เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม HYBE ได้รับการตรวจสอบโดย คณะกรรมการวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว สภานิติบัญญัติแห่งชาติ และได้มีการเปิดเผยรายงานกระแสวงการเพลงประจำสัปดาห์ของบริษัท ซึ่งเป็นรายงานภายในของบริษัท โดยรายงานนี้มีประมาณ 18,000 หน้า แต่ละหน้าเป็นการวิเคราะห์และแสดงความคิดเห็นต่อศิลปินเกาหลีจากต้นสังกัดอื่น ไม่ว่าจะเป็น SM Entertainment, JYP Entertainment, YG Entertainment และอีกมากมาย วิจารณ์ทั้งหน้าตา, ความสามารถ, พูดถึงข่าวลือที่ยังไม่ได้รับการยืนยัน, พูดคุยกันเรื่องวางแผนในการเอาชนะวงจากต่างบริษัท และอื่นๆอีกมากมาย
รายงานประมาณ 20 หน้า หลุดออกมาในโลกออนไลน์ และถูกส่งต่อเป็นวงกว้าง ทำให้ HYBE ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง
วันที่ 29 ตุลาคม ซึงกวาน (Seungkwan) ได้ออกมาโพสผ่านอินสตาแกรมถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า:
คลิก!!! |
“ผมไม่อยากเห็นคนทำร้ายกันอีกแล้ว พอมาดูทุกสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ผมพยายามควบคุมอารมณ์, คิดว่าสุดท้ายทุกสิ่งจะผ่านไป และจะทำงานอย่างหนักกับสมาชิกในวงเหมือนที่เคยทำมา แต่การที่แค่เฝ้าดูสถานการณ์และหวังว่าไฟจะสงบลงคงไม่ใช่ตัวเลือกที่เหมาะสมแล้ว ผมรู้สึกว่าผมอยู่เงียบๆไม่ได้แล้วเพราะว่าเพื่อนร่วมงานของผมที่ทำงานหนักจนถึงตอนนี้, แฟนคลับของผม, สมาชิกในวงของผม และคนอื่นๆกำลังเจ็บปวดอยู่
โพสนี้อาจจะดูเป็นการยุ่งเรื่องของคนอื่นและด่วนสรุป แต่ผมก็รวบรวมความกล้าที่จะทำ การเป็นคนดังเป็นอาชีพที่ผมเลือกแล้ว และแม้ว่าจะมีส่วนที่ผมต้องอดทน เพราะการที่ได้รับความรักมากมายเช่นนี้ แต่ผมก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นงานที่เราต้องอดทนจนถึงขั้นทำร้ายตัวเองและตายไปกับมัน
ผมแค่อยากทำส่วนของผมให้ดีที่สุด และแสดงความรับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับมา ตอบแทนแฟนคลับที่รักและส่งต่อพลังงานที่ดีที่ผมได้รับมา มันเป็นเรื่องจริงที่มันเป็นภาระ เป็นความกดดัน และทำให้ทั้งร่างกายและจิตใจอ่อนล้าได้
แต่สุดท้ายเราก็ต้องยอมรับช่วงเวลานี้ บางคนเลือกมองมันในมุมที่มีเหตุมีผล, บางคนยิ้มให้กับมัน และบางคนอาจจะคิดว่ามันยาก และพยายามปรับตัวและอดทน เพราะว่าเราเลือกเส้นทางนี้แล้ว แต่วันนี้เหมือนเหตุผลนั้นจะดูโหดร้ายเกินไป
ก็เหมือนกับบางวันที่ฟ้าสดใส และบางวันก็มีเมฆ วันนี้เป็นวันที่มีเมฆหมอกหนาสำหรับผม ผมเองก็เช่นกัน ผมมีวันที่ต้องผ่านมาโดยพยายมคิดบวก ผมเองก็เช่นกัน มีวันที่พยายามยิ้มไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม แต่วันนี้ มันไม่ง่ายเลย และผมรู้สึกเสียใจต่อคนที่เจ็บปวดจากเรื่องนี้ รู้สึกเสียใจที่ผมไม่สามารถโอบกอดพวกเขาทั้งหมดเอาไว้ได้
ผมไม่รู้ว่าคำพูดที่ไม่ได้เรียบหรูของผมจะส่งไปถึงใครไหม แต่ถ้ามันจะช่วยปลอบโยนทุกคนได้ก็คงดี รวมถึงสมาชิกในวงของเรา เพื่อนร่วมวงการที่ผมรู้ว่าทำงานหนักแค่ไหนในวงการเคป็อปที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้ คนที่รักงานนี้ด้วยใจบริสุทธิ์
เพราะว่าพวกเขาตั้งใจ พวกเขาเลยเจ็บปวด และเพราะว่าพวกเขารักมาก บางครั้งเลยทำให้รู้สึกว่างเปล่า แต่จนถึงตอนนี้ พวกเขาก็ยังใช้ชีวิตด้วยการรับและส่งมอบความรักให้กับตัวเอง, สมาชิกในวง, ครอบครัวของพวกเขา และแฟนคลับของพวกเขา
