อดีตไอดอลเผยถึง 7 เหตุผลที่ไอดอลตัดสินใจออกจากต้นสังกัดของพวกเขา

ทุก ๆ ปีวงการ k-pop จะมีกลุ่มไอดอบที่ตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับต้นสังกัด อย่างไอดอลที่ร่วมงานกันมานานถึง 7 ปีอย่าง GOT7 ก็ตัดสินใจออกจาก JYP Entertainment ยกวง จนชาวเน็ตต้องมองอีกมุมหนึ่งถึงเหตุผลที่ไอดอลตัดสินใจออกจากต้นสังกัด

ทีน่า อดีตสมาชิกวง Blady ได้อัพโหลดคลิปลงยูทูปเผยถึงเหตุผลที่ไอดอลไม่ต่อสัญญากับต้นสังกัด มีอะไรบ้างมาดูกัน

ไม่ได้เงิน

ช่วงแรกหลังจากเดบิวท์ ไอดอลจะต้องทำงานโดยไม่ได้เงินเพื่อจ่ายคืนบริษัทที่ลงทุนกับพวกเขาตั้งแต่ไอดอลเหล่านั้นเป็นเด็กฝึก แต่ไอดอลหลายคนเผยว่าพวกเขาไม่ได้รับเงินแม้แต่วอนเดียวจากต้นสังกัดแม้จะอยู่ในวงการมาหลายปี

ทีน่าเผยว่ามีไอดอลอีกหลายวงที่ชาวเน็ตไม่รู้จักเพราะพวกเขาไม่ค่อยได้ไปออกรายการเพลง ดังนั้นไอดอลเหล่านี้จึงต้องดิ้นรนหาเงินมาสานฝันการเป็นไอดอลต่อไป แต่ด้วยทรัพยากรทางตัวบุคคลและเงินมีจำกัด ไอดอลวงไหนมีรายได้น้อยก็เสี่ยงที่จะต้องยุบวงทันทีที่หมดสัญญา

ไม่มีวี่แววว่าจะดัง

ชาวเน็ตอาจเชื่อว่าถ้าไอดอลวงไหนดังก็ตัดสินใจจะไม่ต่อสัญญาเพราะมีข้อเสนอที่น่าสนใจมากกว่าจากต้นสังกัดอื่น แต่ทีน่าเผยว่าเป็นไปได้น้อยที่วงดังจะไม่ต่อสัญญา ต้นสังกัดมักจะเน้นไปที่การป้อนงานกับสมาชิกในวงที่ดัง ๆ และดูแลเป็นอย่างดี ขณะที่ไอดอล “วงที่ไม่ค่อยดัง” ก็จะถูกทอดทิ้งและจบลงด้วยการออกจากต้นสังกัด

แต่ก็ยังมีกรณีที่ไอดอลออกจากต้นสังกัดเพราะ “ดังเกินไป” ไม่ใช่เพราะพวกเขาได้รับข้อเสนอที่ดีกว่าจากต้นสังกัดอื่น แต่เหตุผลหลักเป็นเพราะไอดอลเหล่านั้นรู้สึกไม่ยุติธรรมที่จะต้องแบ่งกำไรที่ได้จากงานเดี่ยวให้กับสมาชิกในวง การออกจากต้นสังกัดและมุ่งไปทำงานเดี่ยวจึงเป็นผลดีมากกว่า

ถูกบังคับจนไม่มีอิสระ

ทีน่าบอกอีกว่าหนึ่งในประเด็นที่น่ารำคาญที่สุดที่ทำให้ไอดอลอยากออกจากต้นสังกัดคือไม่มีอิสระ รวมถึงการไม่ให้อิสระทางความคิดสร้างสรรค์แก่ไอดอลด้วย เช่น บริษัทที่ห้ามศิลปินไม่ให้แต่งเพลงเอง, ไม่อนุญาตให้ออกอัลบั้มใหม่, ไม่ให้ยอมรับความเห็นของไอดอลเอง, ไม่มีส่วนร่วมในเรื่องการแต่งกายหรือคอนเซ็ปต์ เป็นต้น

นอกจากเสรีภาพในการทำงานแล้ว ชีวิตส่วนตัวไอดอลก็ต้องถูกควบคุมอย่างเข้มงวด ทีนาเผยว่าถึงแม้ไอดอลเหล่านั้นจะไม่ใช่ไอดอลหน้าใหม่แต่บางต้นสังกัดก็ยังควบคุมทุกการเคลื่อนไหวของพวกเขาอยู่ ไอดอลบางคนถูกห้ามไม่ให้ออกเดท, ไม่อนุญาตให้ออกไปเที่ยวกับเพื่อนหรือไปเยี่ยมครอบครัว เมื่อไอดอลรู้สึกว่าชีวิตที่มีชื่อเสียงของพวกเขาไม่มีค่าพอที่จะเสียสละอีกต่อไป พวกเขามักตัดสินใจไปตามทางของตนเอง

