Park Bo-gum, Jung Hae in ,Lee je Hoon

กิจกรรมที่ทำให้ผู้ชมประหลาดใจของ นักแสดงพัคโบกอม (Park Bo-gum) คือการปรากฏตัวในรายการข่าวหลักของ JTBC อย่าง “Newsroom” โดยไม่ได้มาในฐานะแขกรับเชิญ แต่มาเป็นผู้พยากรณ์อากาศหนึ่งวัน

พัคโบกอมสวมสูทเรียบหรูพร้อมติดธงชาติเกาหลี เขาเริ่มต้นการพยากรณ์อากาศด้วยคำพูดว่า “ต้นฤดูร้อน เป็นฤดูกาลที่ทำให้นึกถึงการเริ่มต้นใหม่”

เขากล่าวต่อว่า “ผมจะเริ่มต้นใหม่ในบทบาท ‘ยุนดงจู’ เจ้าหน้าที่ตำรวจพิเศษและอดีตนักชกเหรียญทอง ในละครเรื่องใหม่ของ JTBC ‘Good Boy’ ซึ่งจะออกอากาศวันเสาร์นี้ ผมหวังว่าทุกคนจะได้เริ่มต้นครั้งนี้ร่วมกันกับผม”

การปรากฏตัวแบบแหวกแนวนี้สะท้อนถึงแนวโน้มที่เติบโตขึ้นในวงการบันเทิงเกาหลี ที่เหล่าดาราเลือกใช้กลยุทธ์การโปรโมตอย่างสร้างสรรค์เพื่อสร้างความโดดเด่นในตลาดที่เต็มไปด้วยเนื้อหา และในซีรีส์เรื่องใหม่นี้ พัคโบกอม รับบทเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้าใหม่ที่ต่อสู้กับคอร์รัปชันในละครแอคชันคอมเมดี้ที่ดำเนินเรื่องอย่างรวดเร็ว การได้มาเห็นเขาในมาดผู้พยากรณ์อากาศที่ดูเรียบร้อยจึงเป็นการเรียกน้ำย่อยที่แตกต่างจากบทในซีรีส์อยู่พอสมควร

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พัคโบกอมใช้กลยุทธ์การโปรโมตแบบสร้างสรรค์

ในปี 2016 พัคโบกอมแต่งกายเป็นองค์ชายแห่งราชวงศ์โชซอน (ค.ศ. 1392–1910) และเต้นประกอบเพลง “Boombastic” ของ Shaggy ในตัวอย่างละคร “Love in the Moonlight” ตัวอย่างดังกล่าวกลายเป็นไวรัล โดยมียอดชมใน YouTube ถึง 3 ล้านวิวภายในเวลาเพียง 5 วันหลังปล่อย

เมื่อไม่นานมานี้ พัคโบกอมและนักแสดงร่วม ไอยู (IU) ปรากฏตัวในรายการ “Golden Oldies” ของช่อง KBS ซึ่งเป็นรายการเพลงที่นำเสนอเพลงป๊อปเกาหลีตั้งแต่ยุค 1950–1970 และร้องเพลงบัลลาดคู่กันเพื่อโปรโมตซีรีส์ Netflix เรื่อง “When Life Gives You Tangerines”

แม้ว่าการไปออกรายการทอล์กโชว์หรือวาไรตี้จะเป็นเรื่องปกติในการโปรโมต แต่ก็ไม่บ่อยนักที่ดาราจะไปปรากฏตัวในรายการที่มุ่งเป้าไปยังกลุ่มผู้ชมที่กว้างขึ้นและมีอายุมากกว่า ซึ่งมักถูกละเลยโดยกลยุทธ์การตลาดบันเทิงกระแสหลัก และมีการกล่าวกันว่าพัคโบกอมเป็นผู้เสนอแนวคิดนี้เอง