สิ่งที่ผมอยากจะบอกให้ชัดเจนเลยคือ เราไม่ใช่คนที่ทำงานบนเส้นทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ และราบรื่นเหมือนที่คนมองเข้ามา เราเจอกับความเจ็บปวด, แตกหัก และเราต้องก้าวผ่านมัน เพื่อจะได้แสดงให้แฟนคลับเราเห็นถึงการแสดงที่ดีที่สุดบนเวที ผมหวังว่าคนจะไม่มองว่าการเป็นไอดอลเป็นเรื่องง่าย
คุณไม่มีสิทธิ์มาแทรกแซงสิ่งที่พวกเราต้องการจะถ่ายทอด ไม่ใช่แค่พวกเรา แต่ศิลปินคนอื่นก็เช่นกัน พวกเราไม่ใช่สิ่งของของคุณ ผมหวังว่าคุณจะไม่คิดว่าคุณสามารถใช้และสนุกไปกับพวกเราได้ตามที่คุณต้องการ
พลังกายของเราถูกใช้ไปหมดภายใน 1 สัปดาห์ของการโปรโมท แม้ว่าจะเป็นอย่างนั้น เราก็ต้องทำงานโฆษณา, อีเว้นท์, ขึ้นแสดง และงานอื่นๆ แต่ก็ยังมีเพื่อนร่วมวงการอีกหลายคนที่มาทักทายผมด้วยรอยยิ้มอบอุ่นมากกว่าที่ผมสามารถทำได้เสียอีก เวลาที่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ผมยิ้มตอบพวกเขา นี่คือทั้งหมดที่ผมสามารถทำให้พวกเขาได้
เวลาที่พวกเขาทักทายผมด้วยรอยยิ้มสดใส ช่วงเวลานั้นมีความหมายและงดงาม แม้ว่าจะเป็นการทักทายกันตามมารยาท แต่ก็มอบพลังให้กับผมยามเหนื่อยล้า ผมแค่หวังว่าทุกคนจะสามารถทำงานได้โดยไม่เจ็บปวดและสุขภาพดี
ผมชอบวัฒนธรรมชาเลนจ์นะ ไม่ว่าเราจะสนิทกันหรือไม่ แต่การได้ทำชาเลนจ์ด้วยกัน เต้นเพลงของกันและกันในสถานที่นอกเหนือจากเวที เป็นอะไรที่งดงาม เหมือนได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง ได้สร้างความทรงจำเล็กๆด้วยกัน แล้วก็ดีมากขึ้นไปอีกถ้าแฟนๆชอบ แม้ว่าเราจะไม่รู้จักกัน แต่ผมรู้สึกดีที่เราสามารถส่งกำลังใจเล็กๆให้กันผ่านคำว่า ไฟว์ติ้ง! ถึงแม้จะมีบรรยากาศทำตัวไม่ถูก และเขินอายหน่อยตอนที่ถ่ายเสร็จก็ตาม
การเจอกันด้วยความเคารพ และการได้ช่วยเพียงเล็กน้อยก็ถือว่าความหมายและน่าขอบคุณแล้ว
ผมอยากจะเริ่มก่อน และผมหวังว่าเราจะเป็นคนที่อบอุ่นขึ้นได้อีกหน่อย การได้เห็นความอบอุ่น, กำลังใจ, ความรัก ที่เรามอบให้แก่กัน คงทำให้อะไรๆดีขึ้น ผมไม่อยากเห็นใครสิ้นหวังและสุดท้ายก็ยอมแพ้ ผมหวังจากใจจริงว่าเราจะหยุดสร้างบาดแผลที่เราไม่สามารถรับผิดชอบได้ ผมไม่อยากเห็นสมาชิกของผม, เพื่อนร่วมวงการทุกคนของผมที่จนถึงตอนนี้ก็ยังทำงานอย่างหนัก, ทีมงานที่ทำงานกับเราอย่างจริงใจ และแฟนคลับของเราต้องเจ็บปวดอีกแล้ว ถึงแฟนคลับที่รักเราจนถึงตอนนี้ ผมอยากจะขอโทษ และบอกว่าผมรักคุณนะครับ”
ซึงกวานยังได้โพสจดหมายจาก แฮวอน (Haewon) วง NMIXX ที่มอบให้เขาพร้อมอัลบั้ม Fe3O4: STICK OUT เธอเขียนว่า:
“ฉันเชื่อว่าไม่มีอะไรที่จะท้าทายและมีความหมายไปกว่าการสร้างความสนุกและเสียงหัวเราะให้กับผู้คน
และคุณทำแบบนั้นทั้งในฐานะศิลปิน รวมถึงเวลาไปออกรายการวาไรตี้
เพลงของคุณมีอิทธิพลกับฉันมาก
เป็นแรงบันดาลใจ, เห็นอกเห็นใจ, ความทรงจำ และปลอบใจ
มันเกิดขึ้นได้เพราะคุณทำทุกอย่างด้วยความรู้สึกจริงใจ ฉันหวังว่าจะเติบโตไปถึงจุดที่ฉันสามารถแบ่งปันความจริงใจให้กับใครซักคนได้ในซักวันหนึ่ง โปรดเฝ้ามองฉันจนถึงตอนนั้นนะคะ
ขอบคุณ
จากแฮวอน ถึง รุ่นพี่บูซึงกวาน “
PLEDIS ต้นสังกัดของ Seventeen ถูกซื้อกิจการโดย HYBE เมื่อปี 2020 และอยู่ภายใต้การดูแลของ HYBE มาตั้งแต่นั้น
ที่มา soompi