Caught in the Web หนังจีนตีแผ่สังคมออนไลน์

ผู้กำกับชื่อดังชาวจีนแผ่นดินใหญ่กำลังจะมีผลงานใหม่ ที่คราวนี้เขาหันหลังให้กับแนวทางอันถนัด และสร้างชื่อให้กับคนเองมานาน กับหนังในแบบย้อนยุคอลังการงานสร้าง และเปลี่ยนมาจับหนังร่วมสมัยกับประเด็นทางสังคมซึ่งกำลังเป็นที่พูดถึงเกี่ยวข้องกับอินเตอร์เน็ตแทน

เฉินข่ายเกอ ควงคู่ภรรยาสาวคนสวย เฉินหง ผู้รับตำแหน่งผู้อำนวยการสร้างให้หนังทุกเรื่องของเขา พร้อมด้วยทีมนักแสดงที่ประกอบไปด้วย เหยาเฉิน, จ้าวโหย่วถิง, หวังสวีฉี, หวังลั่วตัน และเฉินหรัน ในการร่วมเปิดตัวหนังเรื่อง Caught in the Web ในงานแถลงข่าวซึ่งจัดกันในกรุงปักกิ่งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ขาดแต่เพียง เกาหยวนหยวน แฟนสาวในชีวิตจริงของ จ้าวโหย่วถิง เท่านั้นที่ไม่ได้มาร่วมงาน

ตัวของ เฉินข่ายเกอ ถือเป็นผู้กำกับในรุ่นที่ 5 ของจีนที่โด่งดังคู่มากับ จางอี้โหมว และมีผลงานเด่นคือ Farewell to My Concubine ที่เคยคว้ารางวัลสูงสุดในเทศกาลหนังเมืองคานส์มาแล้ว นอกจากนั้นก็ยังโด่งดังเป็นพิเศษกับการสร้างหนังแนวย้อนยุคไม่ว่าจะเป็นหนังที่ว่าเรื่องราวในยุคโบราณอย่าง Sacrifice, Emperor and The Assassin และ The Promiseหรือที่ว่าด้วยประวัติศาสตร์ยุคใหม่อย่าง Forever Enthralled

แต่สำหรับ Caught in the Web เฉินข่ายเกอ เลือกที่จะจับประเด็นร่วมสมัย กับเรื่องราวของชีวิตมนุษย์ภายใต้อิทธิพลของอินเตอร์เน็ต อย่างที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในระยะหลังเมื่อโลกออนไลน์กลายเป็นเหมือนศาลเตี้ยตัดสินความผิดของผู้คน และส่งผลกระทบไปถึงชีวิตของคนผู้นั้นจริง ๆ

ในเรื่อง เกาหยวนหยวน สวมบทบาทเป็นเลขาสาว ที่ชีวิตต้องดิ่งลงเหวหลังคลิปภาพที่ถ่ายจากบนรถประจำทาง ได้เสนอให้เห็นพฤติกรรมที่เธอไม่ยอมลุกให้ผู้สูงอายุนั่ง จนถูกนำเผยแพร่ผ่านทางเน็ต และยิ่งเป็นกระแสขึ้นไปอีกเมื่อ นักข่าวสาว (เหยาเฉิน) นำคลิปดังไปเผยแพร่ เพื่อความสำเร็จทางหน้าที่การงานของตนเอง จนทำให้เลขาสาวถูกวิจารณ์อย่างหนักจากชาวเน็ต แต่ฝ่ายนักข่าวไม่ได้หยุดเพียงเท่านั้น เธอกับลูกน้อง (หวางลั่วตัน) ทั้งขุดคุ้ยเรื่องราวส่วนตัว รวมถึงเรื่องในอดีต กลายเป็นข่าวลือมากมาย

ถือว่า Caught in the Web ได้รับความสนใจจากหลายฝ่ายทันที กับการจับประเด็นที่กำลังเป็นกระแสในสังคมยุคใหม่ กับการพิพากษาความผิดคนผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ และพฤติกรรมที่เรียกว่า "flesh searches" หรือการตามหาบุคคลในอินเตอร์เน็ต เพื่อการลงโทษทางสังคม แม้จะยังไม่ได้มีการพิสูจน์ความจริงใด ๆ เลย

โดยหนังมีกำหนดลงโรงฉายในจีน 6 ก.ค. นี้

ข้อมูลจาก

http://www.manager.co.th