เส้นทางอาชีพเปลี่ยนไป

ไอดอลส่วนใหญ่ทำงานด้านดนตรี แต่หลายคนก็มีผลงานด้านอื่น ๆ เช่น งานแสดง, รายการวาไรตี้, เป็น mc, ทำยูทูป, ถ่ายโฆษณา หรือเป็นนักธุรกิจ ทีน่าบอกว่าไอดอลหลายคนเริ่มสนใจงานด้านอื่นมากกว่าการเป็นไอดอล สุดท้ายพวกเขาก็ตัดสินใจที่จะไม่ต่อสัญญากับต้นสังกัดและหาบริษัทอื่นแทนหรือทำตามสิ่งที่ตัวเองต้องการ

ผลประโยชน์ที่ไม่ค่อยดีหลังจากต่อสัญญา

เมื่อถึงเวลาต่อสัญญา ต้นสังกัดและไอดอลจะพูดคุยหารือกันอย่างรอบคอบเกี่ยวกับเหตุผลที่จะต่อหรือไม่ต่อสัญญา ในปัจจุบัน ต้นสังกัดมักจะให้เงื่อนไขสัญญาที่ดีกว่าเดิมแก่ศิลปินของพวกเขามากกว่าแต่ก่อน ทั้งอิสระในการสร้างสรรค์ผลงานหรือการแบ่งปันผลกำไรที่ดีขึ้น ผลประโยชน์เหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้นสังกัดสามารถโน้มน้าวให้ไอดอลเหล่านั้นต่อสัญญา

แต่ไม่ใช่ไอดอลทุกคนจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับต้นสังกัด บางคนต้องการให้ต้นสังกัดปฏิบัติตามเงื่อนไข A หรือ B แต่ต้นสังกัดคิดว่ามันไม่เหมาะสม, มีการโต้แย้งว่าผลประโยชน์ของต้นสังกัดไม่น่าสนใจเท่ากับอีกต้นสังกัดนึง และจบลงตรงที่ไม่มีใครต่อสัญญา

ไม่เป็นที่ต้องการของต้นสังกัดอีกต่อไป

อาจฟังดูโหดร้าย แต่เป็นความจริงที่ว่าไอดอลหลายคนออกจากต้นสังกัดเพราะต้นสังกัดไม่ต้องการพวกเขาแล้ว ทีน่าบอกว่ามีเพียงไม่กี่บริษัทเท่านั้นที่อดทนต่อการเสียเงินและความพยายามที่พวกเขาทุ่มเทให้กับไอดอล แต่ก็มีบางครั้งที่ต้นสังกัดอยากปล่อยไอดอลไปตามทาง รวมถึงการที่เต้นสังกัดอยากหาไอดอลวงใหม่ที่อายุน้อยกว่าและดีกว่ามาแทนที่วงเก่า, ต้นสังกัดต้องการเปลี่ยนทิศทางของธุรกิจเพราะรายได้น้อย เป็นต้น

โดยเฉพาะเมื่อต้นสังกัดเห็นว่าบุคลิกและชีวิตส่วนตัวของไอดอลเหล่านั้นไม่เหมาะสมที่จะเป็นไอดอลอีกต่อไป ต้นสังกัดอาจ 'ไล่' ไอดอลบางคนออกจากวงเพื่อประโยชน์ส่วนรวมและหลีกเลี่ยงการโต้แย้งในอนาคต

ไม่เป็นที่ต้องการของวงอีกต่อไป

การถูกไล่ออกจากต้นสังกัดว่าแรงแล้ว แต่เหตุผลสุดท้ายแย่กว่า มีหลายกรณีที่ไอดอลออกจากวงเพราะพวกเขาเข้ากับเพื่อนร่วมวงไม่ได้หรือมีเรื่องทะเลาะกับไอดอลวงอื่น ทั้งการบุลลี่หรือเพียงแค่ไม่ชอบกัน ไม่มีใครทนต่อสภาพแวดล้อมที่ล้อมรอบไปด้วยศัตรูได้แม้ว่าพวกเขาอยากจะเป็นไอดอลต่อไปแค่ไหนก็ตาม

นอกจากความขัดแย้งภายในวงแล้ว ยังมีไอดอลบางส่วนที่ออกจากต้นสังกัดเพราะเข้ากับ CEO หรือทีมงานในบริษัทไม่ได้ แต่ก็มีไอดอลอีกหลายคนที่ยัง 'อดทน' ต่อสิ่งนี้ แต่สุดท้ายก็มีไอดอลที่ตัดสินใจออกจากต้นสังกัดเพราะถูกเพื่อนร่วมวงเกลียด

ที่มา  tinnhac