|
มีผู้ใหญ่หลาย ๆ ท่านเคยกล่าวเอาไว้ว่า "ชีวิตคู่" เปรียบเหมือน "ลิ้นกับฟัน" กระทบกระทั่งกันเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้าปล่อยให้กระทบกันบ่อย ๆ เข้า เป็นไปได้ที่จะเกิดแผล และนำไปสู่ปัญหาความขัดแย้งที่รุนแรงตามมาได้
วันนี้ ทีมงาน Life & Family มีแนวทางคลี่คลายความขัดแย้งจาก ดร.นพ.ยุทธนา ภาระนันท์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาการให้คำปรึกษาและเวชศาสตร์ครอบครัว อีกหนึ่งท่านที่ใช้หลักอหิงสามาเป็นตัวช่วยลดความขัดแย้งในชีวิตคู่ ซึ่งเป็นแนวทางที่ท่านมหาตมะ คานธี นักปราชญ์ชาวอินเดียได้แปรความรู้สึกโกรธแค้นจากเหตุการณ์สังหารหมู่ให้กลายเป็นความรักสามัคคีในหมู่ชาวอินเดีย ซึ่งให้คุณค่าความรักเป็นอันดับหนึ่ง
โดยหลักอหิงสาที่ว่านี้ ประกอบด้วย ความรัก ความอดทน ความกล้าหาญ ความบริสุทธิ์ และ ความซื่อสัตย์ โดย "ความรัก" ถือเป็นหนึ่งใน 5 ที่ทรงพลังมากที่สุด และสามารถนำมาประยุกต์ใช้เพื่อลดความความขัดแย้งในครอบครัวได้ดี โดยเฉพาะความขัดแย้งในชีวิตคู่เพื่อให้แต่ละฝ่ายรู้จักบังคับตัวเองไม่ให้โกรธง่าย รู้จักให้อภัย มีใจถ่อมสุภาพ และเป็นคนรอบคอบมีวิจารณญาณ
อย่างไรก็ดี เพื่อให้เห็นภาพ และง่ายต่อการนำไปประยุกต์ใช้ ดร.นพ.ยุทธนา ได้สรุปแนวทางลดความขัดแย้งออกเป็นช่วง ๆ ดังต่อไปนี้
*** ช่วงข้าวใหม่ปลามัน
คู่แต่งงานใหม่ หรือที่ใครหลายคนเรียกกันว่า "ข้าวใหม่ปลามัน" ความขัดแย้ง ส่วนใหญ่จะอยู่ที่การปรับตัวเข้าหากัน ซึ่งบางคู่มีลักษณะที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัด เช่น สามีเป็นคนเจ้าระเบียบตรงกันข้ามกับภรรยาที่เก็บของไม่ค่อยเป็นที่เป็นทาง บางครั้งทำให้เกิดปัญหาขัดแย้งตามมาได้ ดังนั้น ควรคุย และใช้วิธียืดหยุ่น โดยฝ่ายหนึ่งอาจลดความเจ้าระเบียบลงหน่อย ขณะที่อีกฝ่ายควรปรับปรุง และพยายามจัดเก็บข้าวของให้เป็นที่ โดยเฉพาะของใช้ส่วนรวม
นอกจากนั้นแล้ว ในช่วงข้าวใหม่ปลามัน การที่ใครบางคนจะทำผิด ทำพลาด หรือทำให้ผิดหวังย่อมเกิดขึ้นได้ เพราะอยู่ในช่วงของการเรียนรู้ร่วมกัน ดังนั้น ควรใช้ความรักมองสิ่งดี ๆ ในตัวคู่ชีวิตมาเป็นอันดับแรกก่อนการตัดสินว่าใครผิดหรือถูก เพราะไม่เช่นนั้นอาจนำมาซึ่งอารมณ์โกรธ และตามมาด้วยความขัดแย้งได้ง่าย
เมื่ออยู่กินกันมาสักระยะหนึ่ง ความรักอาจไม่หวานแหววเหมือนตอนแต่งงานกันใหม่ ๆ ในช่วงนี้ อาจเกิดการหย่าร้างได้สูง หากทั้งสองฝ่ายไม่อดทน และซื่อสัตย์ต่อกัน เพราะด้วยการเปลี่ยนแปลงของช่วงวัย และสิ่งเร้าต่าง ๆ ทำให้อารมณ์แปรปรวนได้ง่ายจนยากที่จะยอมรับเหตุการณ์ร้าย ๆ ที่เกิดขึ้นว่าเป็นเรื่องสุดวิสัย ไม่มีใครเจตนาให้เกิดขึ้น ทางที่ดี พยายามมองเหตุการณ์ร้าย ๆ แต่ละเรื่องที่เกิดขึ้นว่ามีสิ่งดีบางอย่างแอบแฝงอยู่ อย่างกรณีสามีเริ่มกลับบ้านดึกบ่อยขึ้น แทนที่จะบ่น หรือคอยจับผิดว่าจะไปมีกิ๊ก หรือนอกใจไปมีภรรยาน้อย คุณในฐานะภรรยาควรเชื่อในส่วนดีในตัวสามี และมองย้อนกลับไปคิดถึงความรู้สึกดี ๆ ในวันแรกที่ได้รักกัน |
|||||
ยกตัวอย่างเช่น (A) คุณค่ะ ฉันชอบที่คุณขยันทำงานหาเลี้ยงครอบครัว (B) แต่ระยะหลังมานี้ คุณกลับบ้านดึกบ่อยขึ้น (C) ทำให้คุณดูเพลีย ๆ และดูไม่สดชื่นเลย (D) ฉันรู้สึกเป็นห่วงค่ะ (E) มีอะไรที่ฉันพอจะช่วยคุณได้ ขอให้บอกนะคะ คุณจะได้กลับบ้านเร็วขึ้น และพักผ่อนเต็มที่ *** ช่วงหมดโปรแต่ไม่หมดรัก ปิดท้ายกันที่คู่รักรุ่นใหญ่ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกันจนเข้าสู่วัยที่มีประสบการณ์มากขึ้น แต่กระนั้นก็ยังไม่วายที่จะเกิดความขัดแย้งขึ้นได้ เพราะต่างฝ่ายต่างมีอายุมากขึ้นก็เริ่มเข้าสู่โหมดอารมณ์ของคนอ่อนไหว และน้อยใจง่าย ดังนั้นจึงต้องให้กำลังใจ พร้อมกับชื่นชม โอบกอด และมีการบอกความรู้สึก ๆ ต่อกันอยู่เสมอ คงต้องยอมรับว่า ความขัดแย้งในชีวิตคู่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา หากทั้งสองฝ่ายใช้ "ความรัก" หรือความรู้สึกดี ๆ ที่มีต่อกันเป็นตัวนำอารมณ์ในการแก้ปัญหา เชื่อว่าความขัดแย้งจะคลี่คลายลงไปได้มาก |
ที่มา http://www.manager.co.th/