Gyeongseong Creature

จองดงยุน ย้ำว่า ‘การให้อภัยและการลืมมันต่างกัน’

คลิก!!!

จองดงยุน ผู้กำกับ “Gyeongseong Creature” ของ Netflix เผยความเซอร์ไพรส์และขอบคุณแฟน ๆ ทั่วโลกที่รักภาพยนตร์เรื่องนี้โดยเฉพาะแฟน ๆ ชาวญี่ปุ่น เขาตระหนักถึงความยากในการสร้างเรื่องราวที่อ้างอิงความเป็นจริงทางประวัติศาสตร์อันโหดร้ายจากการทดลองของทหารญี่ปุ่นในยุคอาณานิคม

“จากอิทธิพลของกระแสเกาหลี โดยเฉพาะในญี่ปุ่น นักแสดงเกาหลีหลายคนลังเลที่จะรับบทแบบนี้ครับ แต่นักแสดงอย่างพัคซอจุนและฮันโซฮีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในญี่ปุ่นและทั่วโลกเลือกที่จะเล่นเรื่องนี้ผมว่าเป็นการกระทำที่กล้าหาญมาก” ผู้กำกับจองให้สัมภาษณ์กับ The Korea Times ที่คาเฟ่ในกรุงโซลเมื่อวันจันทร์

Jung Dong Yoon,จองดองยุน

ซีซั่น 2 ของเรื่องนี้ที่ออกอากาศไปเมื่อวันศุกร์พุ่งขึ้นเป็นอันดับ 3 เพียง 2 วันที่ออกอากาศ ทั้งยังขึ้นท็อปชาร์ตในแถบเอเชียเช่นสิงคโปร์, ฮ่องกง, ไทย และขึ้นท็อป 10 ใน 80 ประเทศรวมถึงญี่ปุ่นที่ได้อันดับ 4 ข้อมูลจาก FlixPatrol

“ที่จริงเราไม่ได้คาดหวังกับกระแสตอบรับจากทั่วโลกเลยครับ ที่คิดไว้คือมันอาจจะยากที่จะดึงดูดความสนใจในประวัติศาสตร์เกาหลีกับผู้ชมต่างประเทศ ทุกวันนี้หลายคนยังสับสนระหว่างเกาหลี, ญี่ปุ่น หรือจีน ผมคิดว่าความนิยมส่วนใหญ่น่าจะมาจากนักแสดงครับ การร่วมมือกันของนักแสดงทำให้ผู้ชมทั่วโลกได้ตระหนักรู้ถึงประวัติศาสตร์เกาหลี โดยเฉพาะความคิดผิด ๆ ที่ยังมีอยู่”

ซีซั่น 2 บอกเล่าเรื่องราวในกรุงโซลปี 2024 เรื่องราวที่ยังคงดำเนินต่อไปของจางโฮแจ (รับบทโดยพัคซอจุน) คนที่หน้าเหมือนจางแทซังจากซีซั่น 1 และยุนแชอก (รับบทโดยฮันโซฮี) ผู้รอดชีวิตจากฤดูใบไม้ผลิในกยองซอง พวกเขาได้เปิดเผยโชคชะตาที่ยังไม่เสร็จเรียบร้อยและชะตากรรมอันเลวร้ายในกยองซอง

Gyeongseong Creature

ผู้กำกับจองย้ำว่าซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้มีเป้าหมายจะต่อต้านญี่ปุ่น แต่ตั้งใจจะถ่ายทอดข้อความให้สะท้อนไปทั่วโลกว่า “การให้อภัยและการลืมมันต่างกัน”

“ยังมีเหยื่อและคนที่ทำชั่วแต่ยังมีอำนาจอยู่ ถึงแม้เวลาจะผ่านไปแต่เหยื่อรายใหม่ก็ยังคงยังคงทุกข์ทรมาน เราไม่ควรอิกนอ แต่ควรพูดออกมาเพื่อต่อต้านความอยุติธรรมนี้ ผมเชื่อว่ามันคือวิธีการสร้างโลกที่ดีกว่าเดิมได้”

สำหรับการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องแอร์ไทม์ของสัตว์สยองต่าง ๆ ผู้กำกับอธิบายว่าสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในซีซั่นนี้ไม่ใช่สัตว์ประหลาดทั่วไปที่ออกแบบมาเพื่อฉากแอ็คชั่น แต่นำเสนอในการทดลองทางวิยาศาสตร์แทน

“สัตว์สยองในเรื่องเกิดจากการเปลี่ยนแปลงในการทดลองที่สัมผัสกับเชื้อแอนแทรกซ์ แทนที่จะนำเสนอให้เยอะเกินไป เราเลยมาเน้นซีนอารมณ์แทน ในซีซั่น 1 สัตว์สยองคือแม่ของแชอก เราจึงเน้นซีนอารมณ์ให้ผู้ชมตาบวมด้วยการปกป้องลูกสาว ทำให้ผู้ชมมองเห็นในความเป็นแม่ของเธอ”

ในซีซั่น 2 ผู้กำกับจองแนะนำสัตว์สยองที่หลากหลายมากขึ้น สัตว์สยองชนิดแรกถูกวาดภาพว่ามีกล้าม, ตัวที่ 2 เป็นผู้หญิง, ตัวที่ 3 ตัวใหญ่และทรงพลัง แม้รูปร่างจะน่ากลัว แต่เขาต้องการอธิบายถึงสัตว์สยองเหล่านี้ว่าเป็นเหยื่อจากการทดลองเพื่อให้ผู้ชมรู้สึกเห็นใจต่อสิ่งมีชีวิตด้วยกัน

“หลังจากเผชิญหน้ากับสัตว์สยอง โฮแจพูดว่า ‘แกก็ทุกข์ทรมานเหมือนกันใช่มั้ย?’ มันสื่อถึงว่าพวกเขาคือนักทดลองแต่ก็ไม่ได้ต้องการจะทำแบบนั้น และผมอยากจะเน้นประเด็นที่โฮแจพูดว่า ‘แกก็ไม่ได้อยากทำแบบนี้นี่’ แล้วสัตว์สยองก็ถอยไปอย่างเงียบ ๆ”

ผู้กำกับจองเผยว่าเขาอยากสร้างซีรีส์เกี่ยวกับ “เอเลี่ยน” สักวัน “ความฝันตลอดชีวิตของผมคือการได้ไปดวงจันทร์และมองเห็นโลก ผมมักจะสนใจเรื่องราวแบบนี้เสมอครับ การดูภาพยนตร์แนวไซไฟอย่าง ‘The Moon’ (2023) ทำให้ผมรู้ว่าเทคโนโลยีของเกาหลีมาไกลแค่ไหน ในอนาคตผมว่าเราทำได้มากกว่านี้อีกครับ ในฐานะผู้กำกับ ผมอยากสร้างเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตนอกโลกในสักวันหนึ่ง” เขากล่าว