ผู้กำกับเล่าถึงเบื้องหลังของซีรีส์กระแสแรง 'Squid Game'
2021-10-04 18:14:15
Advertisement
คลิก!!!

Squid Game ซีรีส์ของ Netflix กลายเป็นกระแสเกาหลีล่าสุดที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก หลังจากภาพยนตร์เรื่อง Parasite ของผู้กำกับ บงจุนโฮ ที่คว้ารางวัลออสการ์ไปครองได้สำเร็จ

Squid Game ขึ้นแท่นซีรีส์ยอดนิยมอันดับ 1 นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อวันที่ 17 กันยายน รวมถึงในประเทศสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของซีรีส์เกาหลีที่ทำได้สำเร็จ

ฮวังดงฮยอก ผู้กำกับของซีรีส์ Squid Game บอกว่าเขาไม่ได้รู้สึกเกินคาดไปมากเท่าไหร่ เพราะเขาตั้งเป้าหมายไว้แล้วว่าต้องการตีตลาดโลก

“ยิ่งมีความเป็นเกาหลีเท่าไหร่ ยิ่งได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายมากขึ้น ทั้ง BTS, PSY และผู้กำกับบงจุนโฮ ได้พิสูจน์เรื่องนี้แล้ว” ฮวังดงฮยอก ผู้รับหน้าที่เป็นทั้งผู้กำกับและนักเขียนบทของซีรีส์ Squid Game ได้กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับ The Korea Times ผ่านออนไลน์

“เกมของเด็กเกาหลีที่ปรากฏในเรื่อง เป็นเกมง่ายๆและเก่า แต่ว่าผมเห็นศักยภาพที่จะถ่ายทอดสิ่งนี้ให้คนทั่วโลกได้เห็น”

ซีรีส์ระทึกขวัญเรื่องนี้เล่าเรื่องของผู้เข้าแข่งขันจำนวน 456 คน รวมถึงตัวละครหลักของเรื่องอย่าง กีฮุน (รับบทโดย อีจองแจ (Lee Jung-jae) ที่เข้าร่วมแข่งขันเกมเซอร์ไววัล ที่หากชนะจะได้เงินรางวัล 45.6 พันล้านวอน (ประมาณ 1,300 ล้านบาท) แต่หากแพ้ต้องแลกด้วยชีวิต

กระแสของ Squid Game กลายเป็นไวรัลบนอินเตอร์เน็ต สิ่งของที่ปรากฏในซีรีส์ต่างมียอดขายเพิ่มสูงขึ้น ทั้ง ชุดทำขนมน้ำตาลแผ่น, กล่องข้าวสไตล์เกาหลี และเสื้อวอร์มที่มีหมายเลขผู้เล่นในเรื่อง

ผู้กำกับฮวังดงฮยอก ซึ่งก่อนหน้านี้เคยฝากฝีมือไว้ในเรื่อง Silenced และ The Fortress บอกว่าการดูซีรีส์เรื่องนี้ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนกำลังนั่งรถไฟเหาะอยู่

ผู้กำกับบอกว่าเขาไม่คิดว่าจะได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากในช่วงเวลาอันสั้นแบบนี้ น่าจะเป็นเพราะเกมที่เข้าใจง่าย และตัวละครที่คล้ายคลึงกับสิ่งที่หลายคนเจอในชีวิตจริง ทำให้ผู้ชมอินไปกับซีรีส์ได้ไม่ยาก ซึ่ง 2 สิ่งนี้ทำให้ Squid Game แตกต่างจากผลงานแนวนี้เรื่องอื่น อย่าง Battle Royale และ The Hunger Games

Squid Game พูดถึงการแข่งขันเกมก็จริง แต่ความจริงแล้ว ซีรีส์พูดถึงผู้คนมากกว่า...ซีรีส์จึงไม่ได้เน้นไปที่เกมที่ซับซ้อน แต่ให้โอกาสผู้ชมได้เข้าใจอารมณ์ของตัวละครแต่ละตัวที่เข้าร่วมแข่งขันในครั้งนี้

“สำหรับซีรีส์แนวอื่น อาจจะมีคนคนเดียวที่เป็นฮีโร่เข้ามาแก้ไขปัญหา และกลายเป็นผู้ชนะ แต่สำหรับซีรีส์เรื่องนี้ เล่าเรื่องของเหล่าคนที่พ่ายแพ้ของสังคม ไม่มีใครชนะ ไม่มีใครเก่งที่สุด มีแค่คนที่ก้าวต่อไปข้างหน้าได้ด้วยความช่วยเหลือของคนอื่น”

ฮวังดงฮยอกบอกว่าเขาเขียนโครงเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่ปี 2008 แต่ไม่ตอนนั้น เนื้อเรื่องแนวนี้ค่อยข้างแปลก ทำให้ต้องใช้เวลามากกว่า 10 ปี ก่อนจะได้ทำมันออกมาจริงๆ

