|
ชายคนนี้จะใช้เวลาช่วงวันหยุด 1 วันของเขา ทำการตัดผมให้กับคนจรจัดฟรีๆ
นาเซร์ โซบฮานี (Nasir Sobhani) หรือที่เป็นที่รู้จักกันในนาม "ช่างตัดผมข้างทาง" (The Streets Barber) ที่มักจะทำการตัดผมให้กับคนจรจัดในช่วงวันหยุดของเขา เพื่อที่จะตอบแทนคนในสังคมกลับคืนไป
นาเซร์ วัย 26 ปี ผู้ซึ่งได้ทำสารคดีเรื่อง 'PLGRM' เพื่อฟื้นฟูอาการติดยาเสพติดของเขา เขาจะใช้เวลา 6 วันต่อสัปดาห์ในการทำงานที่ร้านตัดผม แต่ในวันหยุด 1 วันของเขา เขาจะเดินทางไปรอบๆ ย่านฟุตสเครย์, เมลเบิร์น เพื่อทำการตัดผมให้คนจรจัดแถวนั้นกันฟรีๆ โดยเรียกวิธีการนี้ว่า "ตัดผมให้ดูสะอาด เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างสะอาด"
"ผมยังจำได้ดีในวันที่ผมนั้นเกลียดตัวเอง และไม่สามารถมองกระจกได้โดยที่ไม่ร้องไห้ออกมาครับ" เขาพูดถึงตอนที่เขาทำการรักษาอาการติดยาเสพติดในช่วงอายุต้นๆ 20 ของเขา
"ผมได้พบกับลูกค้าบนท้องถนนจำนวนมากครับ พวกเขามักจะรู้สึกละอายใจเมื่อคนอื่นรู้ว่าพวกเขาเป็นใครครับ" นาเซร์ กล่าว
เขาค้นพบไอเดียเรื่องการตัดผมให้ดูสะอาดเมื่อราว 3 ปีที่ผ่านมาตอนที่เขาเป็นช่างตัดผมฝึกงาน เขาเริ่มต้นพูดคุยกับชายคนหนึ่งที่ทำความสะอาดกระจกหน้าร้าน ชายคนนั้นเพิ่งเลิกการเสพติดเฮโรอีน และเขาต้องการตัดผมเพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จของเขา
นาเซร์กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงของชายคนนั้นว่า ปฏิกิริยาของแม่ชายคนนั้น เธอถึงกับหลั่งน้ำตาออกมา นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับแรงบันดาลใจของเขาในการตัดผมให้กับคนจรจัดต่อมา
"มันเป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่มากในชีวิตของผมครับ" นาเซร์ กล่าวต่อสำนักข่าว 'The Herald Sun' "นี่เป็นจุดที่ทำให้ผมนั้นตระหนักว่า ถ้าผมสามารถช่วยให้พวกเขามีการเปลี่ยนแปลงไปได้ และทั้งหมดนี้ที่ผมทำเพราะผมรักที่จะทำมัน บางทีผมอาจจะควรทำเรื่องนี้ต่อไปครับ" เสริม "พวกเขาจะได้รับความเชื่อมั่นครั้งใหม่ในตอนที่พวกเขาได้ตัดผมไปแล้วครับ"
เขาเชื่อว่า มากกว่าการเปลี่ยนแปลงคือการมีปฏิสัมพันธ์และความใกล้ชิดกับผู้อื่น ซึ่งถือว่าเป็นกุญแจสำคัญของการทำดีในครั้งนี้
ทั้งนี้ เมื่องานของเขาและสิ่งที่เขาทำได้รับการเปิดเผยผ่านช่องทางออนไลน์ เขาก็ได้รับการยกย่องอย่างมากจากชาวเน็ต โดยได้มีคนโพสแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการกระทำของนาเซร์เอาไว้ว่า "การกระทำของคุณนั้น เป็นแรงบันดาลใจให้ฉันเป็อย่างมากเลยล่ะ" และ "ฉันรักผู้ชายคนนี้ เขาน่ะเอาเกรด A+ ไปเลย"
อนึ่ง คุณสามารถติดตามการทำความดีของเขาได้ทางอินสตาแกรม @thestreetsbarber
แปลจาก http://www.metro.co.uk
โดย http://www.popcornfor2.com หากนำไปใช้กรุณาให้เครดิตเว็บไซต์ด้วยค่ะ