เมื่อวันที่ 3 มีนาคม ลูน่า (Luna) แห่ง f(x) ได้มาปรากฏตัวในรายการ “Human Documentary People Is Good” ทางช่อง MBC

ลูน่าเดบิวต์กับ f(x) ในปี 2009 และตอนนี้กำลังมีผลงานในการเป็นนักร้องเดี่ยวและนักแสดงละครเวที เธอออกจาก SM Entertainment หลังจากสิ้นสุดสัญญาในปีที่แล้ว

ในรายการ ลูน่าแนะนำสุนัขของเธอและบอกว่า

“ตอนที่เราอยู่ด้วยกัน ซอลลี (Sulli) เหงามากค่ะ ฉันบอกว่าเราควรหาสุนัขมาเลี้ยงกันและสุนัขที่ฉันพาไปที่หอก็คือสุนัขตัวนี้ค่ะ เขาเป็นสุนัขตัวแรกของซอลลีค่ะ”

ลูน่าเล่าว่าเธอไม่ได้เจอซอลลีเลยตั้งแต่ซอลลีออกจาก f(x) ในปี 2015 และพูดทั้งน้ำตาว่า

“ตอนที่รู้ข่าวการเสียชีวิตของเธอ ฉันนั่งลงบนถนนและร้องไห้เลยค่ะ เธอติดต่อฉันมาก่อนหน้านั้น เป็นครั้งแรกใน 15 ปีที่เธอใช้คำพูดที่เป็นกันเองกับฉัน เธอบอกว่า ‘ออนนี่ ฉันอยากเจอพี่’ ฉันบอกได้ว่ามันเป็นข้อความที่เธอส่งมาหลังจากเก็บมันเอาไว้อยู่นานค่ะ ฉันรู้สึกผิดมากในฐานะพี่สาวของเธอ ฉันควรจะเข้าหาเธอก่อนเพื่อคุยกัน ฉันควรพูดอะไรบ้าง ฉันควรบอกเธอว่าฉันรักเธอให้มากกว่านี้ค่ะ”

ไม่นานหลังจากซอลลี่จากไปในเดือนตุลาคม เพื่อนสนิทและรูมเมทของลูน่าก็เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ลูน่าบอกว่า

“เธอเป็นเหมือนครอบครัวของฉันค่ะ เราอยู่ด้วยกันในบ้านหลังเดียวกัน ไม่มีเพื่อนคนอื่นคนไหนเหมือนเธอค่ะ ชีวิตของเธอคงต้องเจอเรื่องยากมาตลอดจริงๆ ฉันไม่สามารถเข้าใจได้ทุกอย่างค่ะ แต่ฉันรู้ว่ามันต้องเจ็บปวดมากแน่ๆ เรามีอะไรเหมือนกันหลายอย่างมาก ดังนั้นเราจึงพึ่งพิงกันเยอะมาก เราสัญญาว่าจะผ่านมันไปด้วยกันและใช้ชีวิตที่ดี เราพูดกันไว้แบบนั้นแต่ฉันไม่รู้เลยค่ะว่าเธอจะจากไปเร็วขนาดนี้”

ลูน่ายังเล่าเรื่องที่เธอทรมานจากความเศร้าและโรคตื่นตระหนกของเธอด้วยว่า

“เมื่อก่อนฉันแย่มากจริงๆ ค่ะ มันยากลำบากจริงๆ มันอาจจะดูไม่ออก แต่ฉันมีอาการวิตกจริตที่รุนแรงมากค่ะ มันกระทบกับทางร่างกายของฉัน ฉันไม่สามารถเข้าไปนั่งในรถได้ ทันทีที่ฉันเข้าไปในรถ มือและเท้าของฉันจะเริ่มสั่นและฉันไม่สามารถพูดคุยได้ มันเหมือนฉันกำลังจะกลายเป็นบ้า ฉันกลัวเกินไปที่จะเข้าไปในรถค่ะ”

หลังจากพูดคุยกับแม่ของเธอเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเงินของครอบครัวตอนที่เธอยังเด็กกว่านี้ ลูน่าก็เล่าถึงความตั้งใจใหม่ที่เธอจะใช้ชีวิตให้ดี ไม่ใช่เพียงเพื่อตัวเธอเองเท่านั้นแต่เพื่อเพื่อนๆ ของเธอด้วย

“ฉันอยากจะร้องเพลงเล่าเรื่องของพวกเขาเช่นเดียวกับเรื่องของฉันค่ะ”

เธอบอกว่า

“การได้ทำอะไรที่คุณอยากทำ, มีสุขภาพแข็งแรง, การยิ้มกับเรื่องเล็กๆ ได้และการได้อยู่ร่วมกันกับผู้คนและแบ่งปันความสุขกัน ฉันคิดว่ามันคือตอนจบที่ดีค่ะ แม่คะ พ่อคะ ฉันไม่ได้อ่อนแอนะคะ ถึงแม้ฉันจะป่วย แต่ฉันจะผ่านมันไปได้แน่นอนค่ะ”