หนึ่งเดียวที่จะยืนหยัด
คลิก!!! |
ผลงานจากวอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์สและเลเจนดารี่ พิกเจอร์ส สู่ภาพยนตร์แนวผจญภัยสุดยิ่งใหญ่ที่มีการเฝ้ารอมาอย่างยาวนาน เพื่อพบการเผชิญหน้ากันระหว่าง 2 ตัวละครดังในเรื่อง “Godzilla vs. Kong – ก็อดซิลล่า ปะทะ คอง” กำกับฯ โดย อดัม วินการ์ด
เรื่องราวการปะทะกันในเรื่อง “Godzilla vs. Kong – ก็อดซิลล่า ปะทะ คอง” ระหว่างคู่ต่อสู้แห่งตำนานที่ต่อสู้กันอย่างน่าตื่นเต้นมาอย่างยาวนาน โดยมีชะตากรรมของโลกแขวนอยู่บนเส้นขนาน คองและผู้ดูแลของเขาสัญญากันว่าจะยอมผจญภัยเสี่ยงตายเพื่อหาบ้านที่แท้จริงของเขา โดยมี เจีย สาวน้อยเด็กกำพร้าร่วมทางไปกับพวกเขาจนเกิดความผูกพันอย่างแน่นแฟ้นและไม่เหมือนใคร แต่พวกเขากลับต้องเผชิญหน้ากับก็อดซิล่าที่กำลังคุ้มคลั่ง ปล่อยรัศมีการทำลายล้างกระจายไปทั่วโลก การปะทะกันระหว่างสองยักษ์ใหญ่เกิดจากพลังที่มองไม่เห็น ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของปริศนาที่ซ่อนอยู่ในใจกลางของโลก
ภาพยนตร์นำแสดงโดย อเล็กซานเดอร์ สการ์สการ์ด (“Big Little Lies,” “The Little Drummer Girl”), มิลลี่ บ็อบบี้ บราวน์ (“Stranger Things”), รีเบ็คก้า ฮอลล์ (“Christine,” “Professor Marston and the Wonder Women”), ไบรอัน ไทรี เฮนรี่ (“Joker,” “Spider-Man: Into the Spider-Verse”), ชุน โอกุริ (“Weathering with You”), เอซ่า กอนซาเลซ (“Fast & Furious Presents: Hobbs & Shaw”), จูเลียน เดนนิสัน (“Deadpool 2”) ร่วมด้วยไคล์ แชนด์เลอร์ (“Godzilla: King of the Monsters”) และเดเมียน บิเชียร์ (“The Nun,” “The Hateful Eight”)
วินการ์ด (“The Guest,” “You’re Next”) กำกับฯ จากบทภาพยนตร์ของอีริค เพียร์สัน (“Thor: Ragnarok”) และแม็กซ์ โบเรนสเตน (“Godzilla: King of the Monsters,” “Kong: Skull Island”) เนื้อเรื่องโดยเทอร์รี่ รอสซิโอ (“Pirates of the Caribbean: Dead Men Tell No Tales”) และไมเคิล ดัคเฮอร์ตี้ และ แซค ชีลด์ส (“Godzilla: King of the Monsters”) สร้างอิงจากตัวละคร “ก็อดซิล่า” ผลิตและเป็นเจ้าของโดย TOHO CO., LTD. ภาพยนตร์อำนวยการสร้างฯ โดยแมรี่ แพเรนท์, อเล็กซ์ การ์เซีย, อีริค แม็คเลียด, จอน แจชนี่, โธมัส ทุล และ ไบรอัน โรเจอร์ส อำนวยการสร้างบริหารฯ โดยเจย์ อาเชนเฟลเตอร์, เฮอร์เบิร์ท ดับบลิว. เกนส์, แดน ลิน, รอย ลี, โยชิมิตสึ บันโน และ เคนจิ โอคุฮิระ
