‘การทำภาคต่อ’ และ ‘การแบ่งออกอากาศ’ กำลังกลายเป็นเทรนด์ของซีรีส์เกาหลี
2023-02-22 09:16:44
Advertisement
คลิก!!!

หากเป็นเมื่อก่อน เรามักจะได้เห็นซีรีส์เกาหลีส่วนใหญ่ออกอากาศแบบรวดเดียวติดต่อกัน และไม่นิยมทำภาคต่อ แต่ในปัจจุบัน เทรนด์การออกอากาศของซีรีส์เกาหลีได้เปลี่ยนแปลงไป ไม่ใช่แค่บนแพลตฟอร์มให้บริการออนไลน์อย่าง Netflix หรือ TVing แต่ซีรีส์ที่เข้าฉายในช่องโทรทัศน์ทั่วไปของเกาหลีก็นิยมทำภาคต่อ หรือไม่ก็แบ่งช่วงออกอากาศด้วยเหมือนกัน

 

การทำภาคต่อนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ของการทำซีรีส์ การเปิดตัวซีซั่นใหม่ หรือ เนื้อเรื่องที่แยกมาจากซีรีส์เรื่องเดิม ช่วยให้สามารถเล่าเรื่องได้อย่างละเอียดมากขึ้น และประโยชน์ของการทำภาคต่อที่เห็นได้ชัดคือ มีผู้ชมที่รอติดตามซีรีส์เรื่องเดิมกันอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตามการทำภาคต่อนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะนอกจากจะต้องรับมือกับความคาดหวังที่ผู้ชมได้รับมาจากภาคแรกแล้ว ต้องตีโจทย์ให้แตกว่าจะทำอย่างไรถึงจะไม่พาซีรีส์ออกทะเล และยังคงเส้นเรื่องที่ไม่ทำลายเนื้อหาของซีซั่นก่อนหน้า

ยกตัวอย่างซีรีส์เรื่อง Work Later, Drink Now ที่เพิ่งออกอากาศซีซั่น 2 ไปเมื่อไม่นานมานี้แม้ว่าจะมีผู้เข้าชมบนเว็บไซต์ติดอันดับ 1 เป็นเวลา 6 สัปดาห์ติดต่อกัน แต่กระแสความปังก็ยังไม่เท่าซีซั่นแรก

 

เหตุผลที่ Work Later, Drink Now 2 ไม่ได้รับกระแสเปรี้ยงปร้างเท่ากับภาคแรกมาจากหลายปัจจัย โดยในซีซั่น 2 เนื้อเรื่องโฟกัสในเรื่องของความรักมากกว่ามิตรภาพ และสารที่จะส่งต่อไปยังผู้ชมเปลี่ยนไปจากการปรากฎตัวของตัวละครใหม่ นอกจากนี้ผู้ชมคิดว่าตัวละคร จียอน (รับบทโดย ฮันซอนฮวา (Han Sun Hwa) ที่ป่วยเป็นมะเร็งเต้านมและถึงขนาดมีฉากเข้ารับการผ่าตัด ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์เหมือนที่เธอเคยทำได้ในซีซั่น 1

นักวิจารณ์วัฒนธรรมกระแสนิยมกล่าวว่า 

“สำหรับเรื่อง Work Later, Drink Now 2 ที่ไม่ได้รับกระแสตอบรับที่มากมายจากแฟนคลับ อย่างหนึ่งน่าจะมาจากการห่างหายไปนานเกือบปีของซีรีส์ ทำให้ความสนใจของผู้ชมจางหายไป” 

 

ถ้าจะมองว่าการทำซีซั่นใหม่ไม่ได้ทำให้ซีรีส์เกาหลีประสบความสำเร็จมากนักหาจะพิจารณาจากมุมมองนี้ ทำให้มีระบบการแบ่งพาร์ทการออกอากาศซีรีส์เกิดขึ้น คือ มีการแบ่งการออกอากาศซีรีส์เรื่องเดียวกันเป็น 2 ส่วน โดยมีระยะห่างในการออกอากาศไม่นานนัก การแบ่งพาร์ทนี้ช่วยให้สามารถเล่าเรื่องได้อย่างน่าสนใจขึ้น แต่ก็ยังคงความรู้สึกน่าติดตามของซีรีส์เอาไว้ได้มากกว่าการทำซีซั่นใหม่ 

 

