ความงดงามของซีรีส์เกาหลีนั้นมาจากหลากหลายองค์ประกอบด้วยกัน และหนึ่งในองค์ประกอบเหล่านั้นก็คือนักแสดงเด็ก ไม่ว่าพวกเขาจะมีบทบาทแยกเป็นของตัวเองหรือแสดงเป็นเวอร์ชั่นเด็กของนักแสดงคนอื่น เด็กผู้มีความสามารถเหล่านี้ก็ได้เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ท่ามกลางสายตาที่พวกเรามองดูเขาและกลายมาเป็นนักแสดงที่ได้รับบทผู้ใหญ่ที่เป็นบทนำของตัวเองในที่สุด
| คลิก!!! |
นี่คือรายชื่อของอดีตนักแสดงเด็กบางส่วนที่มีผลงานซีรีส์เกาหลีโลดแล่นอยู่ในฐานะนักแสดง
- ยูซึงโฮ (Yoo Seung Ho)
ผลงานเรื่องแรกของยูซึงโฮในฐานะนักแสดงเด็กคือตอนที่เขาอายุ 7 ปีในซีรีส์ปี 2000 เรื่อง “Daddy Fish” ผลงานทางฝั่งภาพยนตร์เรื่องแรกของเขาคือผลงานเรื่อง “The Way Home” ที่เขาแสดงเป็นเด็กในเมืองที่ได้รับการตามใจชื่อซังอู ผู้ที่ต้องไปอยู่กับคุณยายในย่านชานเมืองช่วงฤดูร้อนเพราะคุณแม่ตกงาน เขาแสดงเป็นเด็กที่มีอภิสิทธิ์และยโสโอหังในตอนแรก แต่ภายหลังเด็กหนุ่มก็ได้เรียนรู้ถึงคุณค่าของทั้งคุณยายและชีวิตชนบท การแสดงของยูซึงโฮออกมายอดเยี่ยมจากการที่เขาสามารถแสดงให้เห็นอารมณ์ที่หลากหลายได้อย่างสมบูรณ์แบบ ตั้งแต่ความโกรธและความเศร้าไปจนถึงความสุขและความมีน้ำใจ จึงเป็นเรื่องธรรมชาติที่บทบาทนี้จะทำให้เขาโด่งดังในชั่วข้ามคืนและทำให้เขาได้รับฉายาว่า “น้องชายแห่งชาติ”
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ยูซึงโฮก็มีผลงานที่โดดเด่นมากมาย เช่น “The Great Queen Seondeok”, “Remember”, “I Am Not A Robot”, “My Strange Hero” และล่าสุดคือผลงานเรื่อง “Memorist” ซึ่งเขาบอกว่าช่วยให้เขาสลัดภาพนักแสดงเด็กของเขาไว้เบื้องหลังได้
- อีเซยอง (Lee Se Young)
อีกหนึ่งนักแสดงจากเรื่อง “Memorist” คืออีเซยอง ผู้ที่มีผลงานเรื่องแรกตอนอายุ 4 ปีในปี 1997 เรื่อง “The Brothers’ River” ซึ่งหนึ่งในผลงานที่บทบาทในวัยเด็กของเธอโด่งดังมากที่สุดก็คือเรื่อง “Lovely Rivals” ที่เธอแสดงเป็นโกมีนัม นักเรียนชั้นประถมผู้มีความคิดที่จะแข่งกับครูของเธอเพื่อเอาชนะใจครูชายที่เพิ่งเข้ามาทำงานในโรงเรียน บทบาทของเธอที่มีทั้งความกล้าและไม่ยอมก้มหัวให้ใครเป็นที่น่าประทับใจแก่การชมมาก และยิ่งไปกว่านั้นแล้วยังช่วยเน้นความสามารถในการแสดงอย่างเป็นธรรมชาติของเธอให้โดดเด่นด้วย
ในปี 2016 เธอโด่งดังด้วยบทบาทในซีรีส์เรื่อง “The Gentlemen Of Wolgyesu Tailor Shop” ซึ่งเธอได้รับคำวิจารณ์ที่ดีรวมถึงได้รับรางวัลนักแสดงหญิงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมในงาน Baeksang Arts Awards ในสาขาโทรทัศน์อีกด้วย นับจากนั้นเธอก็มีผลงานซีรีส์มากมาย ได้แก่ “Hwayugi” ร่วมกับอีซึงกิ (Lee Seung Gi), “Doctor John” ร่วมกับจีซอง (Ji Sung) และ “How Are You Bread” ร่วมกับซูโฮ (Suho) EXO
- มุนกายอง (Moon Ga Young)