ทีมงานเบื้องหลังของผู้กำกับฯ ได้แก่ ผู้กำกับภาพ เบ็น เซเรซิน (“The Mummy,” “World War Z”) ผู้ออกแบบฉาก โอเวน พาเทอร์สัน (“Jumanji: Welcome to the Jungle,” “Godzilla”) และโธมัส เอส. แฮมม็อค (“Blair Witch”) ลำดับภาพโดย จอช ชาเอเฟอร์ (“Godzilla: King of the Monsters”) ออกแบบเครื่องแต่งกายโดย แอนน์ โฟลีย์ (“Skyscraper”) และผู้ควบคุมวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ จอห์น “ดีเจ” เดสจาร์ดิน (ผลงานที่กำลังจะฉาย “Zack Snyder’s Justice League”)
วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส และ เลเจนดารี่ พิกเจอร์ส นำเสนอภาพยนตร์จาก a Legendary Pictures Production, A Film By Adam Wingard เรื่อง “Godzilla vs. Kong”
รายละเอียดการถ่ายทำ
“เราต้องการคอง โลกต้องการเขา… เพื่อหยุดยั้งสิ่งที่กำลังจะมาถึง”
–นาธาน ลินด์, โมนาร์ช
เป็นเวลานานหลายทศวรรษที่ยักษ์ใหญ่ในภาพยนตร์อย่างก็อดซิลล่าและคองต่างมีเส้นทางของตัวเอง มีการผจญภัยบนจอยักษ์แยกจากกัน… จนมาถึงตอนนี้ “Godzilla vs. Kong” เป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่มีความยิ่งใหญ่เท่าสัตว์ประหลาด มาพร้อมความอบอุ่น เสียงหัวเราะ และฉากแอ็คชั่นที่อัดแน่นเต็มที่ นี่คือการแข่งขันที่ยาวนานมาหลายยุคจนมาถึงการผจญภัยสุดยิ่งใหญ่ที่ขยายอาณาจักรไปทั่วโลก เป็นการนำสองขั้วอำนาจแห่งธรรมชาติที่มีพลังมากกว่าเดิมมาเผชิญหน้ากัน และปะทะกันหมัดต่อหมัดบนพื้นโลกและท้องทะเล เพื่อทวงสมดุลคืนสู่โลก
ผู้กำกับฯ อดัม วินการ์ด เล่าว่า “ก็อดซิลล่าและคองต่างมีตำนานอันน่าทึ่งในภาพยนตร์ เริ่มแรกเราอาจมองว่าพวกเขาเป็นสัตว์ปะรหลาดจากฝั่งตะวันออกและตะวันตก ก็อดซิลล่าโจมตีโตเกียว ส่วนคองเดินทางสู่นิวยอร์คโดยชายคนหนึ่ง แต่ไม่ว่าคุณจะเข้าใจพวกเขาในรูปแบบไหน พวกเขาคือไอคอนในหนังที่สร้างความตื่นเต้นให้ผู้ชมทั่วโลกได้”
และผู้ชมทุกยุคสมัย “ผมจำตอนเป็นเด็กได้ว่าเคยคุยกับเพื่อนว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะ ระหว่างคิงคองกับก็อดซิลล่า” วินการ์ดหัวเราะ “ในความเป็นจริงแล้วการกำกับเรื่องนี้เริ่มจากการหาข้ออ้างที่จะเหมาะสำหรับการกลับไปหาก็อดซิลล่าและคอง นั่นคือสิ่งแรกที่ผมคิดในตอนที่เริ่มคุยกับเลเจนดารี่ถึงความเป็นไปได้ และมันกลายเป็นแรงจูงใจในการทำหนังเรื่องนี้ของผมขึ้นมาแบบทั่วไป จากจุดเริ่มแรกก็อดซิลล่าพลิกจากวายร้ายมาเป็นฝ่ายดี และกลับมาเป็นวายร้ายอีกครั้ง ผมคิดว่านั่นเป็นวิวัฒนาการที่น่าสนใจดีของทั้งก็อดซิลล่าและคอง ซึ่งจะมีอะไรบ้างที่ทำให้เรื่องราวที่เราอยากเล่าเกี่ยวกับพวกเขามีความสดใสและแปลกใหม่”
ผู้อำนวยการสร้างฯ แมรี่ พาเรนท์ รู้ว่าเรื่องราวนี้คือการจับคู่สิ่งที่แฟนๆ เฝ้ารอกับสิ่งที่จะสร้างความตื่นเต้นให้ผู้ชมได้ ไม่ว่าพวกเขาจะเคยดูหนังภาคก่อนมาแล้วหรือไม่ก็ตาม “เรามีทั้งก็อดซิลล่าและคองมาต่อสู้กันเพื่อความอยู่รอดและดำรงเผ่าพันธุ์ของตัวเอง การนำพวกเขามาเจอกันในสังเวียนแชมป์รุ่นเฮฟวี่เวทจึงเหมือนอีกขั้นของธรรมชาติ” เธอเล่าต่อว่า “แต่เรื่องนี้ก็มีเรื่องราวของตัวเองด้วย แยกตัวเป็นอิสระจากหนังภาคก่อนๆ ทั้งคู่คือสิ่งมีชีวิตที่มีความยิ่งใหญ่ มีความฉลาดและความเห็นใจ ส่วนตัวละครมนุษย์ต่างพากันต่อสู้เพื่อพวกเขาอย่างกล้าหาญเพื่อช่วยพวกเขา เพราะไม่มีความจำเป็นที่ต้องใช้เรื่องราวในอดีตเพื่อนำทางพวกเขาสู่การผจญภัยครั้งใหม่เลย” และไม่ว่าคุณจะอินกับคองหรือก็อดซิลล่าก็ตาม เธอเล่าว่า “มันคือสิ่งที่ทำให้คุณเพลิดเพลินกับป๊อปคอร์นและสนุกไปกับหนัง”
ในหนังไม่ได้มีแค่การต่อสู้ที่เข้มข้นระหว่างสองยักษ์ใหญ่ แต่ยังมีทั้งเรื่องสะเทือนใจ เรียกเสียงหัวเราะ และเรื่องราวลึกลับ วินการ์ดเล่ารายละเอียดว่า “เรื่องราวเริ่มจากจุดที่มนุษย์ยอมรับก็อดซิลล่าในฐานะของผู้ช่วยชีวิตหรือผู้ปกป้อง จากนั้นเราค่อยๆ พลิกเรื่องราว แสดงให้เห็นถึงความแปลกที่เกิดขึ้นกับเขา เขาออกโจมตีและดูไม่สนใจอะไร ซึ่งไม่มีใครรู้เหตุผลว่าเพราะอะไร”
และเขามุ่งหน้าตรงไปหาคองที่ได้รับอิสรภาพจาก Skull Island หลังพิสูจน์แล้วว่าดินแดนอันโดดเดี่ยวแห่งนั้นไม่สามารถทำให้เขาอยู่ที่นั่นได้ตลอดไป
อเล็กซ์ การ์เซีย ผู้อำนวยการสร้างฯ ร่วมกับแพเรนท์, เอริค แม็ดเลียด, จอน แจชนี่, โธมัส ทุล และ ไบรอัน โรเจอร์ส ได้เล่าว่า “สำหรับหนังสัตว์ประหลาดสู้กัน เรามักจะตามหาผู้สร้างภาพยนตร์ที่มีความชอบและเข้าใจในสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ รวมถึงตำนานของพวกเขาอย่างลึกซึ้ง ผู้เล่าเรื่องราวที่รู้ดีว่าทำไมคองและก็อดซิลล่ายังคงครองใจผู้ชมมานานแสนนาน แต่ต้องเป็นคนที่มีความตื่นเต้นกับการสร้างสิ่งแปลกใหม่ให้พวกเขาด้วย อดัมมีวิชวลสไตล์ที่โดดเด่น และสิ่งที่เขากับผู้เขียนบทฯ ได้ฝากผลงานไว้ในหนังเรื่องนี้ ทั้งเรื่องราวที่มีลูกเล่นและความงดงามต่างๆ มันออกมาดูมีชีวิตชีวามาก”
