คลิก!!!

พ่อเล่นกับลูกอย่างไร ให้สนุกและปลอดภัย (รักลูก)

โดย: รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์

เด็ก ๆ ที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับพ่อ จะมีพัฒนาการดีในทุกด้าน ทั้งความรู้ความคิดก็จะมีความปราดเปรื่อง ส่วนพ่อเองนั้น ก็จะรู้สึกผูกพันรักใคร่และภาคภูมิใจ มีจิตใจที่ปิติสุขอย่างยิ่ง

โดยมากคุณพ่อมักเล่นกับลูกอย่างคึกคัก มีวิธีแปลก ๆ ใหม่ ๆ ไม่น่าเบื่อ ชอบยกลูกขึ้นสูง ๆ แล้วแกว่งไปแกว่งมา จับลูกห้อยหัวลง ชอบวิ่งเล่นวิ่งไล่ ได้ออกแรงได้หัวเราะกันอย่างสุด ๆ จนลูก ๆ ติดใจเจอพ่อทีไรก็มักอ้าแขนหรือโผเข้าใส่ (ทำให้คิดแล้วสะท้อนใจนัก สำหรับ เด็กที่ไม่มีประสบการณ์ดี ๆ เช่นนี้กับคุณพ่อ)

แม้ว่านี่คือห้วงเวลาอันมีค่าน่าอัศจรรย์สำหรับเด็กๆ แต่หากคุณพ่อผู้แสนน่ารัก สนุกจนลืมยึดหลัก “ปลอดภัยไว้ก่อน” มันก็อาจกลายเป็นห้วงเวลาที่นำความทุกข์โศกมาให้อย่างยาวนาน…!!!

1. จับลูกห้อยหัว โยนสูง ๆ แล้วรับ จริงอยู่ที่ลูกมักชอบให้พ่อยกลูกขึ้นสูง ๆ แล้วแกว่งไปแกว่งมา จับลูกห้อยหัวลง แต่ควรระมัดระวังอย่างยิ่ง หรือหาวิธีเล่นกับลูกที่ตื่นเต้นและปลอดภัยกว่านี้ เพราะอย่าลืมนะครับว่า สมองของเด็ก ๆ นั้นมีเซลล์ประสาทมากมายมหาศาล ซี่งรอการสร้างเส้นใยประสาทเพื่อการเชื่อมโยงเป็นเครือข่าย ใช้ในการรับส่งข้อมูลที่มีการพัฒนาอันซับซ้อนเกินบรรยาย

การพลัดตกลงมาของทารกน้อยหรือเด็กเล็กอันตรายมากเพียงใด คงไม่ต้องกล่าวถึง อย่างเบาะ ๆ ก็หัวโนหัวปูด หรือหัวแตกเลือดอาบจนคุณหมออาจต้องเย็บกันหลายเข็ม และที่ร้ายแรงก็คือการมีเลือดคั่งในสมอง อันตรายสุดๆ อยู่ตรงที่ หลังการพลัดตกใหม่ๆ อาจจะไม่มีบาดแผลอะไรเลย จึงปล่อยเลยตามเลย ไม่ได้ส่งไปตรวจรักษาโดยด่วน อาการเลือดคั่งในสมองที่พอสังเกตได้ก็ คือ ซึมลง งอแง ยกแขนขาผิดปรกติ การทรงตัวไม่ดี อาเจียน ไม่ดูดนม หรือการนอนผิดปรกติ เด็กโตอาจบอกได้ว่ามีอาการปวดหัว มึนงง

ดังนั้น อย่าจับลูกห้อยหัว โยนสูงๆแล้วรับ หรือยกลอยเขย่าแรงๆครับ

2. จับลูกยกลอยแล้วเขย่าแรง ๆ นอกจากการพลัดตก หัวกระทบของแข็งหรือกระแทกพื้น การยกลูกตัวลอยแล้วเขย่า ๆ ไปมา รุนแรงยังเสี่ยงต่อการตาบอดและความพิการอื่น ๆ หรือ เสียชีวิต เนื่องจากสมองของเด็กที่ได้รับการกระทบกระเทือน อย่าลืมนะครับว่าเด็กวัยแบเบาะนั้นศีรษะจะโตและหนัก หนำซ้ำกล้ามเนื้อและกระดูกส่วนคอก็ยังไม่ค่อยแข็งแรง การโดนผู้ใหญ่เขย่ าๆๆๆ อย่างรุนแรงจะมีผลให้เกิดอาการเลือดคั่งใต้เยื่อหุ้มสมอง บางครั้งอาจเกิดเลือดออกในเส้นประสาทตา ทำให้มีปัญหาต่อการมองเห็นได้ด้วย

3.ขับรถกล่อมนอน คุณพ่อตัวร้ายเลยครับ ไม่ยอมช่วยแม่อุ้มเมื่อลูก ๆ งอแง พอถูกเซ้าซี้มากหน่อย เลยอุ้มลูกขึ้นรถนั่งหน้าตัก หน้าพวงมาลัยกันเลย ลูก ๆ พอรถออก สั่น ๆ เล็กน้อยก็พลอยเงียบเสียด้วย ติดใจเลยทำบ่อย ๆ เรื่องนี้ต้องเตือนกันครับ อันตรายอย่างมาก หากถุงลมระเบิดออกมาขณะเกิดอุบัติเหตุ ลูกเราจะโดนเต็ม ๆ และอาจเสียชีวิตได้ ทั้งจากอุบัติเหตุรุนแรงหรืออุบัติเหตุไม่รุนแรง

4. วิ่งไล่จับ เข็นรถนั่ง หัด เตะบอล คุณพ่อมักจะส่งเสริมการพัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่ การทรงตัว เช่น การออกกำลังกายรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะวิ่ง โยนรับลูกบอล

คุณพ่อบางคนอยากให้ลูกสนุกเร้าใจมากไปหน่อย จึงวิ่งไล่ลูกแถมทำเสียงฮึ่ม ๆ แฮ่ ๆ ลุกจึงวิ่งเร็วจี๋ทั้งสนุกทั้งตื่นเต้น และอาจลื่นล้มได้ครับ ซึ่งการลื่นล้มของเด็ก ๆ (หรือแม้แต่ผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ) ยังอาจทำให้ขา หรือแขนได้รับบาดเจ็บตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงบาดเจ็บสาหัส คืออาจจะแค่ถลอก เกิดแผลใหญ่ ขาแพลง เส้นเอ็นยึดข้อต่าง ๆ บาดเจ็บ ข้อต่อเคลื่อนเกิดอาการปวดบวม กระทั่งอาจกระดูกหัก

การลื่นล้มหน้าคว่ำของเด็ก ๆ ยังจะทำให้จมูกและปากได้รับการกระทบกระเทือน บางคนก็ถึงกับฟันหักหรือเหงือกฉีกขาด การบาดเจ็บในช่องปากพบได้บ่อยครับ หากฟันหักเหงือกฉีก ก็จะส่งผลต่อการกินไม่ได้กินไม่ดีพลอยทำให้ขาดสารอาหาร น้ำหนักลดไปอีกหลายวันทีเดียว ปัญหาการหกล้มหน้าคว่ำเป็นเรื่องสำคัญ ที่คุณพ่อคุณแม่จะต้องดูแลเป็นพิเศษ ยิ่งฟันคู่แรกของลูกโผล่พ้นเหงือก ยิ่งต้องใกล้ชิดและให้ลูกรักอยู่ในสายตา

ข้อมูลจากกระปุกดอดคอม