ผลงานเดบิวต์การแสดงของมุนกายองคือภาพยนตร์สยองขวัญเรื่อง “To Sir, With Love” ในปี 2006 เธอได้รับบทนำตอนที่ยังเป็นวัยรุ่นในปี 2014 ในซีรีส์โรแมนติก/ลึกลับเรื่อง “Mimi” กับชางมิน (Changmin) TVXQ ในบทมินอู ตัวละครมิมิของเธอเป็นเด็กสาวที่มีความละเอียดอ่อนและมีชีวิตชีวา เธอมีความสามารถในการทำผมที่ยอดเยี่ยมและเธอยังมีความเกี่ยวข้องอย่างลึกลับกับมินอูผู้ที่สูญเสียความทรงจำด้วย มุนกายองถ่ายทอดบทบาทความสดใสและขี้อายออกมาได้อย่างชัดเจนผ่านซีรีส์ความยาว 4 ตอนและแสดงให้เห็นถึงความชัดเจนของความรู้สึกในการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในการแสดงของเธอ
เธอเป็นที่รู้จักจากการได้รับบทนำหญิงในเว็บซีรีส์เรื่อง “EXO Next Door” ในปี 2015 ที่ได้แสดงร่วมกับสมาชิกในวง EXO นับตั้งแต่นั้นมา เธอก็ได้แสดงบทรองหลายบท เช่นในซีรีส์เรื่อง “Heartstrings” และ “Mirror of the Witch” ต่อมาเธอก็ได้แสดงบทนำในซีรีส์เรื่อง “Tempted”, “Welcome to Waikiki S2” และผลงานล่าสุดของเธอคือเรื่อง “Find Me In Your Memory”
- นัมจีฮยอน (Nam Ji Hyun)
นัมจีฮยอนเริ่มต้นอาชีพนักแสดงของเธอตอนอายุ 7 ปีด้วยผลงานภาพยนตร์ในปี 2004 เรื่อง “Say You Love Me” ซึ่งหนึ่งในบทบาทที่โดดเด่นที่สุดในฐานะนักแสดงเด็กของเธอคือการรับบทเป็นด็อกมันตอนเด็กในเรื่อง “Queen Seondeok” เพียงแค่มองนัมจีฮยอนในซีรีส์เรื่องนี้แค่แวบเดียวก็เพียงพอที่จะรู้ได้แล้วว่าเธอมีความสามารถมากแค่ไหน การแสดงบทบาทที่เป็นธรรมชาติ, เสียงดัง, ขี้เล่น, และวุ่นวายสร้างความประทับใจอย่างแท้จริงและเพิ่มความเข้มข้นให้กับซีรีส์ด้วย
เธอมีผลงานมากมายจนกระทั่งแจ้งเกิดในเรื่อง “Shopping King Louie” ที่แสดงร่วมกับซออินกุก (Seo In Guk) ต่อมาเธอก็ได้ร่วมงานกับจีชางอุค (Ji Chang Wook) ในเรื่อง “Suspicious Partner” รวมถึงการร่วมงานกับโดคยองซู (Do Kyung Soo) ในผลงานเรื่อง “100 Days My Prince” ซึ่งผลงานล่าสุดของเธอในปี 2020 คือเรื่อง “365: Repeat The Year” ที่เธอรับบทเป็นศิลปินเว็บตูนผู้เป็นเพอร์เฟ็คชั่นนิส
- รยูด็อกฮวาน (Ryu Deok Hwan)
รยูด็อกฮวานมีอาชีพนักแสดงมาอย่างยาวนานและมีคุณค่า หนึ่งในผลงานแรกๆ ที่ผ่านมานานที่สุดของเขาคือบทซูนกิลในซีรีส์ปี 1996 เรื่อง “Lifetime In The Country” ในปี 2006 เขาแจ้งเกิดกับบทบาทในเรื่อง “Like A Virgin” ที่ทำให้เขาได้รับคำชื่นชมอย่างมากจากบทบาทโอดงกู หญิงข้ามเพศวัยรุ่นที่เข้าร่วมทีมมวยปล้ำของเกาหลีด้วยความหวังที่จะชนะเงินรางวัลการแข่งขันเพื่อนำไปผ่าตัดแปลงเพศ การรับบทบาทที่กล้าหาญนี้ในช่วงปี 2000 ต้นๆ นับเป็นความท้าทายของรยูด็อกฮวาน ผู้ที่ถ่ายทอดบทดังกล่าวออกมาได้อย่างประสบความสำเร็จ การพัฒนาความสามารถของตัวละครจากความประหม่าไปจนถึงความกล้าแสดงออกคือสิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนตลอดทั้งซีรีส์เรื่องนี้
ในภายหลัง ความสามารถรอบด้านในการแสดงของเขาก็ถูกแสดงให้เห็นผ่านผลงานมากมาย ได้แก่ “My Son”, “Our Town”, “Private Eye”, และ “God’s Quiz” ล่าสุดเขามีผลงานเรื่อง “Nobody Knows” ร่วมกับนักแสดงมากประสบการณ์อย่างคิมซอฮยอง (Kim Seo Hyung)
