|
เมื่อพูดถึงปัญหาแตกหักในครอบครัว นอกจากความขัดแย้ง และปัญหาต่าง ๆ ภายในบ้านแล้ว อีกหนึ่งปัญหาที่หลาย ๆ ครอบครัวกำลังเผชิญอยู่ก็คือ การแตกหักกันเองเพราะคนอื่น เนื่องจากเข้าไปยุ่งเกี่ยวมากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวญาติพี่น้อง ครอบครัวเพื่อน จนลืมมองไปว่า ครอบครัวตัวเองก็มีเรื่องวุ่น ๆ กวนใจมากพออยู่แล้ว
เห็นได้จาก "อิ๋ว" แม่บ้านลูก 3 วัย 48 ปี จ.สมุทรปราการ เปิดใจแบบตรงไปตรงมาผ่าน ทีมข่าว Life & Family ว่า เธอกับสามีไม่ค่อยทะเลาะกันเรื่องในบ้านสักเท่าไร แต่ทะเลาะกันเพราะครอบครัวคนอื่นมากกว่า โดยเฉพาะครอบครัวญาติทางสามีที่จะเข้ามาปรึกษา และขอหยิบยืมเงินอยู่บ่อยครั้ง จนจับได้ว่าสามีแอบส่งเงินไปให้ ทำให้เธอโกรธ และมีปากเสียงกัน เนื่องจากครอบครัวยังมีภาระที่ต้องใช้จ่ายอีกมาก แต่สามีกลับมองข้าม และเห็นครอบครัวพี่น้องสำคัญกว่า
ไม่ต่างจากภรรยาของ "ศักดิ์" คุณพ่อลูก 1 วัย 51 ปี ที่ชอบเอาปัญหานอกบ้านเข้ามาเป็นปัญหาในบ้านตลอด และชอบเก็บมาเป็นอารมณ์คอยจับผิดคนในบ้าน เช่น เพื่อนบ้านคนหนึ่งจับได้ว่าสามีแอบไปกิ๊ก ก็มาจับพิรุธสามีตัวเองว่ากลับดึก ๆ เพราะแอบนอกใจ จากนั้นก็เชื่อมโยงเรื่องราวต่าง ๆ นานา จนเกิดความไม่สบายใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย และเป็นชนวนเหตุให้เขา และภรรยาทะเลาะกันอยู่บ่อยครั้ง จากกรณีตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริงข้างต้น เชื่อว่าหลาย ๆ ครอบครัวคงเคยเจอเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวนี้กันมาบ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งบางคนรู้ว่าควรยืนอยู่จุดไหนถึงจะเหมาะสม ในขณะที่บางคนล้ำเส้นมากเกินไป จนนำปัญหาของคนอื่นมาเป็นประเด็นความขัดแย้งในครอบครัวตัวเอง |
|||||
อย่าเป็นกระดาษซับทุกข์ให้ใคร การให้คำปรึกษา หรือช่วยเหลือครอบครัวคนอื่น เช่น เพื่อน ญาติ เป็นหน้าที่ที่ดี แต่ถ้าหากครอบครัวมีเรื่องวุ่น ๆ ให้คิดมากอยู่แล้ว การช่วยเหลือมากเกินไป อาจเพิ่มความทุกข์ให้มากขึ้นได้ ดังนั้นต้องดูกำลังของเราด้วย อย่าเป็นกระดาษซับทุกข์ให้คนอื่น เช่น มีเพื่อน หรือญาติป่วยด้วยโรคร้าย และจำเป็นใช้เงินรักษา ซึ่งเป็นทุกข์ของเขา เราในฐานะญาติ หรือเพื่อน อย่าเอาความทุกข์มาเป็นของเรา หรือเที่ยวไปหยิบยืมเงินคนโน้นคนนี้จนทำให้คนในบ้านเกิดอาการ "ปรี๊ดแตก" เพราะปัญหาตัวเองยังเอาไม่รอดเลย ทิ้งปัญหาไว้นอกบ้านบ้างก็ดี ขึ้นชื่อว่าเพื่อนมนุษย์คนหนึ่ง การทำหน้าที่ให้คำอธิบาย เป็นที่ปรึกษา หรือรับรู้ปัญหาของครอบครัวเพื่อนฝูง และญาติพี่น้องเป็นสิ่งที่ทำได้ แต่ทำแล้วต้องทิ้งไว้นอกบ้านด้วยนะ ไม่มาเก็บเป็นอารมณ์ หรือเก็บมาเป็นประเด็นคอยจับผิดคนในบ้าน เพราะนอกจากจะไม่สบายใจด้วยกันทั้งสองฝ่ายแล้ว อาจนำไปสู่ความขัดแย้งในบ้านตามมาได้ เพราะฉะนั้น การกำหนดทิศทางของชีวิต เจ้าของชีวิตเป็นตัวกำหนด ทุกปัญหาย่อมมีทางออก เราไม่สามารถไปคาดหวัง หรือกำหนดให้เขาเป็นอย่างนั้นได้ "ชีวิตเป็นของแต่ละคน ต้องรับผิดชอบกันเอง เรามีทุนทางชีวิตมาไม่เท่าทัน เพราะฉะนั้น การช่วยเหลือคนอื่นที่ไม่ใช่คนในบ้านเราโดยที่เราไม่ทุกข์ มีอยู่หลายทาง เช่น เป็นเพื่อนทุกข์ ให้มิตรภาพ ให้เวลา และให้น้ำใจ สิ่งไหนช่วยได้ควรทำอย่างเต็มกำลัง แต่ถ้าทางออกกันไม่ได้ การให้ปัญญากับเขาเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะแนะตัวเลือก หรือชี้ทางให้ลองไปหาคนนั้นคนนี้ดู โดยให้เขาพิจารณาวิธีแก้ไขด้วยตัวเอง ไม่ใช่ไปทุกข์ หรือเดือดร้อนแทนเขาทุกเรื่อง" ผู้มีประสบการณ์ทำงานด้านเด็ก และครอบครัวฝาก ดังนั้น คงต้องยอมรับว่า บางเรื่องของครอบครัวคนอื่น โดยเฉพาะญาติพี่น้องไม่ว่าจะฝ่ายไหน หากเข้าไปยุ่งเกี่ยว หรือเข้าไปช่วยแก้ปัญหามากเกินไป อาจนำไปสู่ความขัดแย้งในครอบครัวตัวเองได้ ทางที่ดี ควรช่วยอย่างพอดี และพองามดีกว่าเดือดร้อน หรือเป็นทุกข์เพราะปัญหาของคนอื่น |
ที่มา http://www.manager.co.th/