●ชื่อ: รยูซึงบอม
| คลิก!!! |
●ว/ด/ปีเกิด: 9 สิงหา 1980
●สถานที่เกิด: อาซัน, จังหวัดชุงชองใต้, เกาหลีใต้
●สัญชาติ: เกาหลี
●การศึกษา: Daedong Commercial High School (ลาออก)
●สถานะ: แต่งงาน มีลูกสาว 1 คน
●ส่วนสูง: 175 cm
●ศาสนา: คริสต์ นิกายโปรแตสแตน
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเขา, การออกเดท และชีวิตส่วนตัว
รยูซึงบอมเกิดในครอบครัวที่ประกอบด้วยแม่, พ่อ และพี่ชายซึ่งเป็นผู้กำกับภาพยนตร์อย่างรยูซึงวาน
เขาเกิดที่อาซัน จังหวัดชุงชองใต้ แต่ย้ายไปโซลตอนเรียนประถม ก่อนจะย้ายกลับมาที่เมืองเล็ก ๆ ในจังหวัดชุงชองใต้คืออนยังตอนอยู่ม.ต้น จากนั้นเขาจึงกลับมาโซลอีกครั้งเพื่อเรียนม.ปลาย แต่สุดท้ายก็ลาออกก่อนจะเรียนจบ รยูซึงบอมเล่าว่าเขาพยายามอย่างหนักเพื่อหาแรงบันดาลใจในการเรียน แต่เขากลับทุ่มเทให้กับการแสดงได้อย่างง่ายดาย จึงทำให้เขาเลือกเส้นทางอาชีพนี้
รยูซึงบอมเริ่มคบหาดูใจกับกงฮโยจิน นักแสดงชื่อดังในปี 2002 หลังจากร่วมงานกันใน “Wonderful Days” ตามรายงานของ Naver ความสัมพันธ์ของพวกเขาเคยถูกล้อเลียนเพราะรูปลักษณ์ของรยูซึงบอมและความดังของกงฮโยจินที่ดังกว่าเขามาก แม้จะโดนวิพากษ์วิจารณ์ แต่ทั้งคู่ก็ยังคงอยู่เคียงข้างกันในงานต่าง ๆ เดินทางด้วยกัน และสนับสนุนกันในกองถ่ายภาพยนตร์ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่กลายเป็นประเด็นร้อนอีกครั้งเมื่อไม่นานนี้ หลังจากนักแสดงอีอีคยองพูดถึงอดีตคนรักของเขา จองอินซอน ในงาน SEOULCON APAN STAR AWARDS ประจำปี 2024
แต่หลังจากคบหาดูใจกันมา 10 ปี ทั้งคู่ก็ตัดสินใจแยกทางกัน ต่อมากงฮโยจินก็ยอมรับว่าเธอเกรงว่าแฟนเก่าของเธอจะรู้สึกแย่กับข่าวลือที่เชื่อมโยงเธอกับนักแสดงชายที่ร่วมแสดงด้วยกัน
ปี 2020 รยูซึงบอมแต่งงานกับคนนอกวงการชาว Slovakia ซึ่งอายุน้อยกว่าเขา 10 ปี และมีรายงานว่าเป็นจิตรกรในฝรั่งเศส พวกเขามีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคนในปี 2020
ในขณะเดียวกัน กงฮโยจินเคยคบกับอีจินอุคในปี 2014 ก่อนที่จะแต่งงานกับนักร้อง-นักแต่งเพลง Kevin Oh ในปี 2022
เส้นทางอาชีพ
เพราะพี่ชายของเขา รยูซึงวาน เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ที่มีความทะเยอทะยาน เขาจึงได้ถ่ายทำภาพยนตร์สั้นทุนต่ำ 4 เรื่อง นำแสดงโดยตัวเขาเองและเพื่อนอีกหลายคน ระหว่างปี 1996-1999 ภาพยนตร์สั้นเหล่านี้ได้รับการตัดต่อใหม่และรวมเข้าด้วยกันในภายหลัง นับเป็นผลงานการกำกับเรื่องแรกของรยูซึงวาน จากเรื่อง Die Bad ในปี 2000 และกลายเป็นภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จในทันที นอกจากนี้ยังทำให้รยูซึงบอมได้รับรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจากงาน Grand Bell Awards อีกด้วย
SBS มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนรยูซึงบอมให้กลายเป็น “ดาราที่ส่องประกาย” โดยเลือกให้เขาแสดงนำใน “Wonderful Days” ร่วมกับจีซอง, พัคซอนยอง และกงฮโยจิน ซีรีส์เรื่องนี้เล่าชีวิตของวัยรุ่นเกาหลีที่ได้รับอิทธิพลจากการอเมริกาในช่วงต้นปี 1980 รยูซึงบอมรับบทเป็นชายหนุ่มกบฏและหยิ่ง เมื่อเผชิญหน้ากับผู้หญิงที่รอบรู้และมีประสบการณ์ เขาจะเปลี่ยนตัวเองเป็นคนไร้เดียงสาแต่กล้าหาญ พร้อมที่จะเผชิญกับอันตรายเพื่อนำความสุขกลับคืนมาให้เธอ