ก่อนหน้านี้ นักแสดงคิมมินจู (Kim Min-ju) ก็เคยปรากฏตัวเป็นผู้พยากรณ์อากาศแบบไม่คาดคิดในรายการ “Newsroom” เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เพื่อโปรโมตภาพยนตร์ “Hear Me: Our Summer” ที่เธอรับบทเป็นนักว่ายน้ำผู้มีความบกพร่องทางการได้ยิน โดยเธอแนะนำตัวเองด้วยภาษามือและนำเสนอการพยากรณ์อากาศด้วยตนเอง

ศิลปินเคป็อปคนอื่น ๆ เช่น มาร์ค (Mark) วง NCT, แบคโฮ (Baekho) และดาฮยอน (Dahyun) จาก TWICE ก็เคยสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการเป็นผู้พยากรณ์อากาศหนึ่งวันเพื่อโปรโมตเพลงหรืออัลบั้มใหม่ของตนเช่นกัน

ปฏิกิริยาของผู้ชมส่วนใหญ่เป็นไปในทางบวก โดยมีความคิดเห็นว่า “โปรโมตละครได้ยอดเยี่ยมขนาดนี้ ดีมาก ๆ! เหมือนได้ของขวัญที่เห็นพัคโบกอมโผล่มาทุกที่ ใครจะไปคิดว่าข่าวจะหวานขนาดนี้?” และ “ตั้งแต่การพยากรณ์อากาศจนถึงการไปออกสลาก… เดี๋ยวนี้การโปรโมตของเหล่าคนดังมีความหลากหลายยิ่งกว่าข่าวอีกนะเนี่ย”

การมุ่งเป้าสู่กลุ่มผู้ชมที่กว้างขึ้น

นักแสดงจองแฮอิน (Jung Hae-in) ในช่วงโปรโมตภาพยนตร์ “I, the Executioner” ซึ่งเป็นภาคต่อของภาพยนตร์ดัง “Veteran” ได้สร้างความฮือฮาด้วยการปรากฏตัวในรายการถ่ายทอดสด “Live Lottery Draw 6/45” ของช่อง MBC โดยใช้เวทีจับสลากสดเป็นแพลตฟอร์มในการโปรโมตภาพยนตร์ของเขา

เขาและนักแสดงร่วม ฮวังจองมิน (Hwang Jung-min) ยังไปปรากฏตัวเป็นแขกรับเชิญในรายการทอล์กโชว์ยามเช้า “Morning Forum” ซึ่งมีผู้ชมหลักเป็นกลุ่มผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ

อีเจฮุน (Lee Je-hoon) นักแสดงนำจากภาพยนตร์ “Big Deal” ซึ่งกำลังเข้าฉายอยู่ในขณะนี้ ก็เลือกที่จะปรากฏตัวในรายการ “Morning Forum” เช่นกันเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นในหมู่นักแสดงที่เลือกใช้แพลตฟอร์มที่ไม่เป็นทางการในการโปรโมตงาน เพื่อเข้าถึงผู้ชมที่หลากหลายมากขึ้น

ในภาพยนตร์ อีเจฮุนรับบทผู้บริหารบริษัทการลงทุนระดับโลกที่มุ่งเข้าฮุบกิจการบริษัทโซจูที่กำลังประสบปัญหาในช่วงวิกฤตการเงินปี 1997 ของเกาหลี และการเลือกไปออกรายการ “Morning Forum” ถือเป็นกลยุทธ์ที่เจาะกลุ่มคนดูหลากหลายช่วงวัยโดยตรง

เนื้อหาของภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้องกับ “โซจู” ซึ่งเป็นสุราที่คนเกาหลีรักมากที่สุด ยังช่วยเพิ่มแรงดึงดูดให้กับผู้ชมจากทุกวัยได้เป็นอย่างดี

