Choi Min sik

ชเวมินชิก (Choi Min Sik) เกิดเมื่อวันที่ 22 มกราคม 1962 เป็นนักแสดงชาวเกาหลีใต้ เขาเป็นที่รู้จักจากบทบาทในเรื่อง Oldboy (2003) ซึ่งได้รับคำชื่นชมเป็นอย่างมากจนเขาได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากงาน Baeksang Art Awards ครั้งที่ 40, Blue Dragon Awards ครั้งที่ 24 และ Grand Bell Awards ครั้งที่ 41 ผลงานเด่นอื่น ๆ เช่น Shiri (1999), Lady Vengeance (2005), I Saw the Devil (2010), Nameless Gangster: Rules of the Time (2012), New World (2013) และ The Admiral: Roaring Currents (2014) ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดในเกาหลีใต้ ส่วนผลงานช่วงหลังของเขา ทำให้เขาได้แดซังในงาน Baeksang Arts Awards ครั้งที่ 51

คลิก!!!

ปี 2014 ชเวมินชิกกลายเป็นดาราฮอลลีวูดด้วยผลงานเรื่อง Lucy (2014) และยังอยู่ในลิสต์นักแสดงภาพยนตร์แห่งปีของ Gallup Korea อีกด้วย

ชีวิตช่วงต้น

ชเวมินชิก เกิดเมื่อวันที่ 22 มกราคม 1962 ที่แขวงอีฮวา, เขตจงโน, โซล, เกาหลีใต้ ตอนอยู่ป.3 เขาป่วยเป็นวัณโรค หมอบอกว่ารักษาให้หายไม่ได้ แต่เขาก็กลับมาสุขภาพดีเพราะไปอยู่วัดที่ภูเขาเป็นเวลา 1 เดือน

ตอนเรียนม.3 ที่ Daeil High School ในโซล เขาเริ่มเข้าสู่การแสดงด้วยการเป็นนักเรียนทุนที่ที่บริษัทละครเวที ชเวมินชิกในวัยรุ่นประทับใจภาพยนตร์ของฮากิลจงเป็นอย่างมากและฝันอยากเป็นผู้กำกับ หลังเรียนจบมัธยม เขาก็เข้าเรียนที่มหาลัยดงกุก ภาควิชาการละครและภาพยนตร์ในปี 1982 และเปลี่ยนเส้นทางอาชีพมาเป็นนักแสดงตอนที่เรียนกับศาสตราจารย์อันมินซูซึ่งชเวมินชิกชื่นชมมานานแล้ว

อาชีพช่วงต้น

ชเวมินชิกเริ่มอาชีพการแสดงด้วยการเป็นนักแสดงละครเวทีโดยเข้าร่วมสังกัด ‘Ppuri’ ซึ่งเป็นบริษัทละครเวทีในปี 1982 ผลงานเดบิวท์คือ Our Town ชเวมินชิกใช้เวลาอยู่แต่ในโรงละครเล็ก ๆ แทบทุกวัน ปี 1984 เขาได้รับการเสนอให้เล่นบท Alan ในเรื่อง Equus แต่ชเวมินชิกต้องไปเกณฑ์ทหาร บทนี้จึงตกเป็นของชเวแจซอง

ชเวมินชิกเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันกับฮันซอกกยู ทั้งคู่ต่างเรียนที่มหาลัยดงกุก ภาควิชาการละครและภาพยนตร์ สมัยเรียนพวกเขาเคยแสดง Ecstasy and For My Son ด้วยกันในปี 1988 ในขณะที่ชเวมินชิกเรียนปี 4 พัคแจโฮ รุ่นพี่ที่มหาลัยได้ชวนชเวมินชิกไปออดิชั่นภาพยนตร์เรื่องแรกของผู้กำกับพัคจงวอนเรื่อง Kuro Arirang ซึ่งฉายในปี 1989 ดัดแปลงจากนิยายของอีมุนยอลในปี 1987 ชื่อเดียวกัน เรื่องราวของการทำงานหนักของสาวโรงงานเย็บผ้า Kuro Industrial Complex ปีเดียวกัน ชเวมินชิกได้แสดงกับซนชางมินที่รับบทเป็นฮยองบิน นักศึกษาที่เรียนกฎหมายในภาพยนตร์แนววัยรุ่นเมโลดราม่าเรื่อง All That Falls Has Wings ชเวมินชิกรับบทเป็นเพื่อนของฮยองบินที่เรียนศิลปะ เขาจึงชอบคิดถึงเรื่องการแต่งกายของตัวละครตัวนี้มาก

