ในปัจจุบัน การเรียนต่อปริญญาตรีที่อังกฤษถือเป็นหนึ่งในทางเลือกยอดนิยมของนักศึกษาต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักศึกษาไทย ทั้งนี้เนื่องจากอังกฤษมีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงระดับโลก อีกทั้งยังมีระบบการศึกษาที่ได้มาตรฐาน ตลอดจนเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้พัฒนาทักษะในระดับสากล อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการศึกษาต่อที่อังกฤษจะมีข้อดีหลายประการ แต่การตัดสินใจไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศนั้นจำเป็นต้องพิจารณาทั้งข้อดีและข้อเสียอย่างรอบคอบ เพื่อให้แน่ใจว่าการเลือกเรียนต่อที่อังกฤษนั้นสอดคล้องและเหมาะสมกับเป้าหมายของตนเองอย่างแท้จริง
ข้อดีของการเรียนต่อปริญญาตรีที่อังกฤษ
- ใช้ระยะเวลาเรียนสั้นกว่า
หนึ่งในข้อได้เปรียบสำคัญของระบบการศึกษาระดับปริญญาตรีในอังกฤษ คือ ใช้เวลาเรียนเพียง 3 ปี ซึ่งแตกต่างจากประเทศอื่น เช่น สหรัฐอเมริกา หรือไทย ที่มักใช้เวลาเรียน 4 ปีขึ้นไป นั่นหมายความว่า นักศึกษาจะสามารถสำเร็จการศึกษาและเริ่มต้นเส้นทางอาชีพได้เร็วกว่า
นอกจากนี้ ระยะเวลาที่สั้นลงยังช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายทั้งค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพ ทำให้การลงทุนเพื่อการศึกษาคุ้มค่ามากขึ้น
2. มหาวิทยาลัยมีชื่อเสียงระดับโลก
อังกฤษเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยระดับแนวหน้าของโลก เช่น
- University of Oxford และ University of Cambridge ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงระดับสากล
- Imperial College London และ London School of Economics (LSE) ที่มีความโดดเด่นด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และเศรษฐศาสตร์
- University of Manchester และ University of Edinburgh ที่มีหลักสูตรครอบคลุมทุกสาขาวิชา
การได้รับปริญญาจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงเหล่านี้จะช่วยเพิ่มโอกาสทำงานและสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่โปรไฟล์ของนักศึกษา
3. ได้ฝึกภาษาอังกฤษอย่างเข้มข้น
การใช้ชีวิตและเรียนในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก ช่วยให้นักศึกษาได้พัฒนาทักษะการสื่อสารในชีวิตประจำวันและในเชิงวิชาการอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบอย่างมากในตลาดแรงงานที่ต้องการบุคลากรที่สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว
นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยหลายแห่งยังมีหลักสูตรที่ช่วยเสริมทักษะภาษาอังกฤษให้แก่นักศึกษาต่างชาติ เพื่อให้สามารถเข้าใจบทเรียนและสื่อสารกับอาจารย์ได้อย่างมั่นใจ
4. โอกาสทำงานหลังเรียนจบ
ปัจจุบัน อังกฤษมี Post-Study Work Visa (Graduate Route) ซึ่งอนุญาตให้นักศึกษาต่างชาติสามารถอยู่ทำงานในอังกฤษต่อได้ 2 ปีหลังเรียนจบ (หรือ 3 ปี สำหรับระดับปริญญาเอก) นี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักศึกษาที่ต้องการสะสมประสบการณ์การทำงานในบริษัทระดับสากล และอาจเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างเครือข่ายทางอาชีพที่แข็งแกร่ง
5. วัฒนธรรมการเรียนที่เน้นความคิดวิเคราะห์
ระบบการศึกษาของอังกฤษส่งเสริมให้นักศึกษาพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ (Critical Thinking) และการเรียนรู้ด้วยตนเอง มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่มักให้ความสำคัญกับการทำวิจัย การวิเคราะห์ข้อมูล และการนำเสนอความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญในการทำงานในยุคปัจจุบัน
ข้อเสียของการเรียนต่อปริญญาตรีที่อังกฤษ
- ค่าใช้จ่ายสูง
แม้ว่าจะใช้ระยะเวลาเรียนสั้นกว่า แต่ค่าใช้จ่ายในการเรียนต่อที่อังกฤษยังถือว่าสูง โดยเฉพาะค่าเล่าเรียนที่อาจอยู่ระหว่าง £10,000 – £38,000 ต่อปี (ประมาณ 450,000 – 1,700,000 บาท) ขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัยและสาขาวิชา
นอกจากนี้ ยังมี ค่าครองชีพ เช่น ค่าที่พัก ค่าอาหาร และค่าเดินทาง โดยเฉพาะในลอนดอนซึ่งค่าครองชีพสูงกว่าพื้นที่อื่น นักศึกษาที่ไม่มีทุนการศึกษาอาจต้องวางแผนการเงินให้รอบคอบก่อนตัดสินใจไปเรียนต่อ
2. ความท้าทายด้านการปรับตัว
สำหรับนักศึกษาต่างชาติที่ไม่เคยใช้ชีวิตในต่างประเทศมาก่อน อาจต้องใช้เวลาในการปรับตัวกับ สภาพอากาศ อาหาร และวัฒนธรรม ของอังกฤษ โดยเฉพาะในช่วงแรกของการเรียน นักศึกษาหลายคนอาจต้องเผชิญกับอาการโฮมซิกหรือความกดดันจากระบบการเรียนที่เข้มข้น
3. การแข่งขันสูงในบางมหาวิทยาลัย
แม้ว่าจะมีมหาวิทยาลัยหลายแห่งให้เลือก แต่บางมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะ Top Universities ของอังกฤษ มีการแข่งขันสูงมาก นักศึกษาต้องมีผลการเรียนที่โดดเด่น รวมถึงคะแนนสอบภาษาอังกฤษ เช่น IELTS ที่สูงพอสมควร เพื่อให้สามารถสมัครเข้าเรียนได้
4. นโยบายวีซ่าที่อาจเปลี่ยนแปลงได้
แม้ว่าปัจจุบันอังกฤษจะมี Graduate Route Visa ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาทำงานต่อได้หลังเรียนจบ แต่นโยบายด้านวีซ่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ซึ่งอาจส่งผลต่อโอกาสของนักศึกษาต่างชาติที่ต้องการทำงานหรืออยู่ต่อหลังเรียนจบ
สรุป
การเรียนต่อปริญญาตรีที่อังกฤษมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและความพร้อมของแต่ละคน อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายที่สูง ความท้าทายด้านการปรับตัว และการแข่งขันในการเข้าเรียน ก็เป็นปัจจัยที่ต้องพิจารณาให้รอบคอบ ดังนั้น ก่อนตัดสินใจ ควรศึกษาข้อมูลมหาวิทยาลัยที่ต้องการสมัคร วางแผนทางการเงิน และเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อให้การเรียนต่อเป็นประสบการณ์ที่ดีและคุ้มค่าที่สุด