ผู้เชี่ยวชาญตั้งข้อสังเกตว่ามีกลยุทธ์ประชาสัมพันธ์ที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป จากช่วงพยากรณ์อากาศและรายการข่าว ไปจนถึงรายการจับสลากรางวัล เหล่าคนดังเริ่มฉีกกรอบของการประชาสัมพันธ์แบบดั้งเดิม และทางเลือกในการโปรโมตเหล่านี้สะท้อนถึงรูปแบบใหม่ในด้านการตลาดบันเทิง ที่ให้ความสำคัญกับความแปลกใหม่ ความเซอร์ไพรส์ และการกำหนดกลุ่มเป้าหมายเชิงกลยุทธ์

“ปกติแล้ว นักแสดงที่เตรียมเปิดตัวภาพยนตร์มักจะเลือกไปปรากฏตัวในรายการบันเทิงยอดนิยมทางทีวีหรือช่อง YouTube เพื่อเชื่อมต่อกับผู้ชมรุ่นใหม่ อย่างไรก็ตาม อีเจฮุนกลับเลือกเส้นทางที่ค่อนข้างไม่ธรรมดาด้วยการไปออกรายการ ‘Morning Forum’ ของ KBS” โปรดิวเซอร์รายการข่าวของ SBS รายหนึ่งกล่าว

“การกระทำนี้ถูกมองว่าเป็นความพยายามไม่เพียงเพื่อโปรโมตภาพยนตร์เท่านั้น แต่ยังเป็นการขยายการเชื่อมโยงกับผู้ชมหลากหลายเจเนอเรชั่นด้วย”

ในขณะที่ผู้ชมบริโภคเนื้อหาผ่านแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งมากขึ้น ผู้เล่นระดับโลกอย่าง Netflix ก็เริ่มยกระดับกลยุทธ์การตลาดข้ามแพลตฟอร์มเพื่อเชื่อมโยงกับผู้ชมในช่วงวัยและความสนใจที่หลากหลาย

แทนที่จะปล่อยเพียงตัวอย่างละคร Netflix ได้อัปโหลด “วิดีโอรีแอคชัน” ที่นำเสนอคุณยายจากเกาะเชจูรับชมละคร “When Life Gives You Tangerines” พร้อมแสดงความเห็น เพื่อโปรโมตซีรีส์ที่มีฉากหลังอยู่ทางตอนใต้ของเกาะ

นอกจากนี้ Netflix ยังดำเนินโครงการที่คุณยายเหล่านี้ได้ร่วมกันวาดภาพ โดยกระบวนการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะจากธีมในละครและการจัดแสดงภาพวาดเหล่านั้นก็ถูกถ่ายทำและนำเสนอเป็นวิดีโออีกด้วย ด้วยการใช้ความรักในวรรณกรรมของตัวละคร “แอซุน” ในเรื่อง Netflix ยังได้จัดการประกวดเขียนบทความอีกด้วย

เจ้าหน้าที่ของ Netflix ที่รับผิดชอบการโปรโมตละคร “When Life Gives You Tangerines” กล่าวว่า กลยุทธ์การตลาดสะท้อนถึงเรื่องราวเฉพาะตัวของละครเรื่องนี้

“แม้แนวทางการโปรโมตจะแตกต่างกันไปในแต่ละเรื่อง แต่ในกรณีของ ‘When Life Gives You Tangerines’ เรามุ่งเน้นการตลาดที่สอดคล้องกับโครงเรื่องและสาระสำคัญของละคร เราเชื่อว่าสิ่งสำคัญคือการใช้ประโยชน์จากองค์ประกอบในตัวเรื่องเอง จึงได้วางแผนเนื้อหาที่ให้ผู้ชมมีส่วนร่วมและสัมผัสประสบการณ์ของละครได้โดยตรง” เธอกล่าว

“ด้วยวิธีนี้ เราจึงสามารถเพิ่มความรู้สึกร่วมและขยายอิทธิพลทางอารมณ์และข้อความของเนื้อหาได้สูงสุด ในที่สุดก็สามารถกระตุ้นความสนใจในละครได้มากขึ้น”