“ตั๊ก มยุรา” รับชอบดุและตีกรอบลูกสาว “น้ำตาล” เผยลูกสาวสวยยิ่งห่วงมากกลัวคนมาจีบ ปลื้มลูกตั้งใจเรียน แต่กลัวอนาคตหากไม่มีตนลูกจะอยู่ยังไง เพราะไม่เคยปล่อยไปไหนตามลำพัง บอกมีคนทาบทามเข้าวงการ แต่ลูกไม่ชอบ
       
       หลังจากที่พิธีกรสาว “ตั๊ก มยุรา เศวตศิลา” ประสบอุบัติเหตุเมื่อหลายสิบปีก่อน ทำให้ไม่สามารถมีลูกได้ เจ้าตัวจึงขอ “น้ำตาล ณัชชา เศวตศิลา” ซึ่งลูกสาวของน้องชายมาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม เนื่องจากแม่ของเด็กเสียชีวิตตั้งแต่เล็ก ซึ่งปัจจุบันน้ำตาล อายุได้ 17 ปีแล้ว แถมยังสวยอีกด้วย สบโอกาสได้เจอพิธีกรคนรุ่นเก๋าในงานเปิดตัวรายการเรียลิตี “Smart Lady Thailand” ณ สยามพารากอน เจ้าตัวก็ยอมรับว่าชอบดุและตีกรอบลูกสาว เพราะห่วงมาก กลัวคนมาจีบ
       
       “ห่วงสิ ลูกเราน่าห่วงที่สุดเลย เพราะเขาเป็นสาว เป็นเด็กที่มีคาแร็กเตอร์ แล้วก็หน้าตาดี ก็น่าเป็นห่วง แต่ลูกเราไม่ค่อยสร้างปัญหา ถึงแม้ว่าอายุ 17 บางทีเวลาเราไปข้าวกับลูก เราก็อัปรูปลงไอจี ก็มีคอมเมนต์ว่าเราแรง ประมาณว่า หัดอย่าบ่นอย่าดุลูกแบบนี้ดีแล้ว แต่เขาไม่รู้หรอกว่าการดุ การว่า แล้วก็ขีดกรอบ แล้วก็สอนเขา เราก็ยิ่งมั่นใจว่าเขาเป็นเด็กที่อยู่ในกรอบ ไม่ใช่หัวไปทางหางไปทาง เราว่าไม่ได้นะสำหรับเด็กในยุคปัจจุบัน แต่เราก็จะมีอารมณ์ปล่อยบ้าง”
       
       “ก็กลัวคนมาจีบมากที่สุด คือเคยมีรุ่นพี่ในโรงเรียนมาจีบ เราก็พยายามทำตัวเป็นเพื่อน ก็ถามว่า ลูกพี่คนนั้นไปไหนแล้วล่ะ เขาบอกหนูไม่เอาแหละ เราก็ถามว่าทำไม เขาก็บอกว่าพี่เขาดูไม่เป็นสุภาพบุรุษ เวลาไปโรงเรียนถือของหนักๆ ก็ไม่ช่วยถือ เวลากินขนมก็นั่งเฉยๆ ไม่ควักสตางค์ เราก็ตายแหละ สิ่งที่เราสอนลูกมันได้ผล ลูกเราเอาไปใช้ คือไม่รู้นะว่าผิดหรือถูก แต่ดีใจที่ลูกเราดูออกเรื่องความเป็นสุภาพบุรุษ อย่างน้อยเขารู้ว่าคำว่าสุภาพบุรุษคือต้องช่วยถือของ”
       
       “คือเด็กผู้หญิงก็ต้องใกล้ชิด เพราะฉะนั้นก็เลยมองภาพออกว่า ไอ้การที่เรามีลูกนั้นดีนะ ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เบ่งเอง คือเราเลี้ยงเขามาตั้งแต่เล็กเราก็รู้สึกว่าเขาเหมือนลูก เพราะเราให้ทั้งความเมตตาและความรัก”
       
       ปลื้มลูกสาวตั้งใจเรียน แต่หวั่นใจอนาคต หากไม่มีตน ลูกจะอยู่ยังไงเพราะไม่เคยปล่อยไปไหนตามลำพัง
       “แต่เรื่องเรียนเราไม่ห่วงเพราะว่าเขาขยัน เขาตั้งใจ แต่ห่วงว่าในอนาคตถ้าไม่มีเราจะอยู่ยังไงเพราะว่าเราไม่ปล่อย ลูกไปไหนเองไม่เป็น คืออายุ 17 ไม่เคยไปไหนเองถ้าไม่มีแม่ไปส่ง หรือไม่ก็เป็นพ่อ พี่ชาย ต้องไปส่งไปรับ แล้วเขาจะออกไปไหนมาไหนน้อยมาก 2 เดือนหน อย่างเวลาเขามาดูหนังที่พารากอน เราก็บอกตามเวลานะส่ง 11 โมง เราก็ถามหนูจะกลับกี่โมง เขาบอก 4 โมงเย็น คือไปดูหนังกินข้าวกับเพื่อนที่เรารู้จัก ก็เหมือนอยู่ในสายตา พอ 4 โมงเย็นเราก็ไปรับ นี่คือข้อดีของเขา ที่เป็นคนรู้จักรับผิดชอบและตรงต่อเวลามาก”
       
       บอกมีคนทาบทามเข้าวงการ แต่ลูกไม่ชอบ
       “มีค่ะ มีมาชวนเล่นละคร แต่เขาไม่เอา คือเป็นเด็กประหลาด งงมากเลย ทำไมเขาไม่ได้เลือดเรา เขาชอบเรื่องอาร์ต ศิลปะ ดีไซน์ ขนาดคนมาถามเขา เขาก็เฉยๆ ไม่ได้ตื่นเต้นอะไร เขาก็จะบอกว่า หนูไม่ชอบ เท่านี้แหละ ก็จะเป็นที่รู้กันว่าเขาไม่เอา ถามว่าเขาขี้อายไหม เราว่าไหมนะ ขนาดเขาไปดูพี่ออกรายการเขาก็เฉยๆ แล้วเขาก็ขอว่าไม่ขอไปดูอีก คือถ้าเด็กชอบมันจะตามไง แต่จริงๆ เราก็ไม่อยากให้ลูกอยู่ในวงการนะ พูดตรงๆ นะเราอยากให้เขาเรียนหนังสือมากกว่า เพราะไม่อย่างนั้นเขาต้องห่างการเรียน เหมือนเด็กบางคนที่ต้องทิ้งการเรียนไปเดือนนึง”
       
       เปิดใจเรื่องลูกสาวคนสวยเสร็จ เจ้าตัวก็อัปเดตผลงานล่าสุดของตนเองให้ฟังอีกว่ามีละคร 3 เรื่อง
       “มี 3 เรื่อง มีสามีตีตรา ทรายสีเพลิง และรักจัดเต็ม เป็นช่วงที่ชีวิตที่เหนื่อยมาก ขนาดถ่ายสามีตีตราจบไปแล้วนะ เหมือนจะว่างแต่ก็ไม่ว่าง ถ่ายเกือบ 7 วันเลย แล้ววันละ 3 งาน ทำให้นอนน้อยมาก นอนแค่วันละ 4-5 ชั่วโมง บางทีเราก็มีอารมณ์บ้าง แต่เราต้องพยายามอดทนให้ได้ ก็คิดว่าปีหน้าคงต้องปรับแล้วล่ะ เพราะว่าผู้หญิงนอนน้อยไม่ดี ก็ต้องหาเวลาพักผ่อนให้เต็มที่และออกกำลังกาย”

http://www.manager.co.th