- คิมยูจอง (Kim Yoo Jung)
คิมยูจองเป็นหนึ่งในนักแสดงเด็กที่โด่งดังมากที่สุดในรุ่นของเธอ เธอเดบิวต์การแสดงด้วยอายุ 5 ปี โดยผลงานซีรีส์เรื่องแรกของเธอคือเรื่อง “Freezing Point” ในบทชเวอึนอี เธอร่วมแสดงในผลงานภาพยนตร์เรื่อง “Iljimae” ในปี 2008 ซึ่งทำให้เธอได้รับรางวัลในการแสดงครั้งแรกได้แก่รางวัลนักแสดงเด็กฝ่ายหญิงยอดเยี่ยม ผลงานเรื่องอื่นของเธอ ได้แก่ “Dong Yi”, “Flames Of Desire” และ “Grudge: The Revolt Of Gumiho” ซึ่งผลงานทั้งหมดล้วนปล่อยออกมาในปี 2010 โดยผลงานเรื่อง “Grudge: The Revolt Of Gumiho” เป็นผลงานเรื่องแรกที่เธอได้รับบทหลัก ซึ่งเป็นบทที่ตรงข้ามกับผลงานก่อนหน้านี้ของเธอที่เธอแสดงเป็นเพื่อนในวัยเด็กของนักแสดงนำฝ่ายหญิง การรับบทเป็นยอนอีทำให้เธอได้แสดงให้เห็นถึงการแสดงที่สุดยอดในการเป็นกลายหนึ่งเดียวกับบทของเธอ
บทนำบทแรกของเธอเมื่อเป็นผู้ใหญ่คือในผลงานเรื่อง “Love In The Moonlight” ร่วมกับพัคโบกอม (Park Bo Gum) ซึ่งทำให้เธอได้รับรางวัล Excellence Award ในงาน 30th KBS Drama Awards บทนำในอีกผลงานหนึ่งของเธอคือจากเรื่อง “Because I Love You” ที่เธอแสดงร่วมกับชาแทฮยอน (Cha Tae Hyun) และผลงานล่าสุดของเธอในปัจจุบันคือเรื่อง “Clean With Passion For Now” ส่วนผลงานในอนาคตคือเรื่อง “Backstreet Rookie” ที่เธอแสดงร่วมกับจีชางอุค (Ji Chang Wook) ซึ่งจะออกอากาศในช่วงเดือนมิถุนายน
- มุนกึนยอง (Moon Geun Young)
มุนกึนยองเริ่มต้นอาชีพการแสดงของเธอในวัย 12 ปีตอนที่เธอแสดงเป็นเพื่อนตอนเด็กของซงฮเยคโย (Song Hye Kyo) ในเรื่อง “Autumn In My Heart” ซึ่งทำให้เธอได้รับรางวัลนักแสดงเด็กฝ่ายหญิงยอดเยี่ยมจากงาน 2000 KBS Drama Awards หลังจากนั้นบทบาทที่ประสบความสำเร็จของเธอก็ตามมามากมายจนกระทั่งเธอได้รับบทหลักอีกบทหนึ่งในภาพยนตร์สยองขวัญเรื่อง “A Tale Of Two Sisters” หนึ่งในอีกบทบาทที่โดดเด่นของเธอในฝั่งภาพยนตร์ก็คือผลงานในปี 2004 เรื่อง “My Little Bride” ที่เธอเล่นเป็นเด็กนักเรียนไฮสคูลที่ถูกบังคับให้แต่งงานกับหลานชายของเพื่อนสนิทคุณตาจากสัญญาที่พวกเขามีด้วยกันในระหว่างสงครามเกาหลี การถ่ายทอดบทบาทวัยรุ่นขี้หงุดหงิดและหัวรั้นนั้นทำให้ผู้ชมคล้อยตามและเอ็นดูเธอ การสลับไปมาระหว่างความใสซื่อและความต่อต้านของเธอทำให้ผู้ชมเข้าใจตัวละครของเธอได้อย่างสมบูรณ์แบบ และบทบาทในเรื่องนี้ก็ทำให้เธอได้รับฉายา “น้องสาวแห่งชาติ” ด้วย
ในปี 2008 เธอได้รับรางวัลแดซังในงาน SBS Drama Awards จากบทบาทในเรื่อง “Painter Of The Wind” และทำให้เธอกลายเป็นนักแสดงที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รับรางวัลนี้ ผลงานซีรีส์เรื่องอื่นๆ ของเธอได้แก่ “Cinderella’s Sister”, “Cheongdam-Dong Alice”, “Goddess Of Fire” และ “The Village: Achiara’s Secret”
- คิมโซฮยอน (Kim So Hyun)
