เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

แม้เหตุการณ์จะผ่านมานานหลายปีแล้ว แต่ยังไงซะ ก็ต้องชดใช้เพื่อที่จะให้ความผิดได้ลดน้อยลงไปบ้าง นี่เป็นความคิดที่ได้มีการกระทำไปแล้วสำหรับรัฐโคโลราโดของสหรัฐฯ ที่ได้ทำการปล่อยน้ำในเขื่อนให้แก่รัฐแคนซัสและรัฐเนแบรสกา เพื่อเป็นการชดใช้หนี้น้ำที่เคยใช้เกินจำนวนไปเมื่อปี 1942

การใช้หนี้น้ำนี้มีขึ้น หลังจากที่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีการตรวจสอบกันว่าน้ำในแม่น้ำรีพับลิกัน (Republican River) ได้ถูกนำไปใช้ในอ่างเก็บน้ำบอนนี่ หรือที่รู้จักกันในชื่อของทะเลสาบบอนนี่ (Bonney Lake) ในรัฐโคโลราโดอย่างไม่ได้สัดส่วน ทำให้เจ้าหน้าที่ด้านทรัพยากรของรัฐแคนซัสเข้าทำการตรวจสอบหาข้อเท็จจริง ก่อนจะพบว่า รัฐโคโลราโดได้ใช้น้ำจากแม่น้ำรีพับลิกันไปจริง ๆ ด้วยจำนวนที่มากกว่า 4 พันล้านแกลลอน ซึ่งเกินจากที่กำหนดกันไว้ในข้อตกลงเรื่องการแบ่งสันปันส่วนน้ำเมื่อปี 1942

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นางอเล็กซานดร้า เดวิส รองผุ้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรน้ำของรัฐโคโลราโด ได้ออกมาชี้แจงว่า การปล่อยน้ำคืนให้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง แม้ว่าเหตุการณ์จะผ่านมานานหลายปีแล้ว และมีหลายฝ่ายทั้งชาวบ้านและผู้ที่เกี่ยวข้องไม่เห็นด้วยกับการปล่อยน้ำในครั้งนี้ แต่นี่ก็ถือเป็นเรื่องที่ควรทำ และเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้วสำหรับการชดใช้ความผิดที่เกิดขึ้น

"นี่เป็นเรื่องที่แย่มาก ๆ ถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่เลยก็ว่าได้ แต่ยังไงซะ ในเมื่อเราได้ทำผิดข้อตกลงไปแล้ว ยังไงก็ต้องมีการชดใช้คืนให้ และการคืนน้ำให้ในลักษณะเช่นนี้ ก็ถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำให้ได้" นางเดวิส กล่าวเสริม

อย่างไรก็ดี จากการปล่อยน้ำคืนในครั้งนี้ก็มีนักชีววิทยาได้ออกมาเตือนว่า การระบายน้ำคืนแบบนี้จะส่งผลกระทบต่อปลาสายพันธุ์ต่าง ๆ ในอ่างเก็บน้ำ เนื่องจากจะทำให้ระบบนิเวศน์และความผันเปลี่ยนของน้ำ เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบกระทันหัน ซึ่งอาจจะทำให้ปลาต้องเปลี่ยนแหล่งที่อยู่ใหม่ รวมถึงอาจจะปรับสภาพไม่ทันอีกด้วย

ข้อมูลจากกระปุกดอดคอม