Lee Da Hae

อีดาเฮ (มีชื่อตอนเกิดว่าพยอนดาเฮ เกิดวันที่ 19 เมษายน 1984) เป็นนักแสดงชาวออสเตรเลียที่อาศัยอยู่ในเกาหลีใต้ เธอเป็นที่รู้จักจากบทบาทเรื่อง Heaven’s Fate (2004), My Girl (2005), Green Rose (2005), The Slave Hunters (2010), Miss Ripley (2011) และ Hotel King (2014) รวมถึงซีรีส์จีนเรื่อง Love Actually (2012) และ Best Couple (2016)

เป็นที่รู้กันดีว่าอีดาเฮพูดภาษาเกาหลี, อังกฤษ และจีนได้อย่างคล่องแคล่ว ทำให้เธอได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศจีน เธอเป็นนักแสดงเกาหลีคนแรกที่พูดบทเป็นภาษาจีนกลาง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงทักษะทางภาษาของเธอผ่านซีรีส์จีน

ชีวิตช่วงต้น

อีดาเฮ มีชื่อตอนเกิดว่าพยอนดาเฮ เธอเกิดที่โซล ประเทศเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 19 เมษายน 1984 ตอนอยู่ป.5 อีดาเฮและครอบครัวของได้ย้ายไปอยู่ที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลียตลอดช่วงวัยรุ่น เธอได้แสดงการเต้นรำแบบเกาหลีดั้งเดิมในงานเทศกาลต่าง ๆ และเป็นที่รู้จักในนาม “สาวนักเต้นเกาหลี” ที่โรงเรียน หลายปีที่อยู่ต่างประเทศและเรียนที่ออสเตรเลีย ทำให้เธอสามารถพูดภาษาอังกฤษได้คล่อง จนตอนเกรดเกรด 3 ที่ Burwood Girls High School ดาเฮและแม่ย้ายนกลับมาโซลเพื่อประกอบอาชีพนักแสดงหลังจากที่ชนะการประกวดนางงามและลาออกจากโรงเรียน ปัจจุบันเธออยู่กับแม่ที่โซล ส่วนพ่อและพี่ชายยังคงอยู่ในซิดนีย์

เส้นทางอาชีพ

2001–2004: จุดเริ่มต้นและความนิยมที่เป็นกระแส

อีดาเฮเข้าสู่วงการบันเทิงครั้งแรกตอนชนะการประกวดนางงามชุนฮยางครั้งที่ 71 ในปี 2001 โดยใช้ชื่อในการประกวดว่าอีดาเฮ เธอเริ่มปรากฏตัวในบทรองและบทสมทบในซีรีส์จอแก้ว

ในปี 2004 อีดาเฮได้รับเลือกให้รับบทนำครั้งแรกในซีรีส์ Lotus Flower Fairy (หรือรู้จักในชื่อ Heaven’s Fate) ในบทอิมซองฮัน ลูกสาวร่างทรงผู้มีจิตใจบริสุทธิ์แต่ถูกครอบครัวและสังคมรังเกียจหลังจากเปิดเผยตัวตน เธอได้รับรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจากงาน Baeksang Arts Awards ครั้งที่ 41 

2005–2009: ความสำเร็จที่เพิ่มขึ้น

แต่ปี 2005 กลายเป็นปีแห่งการแจ้งเกิดของอีดาเฮ เธอแสดงให้เห็นถึงความสามารถรอบด้านอในซีรีส์ที่ประสบความสำเร็จทั้ง 2 เรื่องแม้บทจะต่างกันมากอย่าง Green Rose รับบทเป็นตัวละครที่ตกหลุมรักผู้ชายที่ถูกใส่ร้ายว่าพยายามฆ่าพ่อของเธอ หลายปีต่อมาเธอเริ่มเชื่อว่ามีคนหน้าเหมือนแฟนของเธอที่ขจากไปแล้ว Green Rose เป็นซีรีส์ทางโทรทัศน์เรื่องแรกของอีดาเฮ ผลงานของช่อง SBS อีดาเฮได้กลับมาร่วมงานกับจองฮเยซอนและฮันจินฮีที่เคยแสดงเรื่อง Lotus Flower Fairy ด้วยกัน อีกเรื่องคือ My Girl อีดาเฮรับบทเป็นนักต้มตุ๋นสุดน่ารัก เธอตกลงรับบทเป็นลูกพี่ลูกน้องที่หายสาบสูญไปนานของเจ้าของโรงแรมเพื่อเติมเต็มความปรารถนาสุดท้ายของปู่ My Girl ทำให้อีดาเฮเป็นหนึ่งในนักแสดงที่นำกระแสคลื่นเกาหลี

เธอหวนคืนสู่แนวโรแมนติก0คอมเมดี้ในปี 2007 กับเรื่อง Hello รับบทเป็นลูกสาวคนเล็กของครอบครัวที่เคยได้รับความเคารพนับถือในชนบท คุณธรรมแบบผู้หญิงสมัยก่อนจึงถูกทดสอบเมื่อลูกชายนักลงทุนที่ร่ำรวยเรียกร้องให้เธอขายบ้านของบรรพบุรุษเขา

ในปี 2008 อีดาเฮปรากฎตัวในเรื่อง Robber รับบทแม่ม่ายสาวที่ตกเป็นเป้าหมายของนักต้มตุ๋นเพื่อหลอกเอาเงิน แต่เขากลับตกหลุมรักเธอจริง ๆ ต่อมาในปีเดียวกับ อีดาเฮได้รับเลือกให้รับบทเป็นนางเอกใน East of Eden มหากาพย์ข้ามรุ่น เรื่องราวของเมืองเหมืองถ่านหินในแทแบกตั้งแต่ช่วงปี 1960 จนถึงปัจจุบัน ในเรื่องนี้อีดาเฮได้กลับมาร่วมงานกับฮันจีฮเย ที่เคยร่วมงานกันใน Sweet 18 อีกครั้ง แม้ว่าซีรีส์เรื่องนี้จะประสบความสำเร็จ แต่พอเวลาผ่านไปแอร์ไทม์ของอีดาเฮก็น้อยลงเพราะเนื้อเรื่องโฟกัสอย่างอื่น อีดาเฮจึงปลดตัวออกจากซีรีส์ในตอนที่ 40

ชีวิตส่วนตัว

เดือนธันวาคม 2013 อีดาเฮยื่นฟ้องข้อหาหมิ่นประมาทกับชาวเน็ตที่เผยแพร่ข่าวลือว่าเธอเกี่ยวข้องกับเครือข่ายค้าประเวณีของพวกไฮโซคนดัง อัยการออกมาบอกว่าอีดาเฮไม่ใช่คนที่โดนสอบสวน

ชีวิตรัก

เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2016 รายงานพิเศษจาก Sports Chosen เผยว่าอีดาเฮและนักร้องอย่างเซเว่นคบหากันมานานกว่า1 ปีแล้วเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2023 อีดาเฮได้ประกาศการหมั้นหมายของพวกเขาผ่านโซเชี่ยลส่วนตัว ทั้งคู่แต่งงานกันแบบพิธีส่วนตัวเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2023 ที่ Hotel Shilla ในกรุงโซล