6 ปีต่อมา ในปี 1990 ชเวมินชิกกลับมาแสดงละครเวทีอีกครั้งในบท Alan จากเรื่อง Peter Shaffer’s Equus ที่ดัดแปลงเป็นเวอร์ชั่นเกาหลี จากบทนี้ ชื่อของเขาก็เริ่มเป็นที่รู้จักในย่านแทฮักโร นักเขียนนายอนซุกเห็นบทบาทการแสดงของเขาก็ชื่นชอบและยืนยันที่จะให้เขาเล่นซีรีส์เรื่องต่อไปของเธอคือ The Years of Ambition โดยรับบทเป็นลูกชายของอีฮวีฮยังชื่อกูชงที่แต่เดิมจะเป็นบทของยุนดาฮุน The Years of Ambition เป็นซีรีส์สุดสัปดาห์ของ KBS ที่มีเรตติ้งเฉลี่ยสูงสุดเกือบ 40% และออกอากาศ 1 ปีตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 1990 ชเวมินชิกฝึกฝนการแสดงอารมณ์ของกูชงที่เป็นเด็กดื้อรั้นซึ่งบทนี้โด่งดังมาก ชเวมินชิกดื่มด่ำกับความดังจากบทนี้เป็นครั้งแรก หลุดพ้นจากวงจรนักแสดงที่ไม่มีใครรู้จัก ได้เงิน 500,000 วอนในแต่ละเดือนและค่าโฆษณาตัวละ 7 ล้านวอน

นอกจากบทอ.คิมในภาพยนตร์เรื่องที่ 2 ของพัคจงวอนเรื่อง Our Twisted Hero (1992) ซึ่งทำให้เขาได้รับรางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยมจากงาน Asia-Pacific Film Festival ครั้งที่ 38 ผลงานภาพยนตร์เรื่องอื่น ๆ ของเขาก็ไม่ได้ไปได้สวยสักเท่าไร หนังสั้นเรื่อง “Our Love as It Was” (1991) ที่ถ่ายทำในฝรั่งเศสเป็นยุคมืดที่เขาอยากลืม “Sara Is Guilty” (1993) ที่เขามารับเชิญ แต่ใบหน้ากลับโดดเด่นในโปสเตอร์ก็เป็นบทเรียนให้เขาอย่าเลือกงานโดยไม่รอบคอบ หลังจากปรากฏตัวในภาพยนตร์เรื่อง “Mom, the Star, and the Sea Anemone” (1995) ชองผู้กำกับยูฮยอนมกเขาก็หายจากวงการจอเงินไปถึง 4 ปี

แม้จะยุ่งกับการแสดงละครเวทีและซีรีส์ เขาก็สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีจากมหาลัยดงกุก ภาควิชาการละครและภาพยนตร์

ชีวิตส่วนตัว

ชเวมินชิกแต่งงานกับนักแสดงหญิงอีฮวายองในปี 1990 อีฮวายองเรียนภาควิชาการละครและภาพยนตร์ที่มหาลัยชุงอัง พวกเขาเจอกันตอนทำงานแสดง แต่ทั้งสองก็เลิกร้างกัน จบชีวิตคู่ในปี 1993

ปี 1999 ชเวมินชิกแต่งงานรอบสองกับคิมฮวัลรัน โดยศิษย์เก่าที่มหาลัยดงกุกและจอนยองมินเป็นคนแนะนำให้ทั้งคู่รู้จักกันซึ่งต้นสังกัดของเขาเป็นคนบอกข่าวนี้ว่าคอนเนคชั่นของเพื่อน ๆ ทำให้ชเวมินชิกและคิมฮวัลรันได้มาเจอกัน