อาชีพการแสดงของคิมโซฮยอนเริ่มต้นขึ้นในปี 2006 ด้วยบทรองในเรื่อง “Ten Minute Minor” แต่เธอได้รับความนิยมมากขึ้นจากบทบาทเพื่อนในวัยเด็กของตัวร้ายในซีรีส์ปี 2012 เรื่อง “The Moon Embracing the Sun” เธอถ่ายทอดตัวละครของเธอออกมาได้อย่างสมจริงและแสดงถึงความนึกคิดของเธอออกมาได้อย่างไร้ที่ติ ซีรีส์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากและทำให้คิมโซฮยอนได้ฉายาว่าเป็น “น้องสาวแห่งชาติ” หลังจากนั้นเธอก็ได้ร่วมแสดงในผลงานยอดนิยมมากมาย เช่น “Rooftop Prince” และ “I Miss You” ซึ่งสื่อเกาหลีได้ให้ฉายาว่าเธอเป็น “ราชินีแห่งนักแสดงเด็ก” ฉายานี้แสดงให้เห็นว่าคิมโซฮยอนแสดงทุกบทบาทที่เธอได้รับในฐานะนักแสดงวัยรุ่นออกมาได้เป็นอย่างดี และรายชื่อผลงานที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถรอบด้านของเธอก็เป็นหลักฐานในเรื่องนั้นได้เป็นอย่างดี
ผลงานเรื่องอื่นๆ ของเธอได้แก่ “Who Are You: School 2015” และ “Bring It On, Ghost” โดยมี “The Tale of Nokdu” เป็นผลงานล่าสุดของเธอ
- อีฮยอนอู (Lee Hyun Woo)
อีฮยอนอูเดบิวต์ผลงานการแสดงครั้งแรกด้วยเรื่อง “Oolla Boolla Blue-jjang” ในปี 2004 และได้รับบทบาทย้อนยุคมากมายหลังจากนั้น เช่นในเรื่อง “The Legend”, “King Sejong The Great” และ “The Great Queen Seondok” ผลงานแจ้งเกิดของเขาคือบทบาทในซีรีส์ปี 2012 ที่สร้างมาจาการ์ตูนเรื่อง “To The Beautiful You” ในขณะที่กระแสในประเทศค่อนข้างอ่อน แต่ซีรีส์เรื่องนี้ทำให้อีฮยอนอูเป็นที่โด่งดังในประเทศอื่นๆ ในเอเชียหลายประเทศ ด้วยเหตุนี้ชื่อของเขาจึงโด่งดังในกระแสความนิยมเกาหลี อีกหนึ่งบทบาทที่ช่วยสร้างชื่อเสียงให้กับเขาก็คือบทหลักในภาพยนตร์โรแมนติก – คอมเมดี้สุดฮิตเรื่อง “Secretly Greatly” ที่เขาแสดงเป็นนักสืบเกาหลีเหนือที่ปลอมตัวมาเป็นนักเรียนไฮสคูล ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากและการแสดงที่เปล่งประกายของเขาก็ช่วยให้เขาสร้างรากฐานของอาชีพนักแสดงให้หนักแน่นยิ่งขึ้นไปอีก
ผลงานอื่นที่อีฮยอนอูแสดงนำได้แก่ “Northern Limit Line”, “The Scholar Who Walks The Night”, “Moorim School” และ “The Liar And His Lover”
- ยอจินกู (Yeo Jin Goo)
อีกหนึ่งนักแสดงที่ได้ฉายาว่า “น้องชายแห่งชาติ” คือยอจินกูที่เริ่มอาชีพทางการแสดงตั้งแต่อายุ 8 ปีกับผลงานภาพยนตร์เรื่อง “Sad Movie” เขารับบทเป็นเพื่อนตอนเด็กของนักแสดงนำในหลากหลายผลงานซีรีส์ เช่น “The Moon Embracing The Sun” และ “I Miss You” ซึ่งทำให้เขาโด่งดังและได้รับความนิยมในฐานะนักแสดงเด็ก โดยผลงานทั้งสองเรื่องนี้ของเขาก็ทำให้เขาได้รับรางวัลนักแสดงเด็กยอดเยี่ยมในงาน 2012 MBC Drama Awards ซึ่งช่วยเน้นย้ำให้เห็นถึงความสามารถที่โดดเด่นของเขาในวัยเด็กอีกด้วย
ผลงานการแสดงของยอจินกูเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยผลงานซีรีส์ต่างๆ เช่น “Orange Marmalade”, “Jackpot”, “Absolute Boyfriend” และผลงานล่าสุดที่ได้รับคำชมมากมายเรื่อง “Hotel Del Luna”