วันที่ 3 ตุลาคม จีซึงฮยอน (Ji Seung Hyun) ได้ไปร่วมรายการ Donor Hyeong ของชินดงยอบ (Shin Dong-yeob) ทาง YouTube ระหว่างรายการ ชินดงยอบถามเขาว่า
“เมื่อไหร่ที่คุณไปถึงเป้าหมายในอาชีพของคุณ ทั้งทางด้านรายได้และชื่อเสียง เป็นตอนที่คุณคิดว่า ‘ฉันจะทำอาชีพนักแสดงต่อไป’?”
จีซึงฮยอนตอบว่า
“คนอาจจะคิดว่าถ้าคุณได้ออกทีวี คุณก็คงจะได้เงินเยอะ ตอนที่เรื่อง ‘Descendants of the Sun’ ฮิตมาก แต่ในปีนั้นผมได้เงินแค่ 2 ล้านวอน (ประมาณ 50,000 บาท) จากงานแสดง แต่ตอนนั้นคนก็ยังเอาแต่ถามกันว่าผมจะย้ายไปอยู่บ้านที่ดีกว่าเดิมไหม ช่องว่างระหว่างสิ่งที่พวกเขาคิดกับความเป็นจริงทำให้ผมรู้สึกทำตัวไม่ถูก”
เขาพูดต่อ
“คนคิดไปเองว่าผมได้เงินเยอะ แต่คือก็ไม่รู้ว่าจะบอกความจริงพวกเขายังไง ผมรู้สึกอายเวลาอยู่ต่อหน้าพ่อแม่ด้วย เพราะว่าพวกเขามักจะถูกถามประมาณว่า ‘ทำไมไม่ย้ายไปอยู่บ้านที่ดีกว่านี้? ตอนนี้ลูกชายของคุณดังแล้วนะ’ ผมแสดงมา 18-19 ปี แต่จำนวนปีที่ผมได้เงินเท่ากับเงินเดือนเฉลี่ยของพนักงานบริษัทน้อยกว่า 5 ปีเสียอีก”
จีซึงฮยอนพูดต่อ
“พอผมได้เงินจากการแสดงไม่มากพอ ผมก็ไปทำงานพาร์ท-ไทม์บ่อยๆ ผมทำงานที่ร้านแกงกะหรี่ของญาติที่ยออึยโด แล้วมีอยู่วันหนึ่ง เพื่อนนักแสดงคนหนึ่งมาที่ร้าน ตอนนั้นผมได้แสดงในหนังเรื่อง Wish แล้ว และได้รับบทสมทบเล็กๆในซีรีส์ ผมไม่อายที่จะทำงาน แต่ผมรู้สึกดิ่งเพราะว่าสิ่งที่ผมทำอยู่ไม่ใช่งานของผม”
เขาเล่าต่อ
“เพราะว่าร้านอยู่ที่ยออึยโด เลยจะมีนักแสดงมาทานอาหารหลังจากที่ถ่ายทำเสร็จกับผู้จัดการและสไตล์ลิสต์ ผมคิดว่า ‘ฉันต้องทำงานของตัวเองในตอนนี้ นี่ฉันกำลังทำอะไรอยู่?’ และผมตั้งคำถามกับตัวเอง”
จีซึงฮยอนเล่าติดตลกว่า
“ผมถึงกับใส่หมวกและแว่นเพื่อไม่ให้คนจำได้ พอมองย้อนกลับไป ผมคิดว่าตอนนั้นผมไม่ต้องทำขนาดนั้นก็ได้”
ที่มา sbsstar