บทภาพยนตร์เป็นผลงานของเอริค เพียร์สัน และ แม็กซ์ โบเรนสเตน สร้างอิงจากเรื่องราวของเทอร์รรี่ รอสซิโอ และเรื่องราวใน “Godzilla: King of the Monsters” ของไมเคิล ดักเฮอร์ตี้ และ แซ็ค ชีล์ด รอสซิโอเล่าให้ฟังว่า “ถือเป็นเกียรติที่ได้รับผิดชอบสองตัวละครเด่นของโลกแห่งภาพยนตร์ และได้ออกแบบให้หนังที่ทั้งคู่มาเผชิญหน้ากัน หลายเรื่องราวในหนังที่ผ่านมาเกิดการปะทะกันระหว่างสองยักษ์ใหญ่นี้เมื่อมาเจอหน้ากัน เรารู้มาตลอดว่ามันต้องเป็นภาพที่น่าตื่นเต้น แต่เพื่อเป็นการยกย่องในผู้บริหารและผู้อำนวยการสร้างแห่งเลเจนดารี่ เราเลยต้องใช้เวลาพัฒนาเรื่องราว มีการร่วมงานกับนักเขียนหลายคน เพื่อให้แน่ใจว่าในหนังจะสะท้อนถึงมิตรภาพระหว่างตัวละคร ประเด็นต่างๆ ที่ทั่วโลกเข้าใจได้ และความรู้สึกที่สะท้อนออกมาจากใจอย่างแท้จริง”
“ก็อดซิลล่าอยู่นั่น กำลังทำร้ายผู้คนอยู่ ไม่รู้เพราะอะไร”
– มาร์ค รัสเซล, โมนาร์ช
“มีบางอย่างไปกระตุ้นเขาโดยที่เรามองไม่เห็นจากตรงนี้”
– แมดิสัน รัสเซล
ก็อดซิลล่า นักล่าขนาดสูงใหญ่ที่ตื่นขึ้นมาจากการที่มนุษย์ใช้ธาตุแห่งอาวุธสงคราม จนกลายมาเป็นผู้ปกป้องธรรมชาติและโลกมนุษย์ที่มีความดุร้าย ลมหายใจอันมีพลังและเสียงคำรามที่ดังกึกก้องของเขา เมื่อรวมเข้ากับความแข็งแกร่งเยี่ยงสัตว์ป่าบนผืนดินและใต้น้ำ ทำให้เขากลายเป็นผู้รอดชีวิตจากเหล่าเพชฌฆาตทรงพลังทั้งหลาย เช่น ศัตรูตัวสำคัญที่มี 3 หัวอย่างไกโดราห์
แต่ในเรื่อง “Godzilla vs. Kong” ก็อดซิลล่าไม่ได้มีลักษณะพิเศษอะไรที่จะกระตุ้นการโจมตีจากศัตรูทรงพลังอย่างคองได้ แต่อาจได้แรงยั่วยุมาจากพลังที่มองไม่เห็น…
“ภาพยนตร์เลือกเรื่องราวที่ใกล้เคียงกับภาคที่แล้ว มันเลยมีอะไรหลายอย่างเกี่ยวกับก็อดซิลล่าที่เราทิ้งท้ายเอาไว้” วินการ์ดกล่าว “แต่เขามีท่าทีแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง บรรดานักวิทยาศาสตร์ที่โมนาร์ช รวมถึงแมดิสัน รัสเซลและอีกหลายคนพยายามหาคำตอบว่าทำไมเขาถึงหันหลังให้มนุษย์ ความจริงคือมันจะดีมากหากก็อดซิลล่าอยู่เคียงข้างเรา แต่เมื่อเขาหันมาเป็นศัตรูกับเรา เรากำลังเผชิญปัญหาใหญ่แล้วล่ะ”
“ใครเป็นรองใคร?”
