนึ่งมันยังไม่ไฟนอล มันยังมีอุทธรณ์ มีฎีกา ต่อให้ฎีกาแล้วยืนตามนี้ก็ยังสามารถถวายฎีกาอีก โอ้ยทำไมโอกาสในชีวิตมันเยอะจังวะ ทำไมคนนึงที่พยายามเรียกร้องเพื่อความยุติธรรมเพื่อความเป็นธรรมทำไมมันเหนื่อยจัง ทำไมมันต้องดิ้นรนสู้ขนาดนี้ทั้งๆ ที่น้องแก้มสู้จากการที่โดนบีบคอไปรอบนึงจนเธอฟื้นขึ้นมาเธอโดนอุดปากรอบที่สอง ทำไมโอกาสในชีวิตเธอไม่ได้ แล้วทำไมคนที่ทำผิดที่วางแผนขนาดนี้มันได้โอกาสในชีวิตเยอะจัง”
       
       “บุ๋มก็เลยไม่เข้าใจความยุติธรรมในบ้านเราแม้กระทั่งตอนที่ญาติน้องวิ่งไปแจ้งความตำรวจ ตำรวจบอกหนีตามผู้ชายรึเปล่า คุณลุงของน้องแก้มต้องวิ่งไปเอไอเอสเพื่อขอลิสต์โทรศัพท์ว่าโทร.ออกหาผู้ชายเบอร์ไหนบ้างมั้ย เพื่อไปยืนยันกับตำรวจว่ามันไม่มี นี่คือความเป็นธรรมสำหรับเหยื่อเหรอ บุ๋มอึ้งตั้งแต่ตำรวจสืบสวนยังไง อึ้งตั้งแต่ไปฟังรายละเอียดในการข่มขื่นว่าเขาวางแผนยังไง อึ้งที่เห็นสีหน้าของเกมส์ อึ้งในบรรยากาศทั้งหมดมันเลยพูดไม่ออก อะไรมันจะเกิดก็ช่างมันเพราะวันนั้นเป็นห่วงแค่แม่น้องแก้ม”
       
       “จริงๆ แล้ววันตัดสินแม่น้องแก้มไม่ต้องการที่จะไป แต่ที่บุ๋มไปเพราะหนึ่งเราอุตส่าห์รวบรวมรายชื่อและมีคนส่งชื่อมาร่วมสนับสนุนเราเป็นแสนกว่าคนมันก็ต้องดูผลจนถึงที่สุด จริงๆ บุ๋มมีงานที่ต่างจังหวัดเสร็จงานบุ๋มก็ตีรถไปคืนนั้นเลยเพื่อให้ทันไปศาลตอนเช้า แต่การไปครั้งนี้ดีตรงที่ทำให้บุ๋มได้เรียนรู้อะไรเยอะมากเกี่ยวกับการตัดสินในประเทศไทย ทำให้เราเห็นช่องโหว่ของกฎหมายหลายอย่าง อย่างที่บุ๋มทำไปแล้วก็คือการยื่นรายชื่อที่ยื่นไปแล้ว แต่ขั้นตอนหลังจากที่รายชื่อทั้งหมดเข้า สนช. บุ๋มกำลังรวบรวมนักวิชาการเพราะผู้ใหญ่อาจจะเห็นบุ๋มเป็นแค่ดาราคนนึงทำด้วยอารมณ์ บุ๋มก็เลยจะรวบรวมนักวิชาการ ทนายความ อัยการ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ และกลุ่มคนที่ทำมูลนิธิต่างๆ เพราะกลุ่มคนเหล่านี้อยู่ในเรื่องของข่มขืนมานานมากเป็น 20-30 ปี แต่ไม่เคยอ้าปากได้เสียงดังเลย”
       
       “บุ๋มไม่ใช่คนแรกที่ยื่นรายชื่อนะ มีคนยื่นก่อนบุ๋มมานานหลายปีแล้วแต่โดนถีบตกตลอด ดังนั้นบุ๋มจะเป็นกระบอกเสียงให้แต่บุ๋มจะไม่ไปยุ่งบุ๋มจะเป็นกลางให้มากที่สุด แล้วให้นักวิชาการเห็นว่าช่องโหว่มันมีอะไรบ้างจะได้ไม่ต้องไปเริ่มต้นจากศูนย์เพราะมันจะช้า เราก็จะทำเป็นข้อๆ เสนอไปเลย อย่างเช่น ณ ปัจจุบันการข่มขืนผู้หญิงอายุต่ำกว่า 15 ปี กับ ผู้หญิงที่อายุมากกว่า 15 ปี โทษไม่ต่างกันเลย เราได้มีการพูดคุยกันไว้แล้วเพียงแต่ที่ผ่านมาบุ๋มรอให้เคสน้องแก้มตัดสินให้เห็นภาพก่อนว่าอะไรเป็นอะไร บุ๋มขอเรียนรู้ก่อนกระบวนการก่อนเพราะบุ๋มเป็นคนที่ถ้าจะทำอะไรจะเอาจริง”
       
       เผยมีคนไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ตนทำหาว่าทำเกินไปเพราะโทษประหารรุนแรงไป บอกถ้าไม่คิดจะทำผิดก็ไม่เห็นต้องกลัวโทษพวกนี้เลย
       “อย่างสิ่งที่บุ๋มทำก็มีคนบอกว่าการประหารมันรุนแรงเกินไป บอกว่าการประหารไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูกต้อง งั้นบุ๋มขอถามสักคำว่าถ้าคุณคิดว่าโทษประหารรุนแรงไป แล้วโทษเกี่ยวกับยาเสพติดโทษสูงสุดก็ประหารชีวิตเหมือนกัน แล้วทำไมโทษอันนั้นบุ๋มไม่เห็นจะกลัวเลยเพราะบุ๋มไม่คิดจะขายถูกป่ะ คนที่ทำลายประเทศชาติประหารเลย ที่คิดอย่างนี้ได้เราไม่กลัวเพราะเราไม่คิดจะทำไง เหมือนกันข่มขืนโทษประหารชีวิตคุณกลัวอะไรถ้าคุณไม่คิดจะทำ คนสมัยนี้ตัณหากลับขึ้นทุกวัน อายุ 80 ไปข่มขืนคนอื่นก็ยังมี เราต้องปกป้องคนหมู่มากที่เค้าไม่ได้ทำผิดค่ะ บุ๋มถึงงงไงว่ากลัวอะไรกับโทษประหาร บุ๋มถึงพยายามจะทำให้ดีที่สุดเพราะบุ๋มไม่ใช่มูลนิธิ ไม่ใช่นักการเมืองและไม่เคยคิดจะเล่นการเมืองด้วย”
       
       รณรงค์เรื่องนี้ แต่ “บุ๋ม” กลับถูกจวกว่าชอบแต่งตัวโป๊ทำให้เป็นต้นเหตุของการเกิดคดีข่มขืนในสังคม กับเรื่องนี้เจ้าตัวซัดเป็นข้ออ้างของคนทำผิด ก่อนตอกแบบตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อมว่า ถ้าดูรูปตนแล้วเกิดอารมณ์ก็ช่วยตัวเองไปสิไม่ใช่ไปข่มขืนคนอื่น
       “ตอนนี้เวลาว่างของบุ๋มกลายเป็นงานช่วยสังคม เคสนั้นเคสนี้เข้ามาหมดเลย มันเหนื่อยแหละแต่บุ๋มคิดว่าชื่อเสียงที่บุ๋มได้มาจากที่ประชาชนให้ แล้วความรู้ของเราที่เรียนมาขนาดนี้แล้วมีสามารถช่วยสังคมได้บุ๋มก็จะทำต่อไป แต่ก็มีคนที่ต่อว่าเราเอารูปถ่ายแบบของบุ๋มมานั่งกระแนะกระแหน ขอถามหน่อยบุ๋มแต่งตัวเซ็กซี่แล้วยังไงอ่ะ คุณก็ช่วยตัวเองกับรูปพี่ไปดิ แต่ไม่ใช่ไปข่มขืนเด็ก มันคนละเรื่องนะ ถ้าจะโยนความผิดให้บุ๋มแบบนี้บุ๋มก็อ้างได้ว่าไปขโมยของบ้านคุณเพราะบ้านคุณรวย ถูกป่ะ บุ๋มมองว่ามันเป็นข้ออ้างของคนทำผิด”
       
       “กรณีของเกมส์บุ๋มบอกเลยว่าจะไม่ยอมให้กระแสสังคมหายไป ตอนนี้บุ๋มให้คนยืนถือป้าย ฆ่าข่มขืนกี่ศพแล้วกี่ศพเล่ากฎหมายไทยทำไมไม่แก้ ซึ่งตอนนี้มีคนถือป้ายนี้แล้วแฮซแท็กมาเป็นร้อยแล้วเริ่มเป็นกระแสแล้วค่ะ นี่คือกระแสที่เราจะไม่ยอมให้มันหายไป และเราจะบอกศาลว่าเราจะคอยติดตามอยู่เสมอค่ะ ส่วนตัวบุ๋มเชื่อในกระบวนการของศาลอยู่แล้ว แต่ถ้ากระแสสังคมมีการทำให้มีการพิจารณารวดเร็วมากยิ่งขึ้น ถ้ากระแสสังคมทำให้เกิดความยุติธรรมและมีการระแวดระวังในเรื่องการตัดสินโทษมากขึ้นเราก็จะมีกระแสสังคมต่อไป ในเมื่อสิ่งนี้มันทำให้เกิดความยุติธรรมในสังคมค่ะ”
 
“บุ๋ม” ระดมอัยการ-มูลนิธิช่วยดัน กม.ข่มขืนต้องประหาร หดหู่ “ไอ้เกมส์” ไม่สำนึกสักนิด
"บุ๋ม" กับครอบครัวของน้องผู้เสียชีวิต ในวันที่เดินทางไปฟังคำตัดสินของศาลหัวหิน

http://www.manager.co.th

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X