เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ รายการ ‘You Quiz on the Block’ ทางช่อง tvN ได้ออกอากาศตอนพิเศษที่มีชื่อว่า “The Miracle of Family” ซึ่งมีนักแสดงตลก ยังเซฮยอง (Yang Se Hyung) และ ยังเซชาน (Yang Se Chan) มาแบ่งปันความทรงจำอันซาบซึ้งเกี่ยวกับพ่อผู้ล่วงลับของพวกเขา

ในระหว่างรายการ ยูแจซอก (Yoo Jae Suk) ถามว่า “บทกวีของคุณมีการกล่าวถึงพ่อของคุณมากมาย ผมเลยสงสัยว่าเขาเป็นคนแบบไหนกันครับ”

ยังเซฮยอง ตอบว่า “เขาเป็นคนที่พูดตรงอยู่นิดหน่อย แต่เขาอยู่เคียงข้างเราเสมอครับ แม่ของผมค่อนข้างดุ และพ่อของผมก็มักจะเป็นคนมาคอยปลอบโยนและสนับสนุนเราในหลาย ๆ ด้านครับ”

ยังเซชาน ทบทวนความทรงจำของตัวเองโดยกล่าวว่า “พ่อของผมเสียชีวิตตอนที่ผมอายุ 30 กว่า ทั้งที่ตอนที่ผมอายุ 20 ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาป่วย เวลาผ่านไปเร็วมากเลยครับ”

เมื่อนึกถึงช่วงเวลาที่พ่อป่วยหนัก ยังเซฮยอง เล่าว่า “ในตอนนั้นผมพยายามไม่ร้องไห้ แต่น้องและแม่ของผมร้องไม่หยุดเลย ผมรู้สึกว่าถ้าผมแตกสลายไปอีกคนจะไม่มีใครคอยประคองผมอีกแล้วครับ ตอนนั้นเองที่ผมเข้าใจอย่างแท้จริงว่าการกลืนน้ำตามันเป็นอย่างไรครับ”

เขากล่าวต่อว่า “หลังจากพ่อของผมเสียชีวิต ผมไม่สามารถลบเบอร์ของเขาได้ แทนที่จะทำอย่างนั้น ผมกลับส่งข้อความหาพ่อเพื่อบอกสิ่งที่ผมอยากจะพูด ทุกครั้งที่ผมต้องตัดสินใจขั้นสุดท้าย ผมมักจะถามพ่อเสมอเพราะคำพูดของเขาถูกต้องเสมอครับ”

เมื่อไตร่ตรองถึงความรับผิดชอบในการตัดสินใจโดยปราศจากคำแนะนำจากพ่อ ยังเซฮยอง ยอมรับว่า “หลังจากที่เขาเสียชีวิต ผมต้องเริ่มตัดสินใจเองทั้งหมด ถึงแม้ว่าผมจะอายุ 30 หรือ 40 กว่าแล้ว แต่ผมก็รู้สึกเหมือนตัวเองยังเด็กอยู่เลยครับ เวลาที่ผมพยายามตัดสินใจแบบผู้ใหญ่ มันเป็นอะไรที่ยากมาก ผมแค่หวังว่าจะได้ยินเขาบอกว่า ‘ลูกทำได้ดีแล้ว’ ครับ”

จากนั้น ยูแจซอก ก็เล่าถึงเหตุการณ์หนึ่งว่า “ประมาณหนึ่งปีแล้วเห็นจะได้ที่ เซชาน เข้าโรงพยาบาล ผมโทรหาเขาแล้วเขาก็บอกว่า ‘เซฮยอง อยู่ที่นี่กับผม’”

ยังเซชาน เล่าเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพของเขาว่า “ทุกวันนี้ ผมจะป่วยหนักอย่างน้อยปีละครั้ง และทุกครั้งที่ผมต้องผ่าตัด พี่ชายของผมจะอยู่ที่นั่นเสมอ เนื่องจากทุกคนในครอบครัวของผมค่อนข้างอายุสั้น ผมจึงต้องดูแลตัวเองให้ดี พี่ชายของผมมักจะทำให้บรรยากาศผ่อนคลายเสมอ เมื่อผมกลับมาจากโรงพยาบาลหลังจากผ่าตัด เขาบอกกับผมว่า “สุขภาพของนายเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด” แต่แล้วเขาก็เริ่มวิดพื้นข้าง ๆ ผม ขณะที่ผมนอนลงครับ”

ยังเซฮยอง หัวเราะและกล่าวว่า “ตอนที่ผมเห็นแบบนั้น ผมก็คิดว่า ‘ใช่ เซฮยอง เราต้องรักษาสุขภาพ’ มันทำให้ผมมีกำลังใจ ช่วงเวลานั้นช่วยให้ผมฟื้นพลังได้ เขาทำให้ผมหัวเราะอีกครั้ง และผมก็รู้สึกขอบคุณเขามากจริง ๆ ครับ”

ยังเซชาน ซึ่งเต็มไปด้วยอารมณ์ หันไปหาพี่ชายของเขาแล้วกล่าวว่า “มีสิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะบอกพี่—ตอนนี้ผมอายุ 40 พี่ก็อายุ 41 แล้ว ผมไม่ใช่เด็กน้อยที่เคยเดินตามพี่ไปทุกที่และควรต้องกังวลตลอดเวลาอีกต่อไปแล้ว ผมหวังว่าพี่จะไม่เป็นห่วงผมมากเกินไปครับ” จากนั้นเขาก็ร้องไห้ออกมา