– แอดไมรัล วิลค็อกซ์
“คองไม่เคยเป็นรองใคร”
– ไอลีน แอนดรูว์ส, โมนาร์ช
หลังจากที่ผ่านช่วงเวลาแห่งความกล้าหาญและเผชิญความรุนแรงมานานหลายทศวรรษ คองได้ใช้ชีวิตและเรียนรู้จากเหล่านักวิทยาศาสตร์บนเกาะ Skull Island ที่ไม่คุ้นเคย เขาไม่ใช่เด็กน้อยอีกต่อไป แต่อยู่ในวัยโตเต็มตัว มีขนาดใหญ่ขึ้น กล้าหาญขึ้น และบ้าพลังกว่าเดิม
คองในเรื่องนี้จะดูมีขนาดใหญ่ยักษ์กว่าที่เคยเห็นบนหน้าจอมาก่อน แต่ยังคงมีความผูกพันกับมนุษย์เหมือนที่เคยเป็นมา ซึ่งครั้งนี้คือเด็กสาวกำพร้าบนเกาะกะโหลกซึ่งเปรียบเสมือนสายพันธุ์สุดท้าย เธอมีชื่อว่าเจีย
“หนังเรื่องนี้คองได้สำรวจเรื่องราวประวัติศาสตร์ของตัวเอง ต้นกำเนิดของเขา มันมีเรื่องของการค้นพบเรื่องราว” วินการ์ดกล่าว “และมันเหมือนการเปิดประตูหลายบานให้เห็นว่ามีอะไรรอตัวละครอยู่บ้าง”
เพราะคองและก็อดซิลล่าต่างมีความเมตตาเหมือนมนุษย์ ไม่ใช่แค่ด้านการแสดงออกเพียงอย่างเดียว (และโดยผู้ชำนาญที่มีฝีมือและสาวๆ ผู้เรนเดอร์พวกเขาผ่านสเปเชียลเอ็ฟเฟ็กต์ที่น่าตื่นตา) แต่ยังรวมถึงนิสัยใจคอของตัวละครในเรื่อง ที่ต้องมั่นใจเรื่องความอยู่รอดและความปลอดภัย ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นฮีโร่หรือวายร้าย ทุกอย่างล้วนเป็นที่จับตามองจากผู้ชม
นั่นคือประเด็นสำคัญที่วินการ์ดให้คำมั่นเอาไว้ว่า “นี่คือหนังสัตว์ปะรหลาดฟอร์มยักษ์ ที่ไม่ได้มีเพียงตัวละครสำคัญเพียงตัวเดียว แต่มีถึงสองตัวในประวัติศาสตร์หนังการต่อสู้กัน ซึ่งทั้งคู่เป็นตัวละครฝ่ายดี หรืออาจจะไม่ดีขึ้นอยู่ที่คุณจะมองอย่างไร ความสนุกอยู่ที่การได้เห็นว่าผู้ชมอินกับฝ่ายไหน และได้เห็นปฏิกิริยาของพวกเขาเวลาที่รู้ว่าใครเหนือกว่ากัน!”
“เด็กผู้หญิงคนนี้ เธอเป็นคนเดียวที่เขาจะสื่อสารด้วย”
– นาธาน ลินด์, โมนาร์ช
“ฉันรู้ว่าพวกเขาผูกพันกัน… ฉันสัญญาไว้ว่าจะปกป้องเธอ
และฉันคิดว่าคองก็ทำแบบนั้น”
– ไอลีน แอนดรูว์ส, โมนาร์ช