ฮันฮโยจู (Han Hyo-joo) กลับมาร่วมงานกับ Disney+ อีกครั้งในซีรีส์เรื่องใหม่ 'Blood Free' หลังจากรับบทนำในซีรีส์เรื่อง "Moving" ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากบนแพลตฟอร์มเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว
คลิก!!! |
“บท [ของซีรีส์] ยอดเยี่ยมมากและเข้ากับ [สถานการณ์] ฉันสนุกกับบทมากจนเอาไปเขียนในไดอารี่หลังจากได้อ่านบทเรื่องนี้”
ฮันฮโยจูกล่าวในงานแถลงข่าวซีรีส์ที่จัดขึ้นที่โรงแรม Conrad Seoul ในวันที่ 8 เมษายน
“ฉันมีความสุขมากที่ในที่สุดก็มีบทดีๆมาให้ฉัน บทเรื่องนี้ทำใจฉันเต้นแรงเลยค่ะ”
'Blood Free' จะออกอากาศในวันพุธ ซีรีส์เล่าเรื่องของ ยุนจายู (รับบทโดย ฮันฮโยจู) ซีอีโอของบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพที่ทดลองเกี่ยวกับการสังเคราะห์เนื้อในห้องแลป เธอคือผู้บุกเบิกในวงการนี้ และกลายเป็นคนมีชื่อเสียง และถูกคุกคาม ทำให้เธอต้องจ้าง อูแชอุน (รับบทโดย จูจีฮุน (Ju Ji-hoon)) มาเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัว
ยุนจายู และ อูแชอุน เริ่มสืบหาปริศนาการตายรอบตัวของพวกเขา และทั้งคู่ได้เจอกับความจริงที่ซ่อนอยู่หลังเหตุการณ์เหล่านั้น
ซีรีส์เรื่องนี้เป็นผลงานของนักเขียนบท อีซูยอน ที่เคยฝากผลงานงานไว้ในเรื่อง Stranger (2017) และ ผู้กำกับ พัคชอลฮวาน ที่เคยร่วมงานกับ Disney+ มาแล้วในเรื่อง Grid (2022)
ฮันฮโยจูบอกว่าเธอพยายามถ่ายทอดตัวละครให้ออกมาลึกลับและมีปริศนาซ่อนอยู่
“ฉันอยากให้ ยุนจายู เป็นคนที่ดูลึกลับเวลาที่เห็นเธอครั้งแรก ไม่รู้ว่าเธอเป็นคนดีหรือไม่ดี เพราะว่าเธอไม่ค่อยแสดงอารมณ์ ฉันเลยต้องคิดว่าทำอย่างไรถึงจะแสดงสีหน้าออกมาให้หลากหลายให้ได้”
“ฉันพยายามสร้างตัวละครที่เหมือนกับใบไม้ที่ร่วงไปแล้ว ไม่เปิดเผยความรู้สึกของเธอ”
จูจีฮุน รับบทเป็น อดีตทหารที่เข้าหายุนจายูด้วยความลับบางอย่าง
“อูแชอุน เป็นทหารที่ผันตัวมาเป็นบอดี้การ์ด เขาเคยได้รับคำสั่งให้ปกป้องประธานาธิบดีจากการถูกลอบทำร้าย เขาปกปิดตัวตนเพื่อหาคนที่บงการการลอบทำร้ายนั้น”
“ผมรู้สึกท้าทายเพราะว่าฉากในซีรีส์เป็นเรื่องที่เกิดในอนาคตอันใกล้ ผมคิดว่าเขาต้องดูสมจริงเพื่อทำให้เนื้อเรื่องสามารถโน้มน้าวผู้ชมให้เชื่อได้”
ผู้กำกับพัคชอลฮวาน บอกว่าซีรีส์เล่าเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ เขาจึงพยายามจะทำให้สมจริงที่สุดแม้ว่าจะเป็นซีรีส์แนวไซ-ไฟก็ตาม
“ตอนที่เราถ่ายทำ ผมไม่คิดว่าเรื่อง AI จะกลายเป็นประเด็นร้อนแบบในทุกวันนี้ ผมแค่อยากทำให้มันไม่ดูกระอักกระอ่วนก็พอ”
“ตอนนี้ในชีวิตจริงก็มีเทคโนโลยี AI หรือการสร้างเซลล์เกิดขึ้นแล้ว การหาข้อมูลจากบริษัทจริงๆจึงเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เกิดความสมจริง ไซ-ไฟ คือส่วนหนึ่งของซีรีส์ แต่พอคุณได้ดูเรื่องนี้แล้ว มันจะมีเรื่องที่น่าติดตามจากเนื้อเรื่องที่สมจริงอยู่ด้วย”