ในช่วงแรกผู้ชมลังเลที่จะสนับสนุนรยูซึงบอม แต่เมื่อซีรีส์ดำเนินไป เขาก็เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นแซงหน้าจีซอง รยูซึงบอมได้รับรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจากงาน SBS Drama Awards เมื่อปี 2001 ถือเป็นจุดเปลี่ยนในอาชีพการงานของเขา
ปี 2002 รยูซึงบอมได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์แนวนักเลง-ปล้นเรื่อง “No Blood No Tears” นำแสดงโดยจอนโดยอนและจองแจยอง จบลงด้วยความผิดหวังจากคำวิจารณ์และรายได้จากโรงหนัง อุปสรรคมากมายทำให้เขาเริ่มหันหลังให้กับชื่อเสียง โดยหันไปร่วมงานกำกับของพี่ชายตนเอง โดยรับบทในภาพยนตร์รวมเรื่อง “No Comment” และภาพยนตร์ชื่อดังของพัคชานอุคเรื่อง “Sympathy for Mr. Vengeance”
แรงบันดาลใจจากรยูซึงบอมใน “Conduct Zero” ทำให้เกิดกระแสใหม่ขึ้นในเกาหลีใต้ เป็นความหลงใหลในนักแสดงที่ไม่ได้หล่อทั่วไป แต่มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่ดึงดูดผู้ชม เช่น MC Mong และบงแดกยู
ปี 2004 เขากลับมาเล่นซีรีส์เรื่อง “Sunlight Pours Down” เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจมากเพราะรยูซึงบอมห่างหายจากการแสดงซีรีส์ ซีรีส์เรื่องนี้จึงไม่ประสบความสำเร็จ เขาจึงตัดสินใจที่จะทุ่มเทให้กับบทบาทในจอเงินเพียงอย่างเดียวในช่วงหลังของอาชีพนักแสดง
ปี 2005 รยูซึงบอมได้รับคำชมอย่างมากจากภาพยนตร์เรื่อง “Crying Fist” ชเวมินซิกและนักแสดงคนอื่น ๆ ได้ฝึกมวยสากลกันเองเล่นโดยไม่ใช้ตัวแสดงแทนและแลกหมัดกันอย่างดุเดือด การแสดงครั้งนี้ทำให้รยูซึงบอมได้รับการยอมรับในฐานะนักแสดงชั้นนำคนหนึ่งของยุคนั้น ณ เกาหลีใต้
หลังจากผันตัวไปทำโปรเจ็กต์เชิงพาณิชย์เพียงช่วงสั้น ๆ รยูซึงบอมก็กลับมาเล่นภาพยนตร์แนว noir อีกครั้งเรื่อง “Bloody Tie” ทำให้เขาได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากงาน Golden Cinematography Awards และ Baeksang Arts Awards
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา รยูซึงบอมก็ได้พิสูจน์ฝีมือการแสดงของเขาผ่านโปรเจ็กต์ที่ประสบความสำเร็จอื่น ๆ เช่น “The Unjust”, “Perfect Number” และ “The Berlin File” ในปี 2010
หลังจาก “The Berlin File” เขาก็หยุดพักการแสดง เพราะไม่อยาก “ผลิตเนื้อหาเชิงพาณิชย์มากเกินไป” จากนั้นเขาก็เดินทางไปทั่วยุโรปและใช้ชีวิตในปารีสเป็นเวลา 3 ปี โดยทำงานเป็นนายแบบ
ในที่สุดรยูซึงบอมก็กลับมาแสดงอีกครั้งในปี 2015 ด้วยบทนำใน “Intimate Enemiesbe” ตามด้วย “Human, Space, Time and Human” และ “Tazza: One Eyed Jack”
เดือนมีนาคม 2023 เขาเซ็นสัญญากับ Y One Entertainment
นอกจากนี้ ตั้งแต่ปี 2007 นักแสดงยังทำงานเป็นดีเจที่มีคนต้องการตัวโดยใช้ชื่อ “DJ Ryoo”