"พ่อ" ยื่นคำขาดถ้า "จา" ไม่กลับบ้านก็ไม่ต้องเป็นพ่อลูกกัน
2013-06-18 15:30:43
Advertisement
คลิก!!!

“พ่อจา พนม” นำทีมครอบครัวออกรายการโทรทัศน์ ยันไม่ได้ทำร้ายร่างกายลูกแค่เกิดอาการเท้าดีดเท่านั้น ลั่นจะมาตามหาลูกเป็นครั้งสุดท้าย ถ้ายังเห็นว่าเป็นพ่อก็ให้กลับบ้านถ้าไม่เห็นว่าเป็นพ่อก็ไม่ต้องกลับ ด้านพี่สาว - พี่ชาย จา พนมเผยที่พ่อต้องป่วยแบบนี้ก็เป็นเพราะว่าจาไม่กลับบ้านไปไหว้ปะกำ ส่วนแม่ร้องไห้อยากให้ลูกกลับบ้านไปเยี่ยมพ่อ
       
       หลังจากที่ “ทองดี ยีรัมย์” พ่อของ “จา พนม ยีรัมย์” ตกเป็นข่าวออกหมัดใส่เข่าลูกที่วัดพนัญเชิงวรวิหาร จังหวัดอยุธยา โดยเมื่อวันก่อน “หัทยา ยีรัมย์” พี่สาวของจาก็ออกมาเปิดเผยกับบันเทิงผู้จัดการออนไลน์บอกว่า พ่อทำแบบนั้นเพราะสั่งสอนลูก และในวันนี้(17/มิ.ย./56) ครอบครัวจาได้พากันเดินทางไปแจ้งความที่สภ.พระนครศรีอยุธยา โดยระบุว่าเมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมาได้มาพบจา พนมที่วัดพนัญเชิงวรวิหาร และสังเกตว่าจามากันหลายคน ได้คุยกับลูกชายไม่ถึง 5 นาที กลุ่มคนเหล่านั้นก็ได้พาตัวลูกชายหายไปและติดต่อไม่ได้อีกเลย จึงได้มาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
       
       จากนั้นเวลา 18.00 น. ครอบครัวของจาก็ได้เดินทางมาบันทึกเทปรายการไนน์เอนเตอร์เทน ที่ช่อง 9 อสมท. โดยมีข่าวว่า พ่อของจาเป็นผู้ออกมาให้สัมภาษณ์เปิดใจถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นครั้งแรก แต่เมื่อถึงเวลาบันทึกเทปปรากฏว่าพ่อของจาเป็นลมไม่สามารถบันทึกเทปได้ จึงนั่งพักที่ห้องรับรองมีเพียง “รินทร์ ยีรัมย์” แม่ของจา , “หัทยา ยีรัมย์” พี่สาวของจา และ “ทวีศักดิ์ ยีรัมย์” พี่ชายของจามาให้สัมภาษณ์ในรายการแทน
       
       โดยแม่ พี่สาว และพี่ชายจาได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า พ่อไม่ได้ทำร้ายจาเป็นแค่การสั่งสอนจานิดเดียวเท่านั้น และเพพ่อใช้เท้าเพราะพ่อนอนลุกไม่ขึ้น พ่อจาป่วยเป็นโรคความดันเพราะเส้นในสมองร้าว 3 เส้นจะเครียดและกดดันไม่ได้จะทำให้ยกขายกแขนไม่ได้ ที่มานี่ก็ไม่ได้หวังเงินทองทุกคนในครอบครัวมีอาชีพสามารถหาเลี้ยงตัวเอง แต่ต้องการให้จามาพบพ่อเพราะพ่อไม่สบายมากแต่ที่ผ่านมาจาก็ไม่เคยไปหาและไม่เคยติดต่อกลับไป พอโทรมาหาก็ติดต่อไม่ได้โทรเข้าเครื่องภรรยาของจาก็ไม่มีการรับสายและบางครั้งก็ตัดสาย โดยแม่ได้เคยกล่าวตัดพ้อให้พี่สาวจาได้ยินว่า ถ้าเข้าวงการแล้วทำให้แม่ทุกข์ใจแบบนี้ไปเป็นคนธรรมดาอยู่บ้านนอกคอกนาดีกว่าอบอุ่นมากกว่า
       
       เผยเมื่อก่อนจาเป็นคนกตัญญูนอบน้อมถ่อมตนแต่ปัจจุบันตั้งแต่แต่งงานก็เฉยชากับพี่น้อง ไม่รู้ว่าเกิดอะไรกับจาเหมือนโดนอะไรครอบงำ ไม่รู้ทำไมจาไม่ยอมกลับบ้าน พร้อมทั้งยืนยันว่าไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกับจา มีเพียง “แวว” น้องสาวของจาที่ไม่ถูกกับบุ้งกี๋ และทางด้านน้องสาวของจาก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรแต่คิดว่าฝั่งของบุ้งกี๋คงจะมี พร้อมทั้งกล่าวว่าบุ้งกี๋เปลี่ยนไป ก่อนแต่งงานจะทำตัวดีซื้อข้าวของส่งไปให้ตลอดโดยที่ทางครอบครัวของจาไม่ได้เรียกร้อง แต่พอแต่งงานไปกลับเปลี่ยนไปเหมือนมีผลประโยชน์แอบแฝง
       
       อย่างไรก็ตามภายหลังบันทึกเทปรายการเสร็จขณะที่กองทัพผู้สื่อข่าวกำลังสัมภาษณ์แม่ พี่สาว และพี่ชายของจาอยู่นั้น ก็ได้รับแจ้งจากทีมงานรายการว่า ขณะนี้พ่อของจาอาการดีขึ้นแล้วจึงอยากจะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนสั้นๆ โดยพ่อได้เปิดใจถึงเหตุที่ชกต่อยลูกว่าไม่เป็นความจริง
       
       วันนั้นได้มีการพูดคุยขอให้จากลับบ้านแต่จาบอกว่าติดงานแม้จะให้กลับแค่วันเดียวก็ไม่ได้ จากนั้นจาก็เข้าไปสวมกอดทำนองหยอกเย้าพ่อเหมือนที่เคยทำ เท้าของพ่อจาก็เลยดีดไปโดนลูก ไม่ได้โมโหคิดจะทำร้ายแต่เป็นอาการอย่างหนึ่งตั้งแต่สมัยที่ฝึกมวยมา ใครจะลงไม้ลงมือกับลูกแบบนั้น
       
       พร้อมทั้งกล่าวว่าทางครอบครัวของบุ้งกี๋กีดกันไม่ให้พบหน้าจา และที่มาวันนี้ไม่ได้สนใจเรื่องผลประโยชน์ รู้แค่ว่าตนเองป่วย ที่ผ่านมาไม่เคยเรียกร้องผลประโยชน์ ไม่ได้ต้องการ สิ่งที่ต้องการคือให้จากลับไปครอบครัว เพราะจาเคยฝึกเคยครอบครูมาแล้วหลายครูกว่าจะได้มาเป็นโทนี่จา แต่จาไม่มาครอบครู 2 ปีแล้ว ทำให้พ่อต้องไปครอบแทน พอพ่อไปครอบแทนก็เลยเจ็บป่วย ประกาศวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่ตามหาจาต่อไปจะตามหาอีกแล้ว ถ้าคิดว่าเป็นพ่อลูกกันก็ขอให้กลับบ้าน ถ้าไม่เป็นพ่อลูกก็ไม่ต้องไป แต่อย่างยืนว่าไม่ได้ตัดพ่อตัดลูก

 

http://www.manager.co.th

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X