สตีฟ แม็คควีน

เอเอฟพี - ภาพยนตร์ขวัญใจนักวิจารณ์ Shame จะไม่ได้ฉายให้ชาวสิงคโปร์ได้ชมกันแล้ว หลังกองเซ็นเซอร์สั่งให้มีการตัดฉาก “เซ็กซ์หมู่สามคน“ หรือ “ทรีซัม“ ในหนังออกไป บริษัทผู้จัดจำหน่ายเปิดเผยถึงเรื่องนี้เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

Shame ผลงานของผู้กำกับชาวอังกฤษ สตีฟ แม็คควีน ที่ส่งให้กับคณะกรรมการสังกัดหน่วยงานพัฒนาสื่อของสิงคโปร์ (MDA) ตรวจพิจารณา ต้องลงเอยด้วยการได้รับเรต R21 ซึ่งหมายความว่าหนังจะอนุญาตให้ผู้มีอายุ 21 ปีขึ้นไปชมเท่านั้น นอกจากนั้นก็ยังต้องตัดบางส่วนของหนังออกไปด้วย

“พวกเขาไม่ได้ขอให้ตัดทั้งฉากออกไปหรอกนะคะ แต่รู้สึกว่าฉากนั้นมันยาวเกินไปเท่านั้น“ โฆษกหญิงของ Cathay-Keris Films บริษัทที่รับจัดจำหน่ายหนังเรื่องนี้ในสิงคโปร์กล่าวถึงฉากที่มีปัญหาของหนัง

“คุณแม็คควีนรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งสำคัญ ที่งานของเขาต้องถูกถ่ายทอดด้วยความตั้งใจเดิม เพราะฉะนั้นเขาจึงขอปฏิเสธ ไม่ตกลงให้ตัดหนังไม่ว่าส่วนหนึ่งส่วนใดออก“ ตัวแทนผู้จัดจำหน่ายกล่าวกับเอเอฟพี

“เราเคารพการตัดสินใจของเขา และทำให้ไม่สามารถเผยแพร่หนังเรื่องนี้ผ่านทางโรงภาพยนตร์ของสิงคโปร์ได้“

Shame ซึ่งได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลหนังสหราชอาณาจักรโดดเด่นแห่งปี ในงานแจกรางวัล BAFTA มีนักแสดงหนุ่มยอดฝีมือ ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์ แสดงนำ ซึ่งเขายังถูกเสนอชื่อเพื่อชิงรางวัลนักแสดงนำชายทั้งของ BAFTA และลูกโลกทองคำด้วย กับการสวมบทบาทเป็นตัวละคร “แบรนดอน ซัลลิแวน“ ชายหนุ่มผู้มีปัญหาเสพติดเซ็กซ์

สำหรับ MDA ไม่ได้ให้ความเห็นใดๆ กับการสอบถามของเอเอฟพี แต่ให้ข่าวผ่านทาง Straits Times ว่า “เราเห็นว่าฉากเซ็กส์ทรีซัมที่มีความยาว และค่อนข้างจะเปิดเผย ถือว่าละเมิดกฎระเบียบข้อบังคับของเรา“

ฝ่ายนักวิจารณ์ชาวสิงคโปร์ อเล็กซ์ อู๋ ให้ความเห็นโจมตีการตัดสินใจของ MDA ที่สั่งตัดหนังด้วยเหตุผลฉากเซ็กซ์กินเวลานานและวาบหวามเกินไป ว่าเป็นคำอธิบายที่ไม่ชัดเจน และขัดต่อจุดยืนของภาครัฐซึ่งมักจะแสดงออกว่าต้องการให้ประเทศก้าวไปสู่แถวหน้าของประชาคมโลกอยู่เสมอ

“เรามักจะคุยโวว่าเป็น 'ประเทศโลกที่หนึ่ง' หรือไม่ก็พูดถึงการแข่งขันในด้านต่าๆ ผลักดันทั้งไอ้โน่นไอ้นี่ให้เป็น 'ระดับโลก' ขณะเดียวกันกลับมีแนวทางระเบียบปฏิบัติที่เป็นเผด็จการแบบนั้น, มันเป็นเรื่องขัดแย้งกัน
ชัดๆ“

เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วสำหรับกฎระเบียบการฉายภาพยนตร์ รวมถึงเผยแพร่สื่อต่างๆ ที่เข้มข้นของสิงคโปร์ รวมถึงเรื่องที่ว่าแม้แต่ขณะนี้ ก็ยังมีการแบนนิตยสารชื่อดังอย่าง Playboy

แต่สำหรับกรณีของวงการหนัง เห็นได้ชัดว่าระยะหลังกฎระเบียบต่างๆ ก็ถือว่าผ่อนคลายไปมาก แต่ยังมีประเด็นล่อแหลมบางอย่าง ที่ยังคงถือเป็นสิ่งต้องห้ามในประเทศ อาทิ ผลงานที่มีเนื้อหาขัดต่อวัฒนธรรมประเพณีพื้นฐานของสังคม, ผลประโยชน์ของประเทศ หรือขัดต่อความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของชาติพันธุ์ และศาสนาต่างๆ ซึ่งทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของเนื้อหาที่มีการเฝ้าระวังเป็นพิเศษ อย่างที่ระบุไว้ในเว็บไซต์ของคณะกรรมการเซ็นเซอร์

http://www.manager.co.th