“หลังจาก 12 ปี โลกเปลี่ยนไป เรื่องราวที่เล่าถึงความรุนแรงในเกมเซอร์ไววัลได้รับการต้อนรับมากขึ้น” เขากล่าว “หลายคนบอกว่าซีรีส์เรื่องนี้เหมือนตัวเองอย่างไร น่าเศร้าที่โลกเปลี่ยนมาในทิศทางนี้ ผู้ร่วมแข่งขันในซีรีส์บ้าคลั่งเพื่อเงินรางวัล เหมือนกับการกระหายความร่ำรวยจากคริปโตเคอร์เรนซี่, อสังหาริมทรัพย์ และหุ้นในปัจจุบัน ทำให้หลายคนเข้าใจเรื่องนี้”

ถึงแม้ตอนนี้ Squid Game จะประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง แต่ผู้กำกับบอกว่าตอนที่ทำมัน เขารู้สึกเหมือนวางเดิมพันไป

“การทำซีรีส์ยังคงน่าตื่นเต้นเหมือนเมื่อ 10 ปีก่อน ผมรู้ว่ามันจะสำเร็จ หรือไม่ก็ได้ จะกลายเป็นผลงานชิ้นเอก หรือเป็นงานที่ไม่มีใครสนใจ” เขาบอก “ไอเดียในการทำซีรีส์เรื่องนี้เหมือนเป็นการทดลอง ผมเอาแต่ถามตัวเองว่าผู้ชมจะเข้าใจไหมนะว่าทำไมตัวละครในเรื่องถึงยอมเสี่ยงตัวเองเข้าไปเล่นเกมเด็กแบบนั้น”

ผู้กำกับฮวังดงฮยอกบอกว่า ขั้นตอนตั้งแต่เขียนบทละคร จนถึงถ่ายทำ ทำให้เขาเครียดมาก

“แต่ละคืนก่อนถ่ายทำ ผมเอาแต่คิดว่าจะถ่ายออกมาให้ดีอย่างไร และแก้บทแล้วบทอีก ระดับความเครียดของผมคือ 100% เลยครับ เล่นงามผมหนักพอดู” เขาบอก “ผมคิดว่างานแต่ละชิ้นท้าทายอยู่เสมอ แต่สำหรับเรื่องนี้ มีความเสี่ยงสูงมาก ผมเลยทุ่มความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำให้มันออกมาดี”

การที่เขาพยายามจะทำให้ซีรีส์ดึงดูดผู้ชมมากที่สุด ทำให้เขาเลือกเกมที่จะปรากฎในซีรีส์อย่างระมัดระวัง

“ผมเลือกเกมที่เล่นกันในช่วง 10 ปีก่อน เลยเริ่มต้นด้วยเกม A,E,I,O,U ซึ่งก่อให้เกิดความน่าสนใจเพราะ [จะมีผู้เล่น] เสียชีวิตเป็นจำนวนมากจากเกมนี้”

เขาบอกว่าเลือกเกมปลาหมึก ให้เป็นเกมสุดท้าย เพราะมันเสียดสีซีรีส์ได้ดี “ผมคิดว่าการเล่นเกมที่ได้ต่อสู้เหมือนเป็นนักรบ ทั้งที่เป็นเกมของเด็กที่เคยเล่นกัน แต่ตอนนี้คนที่มาเล่นกลับเป็น [ผู้ใหญ่] ที่สิ้นหวัง”

ผู้กำกับฮวังดงฮยอกยังได้พูดถึงการสร้างสมดุลระหว่างเรื่องแต่ง และความสมจริงในซีรีส์ว่าเป็นส่วนที่ยากที่สุดในการทำผลงานเรื่องนี้

“เพราะว่าเรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในชีวิตจริง มันเลยเป็นเรื่องที่แต่งขึ้น และเหมาะสำหรับแค่คนที่ชอบงานแนวนี้ ผมเลยต้องหาทางทำให้มันสมดุลกับชีวิตจริงมากที่สุดด้วย”

เมื่อถามถึงซีซั่น 2 ฮวังดงฮยอกบอกว่า เขายังมีไอเดียไม่มากในตอนนี้ และยังไม่ตัดสินใจว่าจะทำภาคต่อหรือไม่

“เพราะว่าผมทำงานเรื่องนี้คนเดียว ทั้งเขียนบทและกำกับ มันเลยกินพลังงานทั้งกายและใจค่อนข้างเยอะ...ผมเลยกังวลว่าถ้าทำภาค 2 ผมจะทำมันได้คนเดียวอีกหรือเปล่า?” เขาบอก “ผมเอาแต่บอกคนรอบข้างว่าตอนนี้เราคงทำภาค 2 ไม่ได้ แต่พอมีคนหลายคนชอบซีรีส์เรื่องนี้ มันก็มีความรู้สึกว่า ผมไม่ควรพูดว่าผมจะไม่ทำมันอีก”

ผู้กำกับฮวังดงฮยอกได้พูดถึงความสำเร็จของซีรีส์ ที่ได้รับความวิจารณ์ทั้งในด้านบวกและลบว่า “มันเป็นอีกผลงานในชีวิต ที่คงตามติดตัวผมไปตลอด ตั้งแต่นี้ ทุกอย่างที่ผมทำจะถูกนำมาเปรียบเทียบกับ Squid Game ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกทั้งกดดันและเป็นเกียรติ”

xnxx porno onlyfans leak xnxx filme xxx filme porno filme porno xxx filme porno xnxx video filme porno
.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X