จองด๊อกฮยอนได้พูดถึงเรื่องนี้ว่า

“สำหรับระบบการทำภาคใหม่ แผนการคือออกอากาศทุกตอนจนจบก่อน จากนั้นก็ค่อยกำหนดว่าจะเริ่มทำซีซั่นใหม่กันตอนไหน อย่างไรก็ตามตอนนี้ซีรีส์เกาหลีบางเรื่องใช้วิธีถ่ายทำจนเสร็จ จากนั้นแบ่งการออกอากาศเป็น 2 ช่วง ซึ่งออนแอร์ในเวลาไม่ห่างกันมาก แต่ก็ไม่ได้ต่อเนื่องกันทันที”

การแบ่งเป็นพาร์ทนี้นิยมมากบนซีรีส์ที่ออกอากาศบนแพลตฟอร์มให้บริการออนไลน์ 

 

ซีรีส์ที่มีการแบ่งเป็นพาร์ทบน Netflix ได้แก่ The Glory และ Alchemy of Souls 

เรื่อง Alchemy of Souls นั้นเหมือนเป็นการเปิดซีซั่นใหม่มากกว่า อย่างไรก็ตามมีระยะเวลาที่ออกอากาศห่างกันแค่ 3 เดือนเท่านั้น และมีการเปลี่ยนบทนำหญิง รวมทั้งหมดซีรีส์เรื่องนี้มา 30 ตอน และได้รับกระแสตอบรับดี



เรื่อง The Glory ออกอากาศไปเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว เปิดตัวทีเดียว 8 ตอน และเตรียมออกอากาศ 8 ตอนที่เหลือในวันที่ 10 มีนาคม นี้ ซึ่งห่างกัน 3 เดือนเช่นกัน

หลายคนแสดงความคิดเห็นว่า การที่ The Glory ถูกแบ่งเป็นพาร์ททำให้ซีรีส์ดำเนินได้ไม่ต่อเนื่อง แต่ในอีกมุมหนึ่ง ระหว่างช่วงเวลา 3 เดือนที่พาร์ทแรกออกอากาศ ซีรีส์ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในช่วงเวลานั้น นับตั้งแต่เริ่มต้นปล่อยซีรีส์ จนถึงวันที่จะปล่อยพาร์ท 2 มีผู้สนใจซีรีส์เรื่องนี้มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะซีรีส์ได้รับการพูดถึงและเฝ้ารอจากคนที่เคยดูไปแล้วอยู่ตลอด เป็นการเพิ่มยอดความสนใจให้กับผู้ชมหน้าใหม่ ไปพร้อมกับการที่ไม่ทำให้ผู้ชมกลุ่มเดิมรอคอยนานจนเกินไปซึ่งถือเป็นกลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จของ Netflix
 

ถึงแม้จะหายไป 3 เดือน แต่ Netflix ปล่อยคอนเท้นท์ที่เกี่ยวข้องกับ The Glory ออกมาโดยคลอด ทั้งเบื้องหลังการถ่ายทำ, บทสัมภาษณ์ของนักแสดง, โปสเตอร์และทีเซอร์ เรียกว่ากระตุ้นความอยากดูของผู้ชมกันอย่างเต็มที่ และผู้ชมต่างพูดคุยกันว่าเรื่องราวในพาร์ท 2 จะออกมาเป็นอย่างไร ทำให้ The Glory ยังอยู่ในกระแสตลอด

นอกจากนี้ยังมีซีรีส์ภาคต่ออีกหลายเรื่องที่กำลังออกอากาศหรือเตรียมการผลิต ไม่ว่าจะเป็น Taxi Driver 2, Dr. Romantic 3 และ The First Responders 2



ช่อง tvN ยังมีแผนทำภาคแยกของ Arthdal Chronicles และ Stranger ซึ่งใช้นักแสดงคนละคนกับภาคแรก

การทำซีรีส์ภาคใหม่ หรือ แยกพาร์ท อย่างไรก็น่าจะได้ประโยชน์มากกว่า ด้วยฐานแฟนคลับที่มีมาแล้วจากภาคแรก อย่างไรก็ตามเรื่องที่สำคัญที่สุดคงเป็นเนื้อหาและความสนุกของซีรีส์เกาหลี ที่มีหลายเรื่องที่น่าติดตามและไม่ทำให้ผิดหวัง ผลประโยชน์คงตกไปอยู่กับผู้ชมที่สามารถเลือกชมซีรีส์เกาหลีได้อย่างหลากหลายและเต็มที่ หรือจะเป็นความลำบากที่ดูไม่ทันกันแน่นะ!?

 

ที่มา  Naver 

 

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X