รายงานของสำนักข่าว Sports Seoul เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม เปิดเผยว่า รายงานเทรนด์ของวงการเคป็อปที่กำลังตกเป็นประเด็นอยู่ในตอนนี้นั้นเป็นแค่ยอดของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น แหล่งข่าววงในเปิดเผยว่ามีรายงานมากกว่า 2,000 หน้าที่มีข้อมูลที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อวงการบันเทิงได้
นอกจากนี้คาดว่าประธานบังชีฮยอก (Bang Si Hyuk) ของ HYBE และ K อดีตหัวหน้าบรรณาธิการของ Weverse Magazine จะถูกตรวจสอบด้วยเช่นกัน
คลิก!!! |
ก่อนที่ K จะถูกว่าจ้างมาเป็น Weverse Magazine, K เคยเป็นบรรณาธิการของสำนักข่าวแห่งหนึ่ง ซึ่งเคยตีพิมพ์เนื้อหาคล้ายกับที่ปรากฏในรายงานของ HYBE ซึ่งทำให้คาดว่า K น่าจะเขียนตามความต้องการของบังชีฮยอก K จะเขียนบทความผสมเรื่องราวจากแหล่งข่าวและความเห็นของสาธารณะ และแน่นอนว่าบทความของ K สร้างกระแสและผลกระทบให้แก่วงการบันเทิง
ขณะเดียวกัน หลังจากก่อตั้ง HYBE บังชีฮยอกได้มองหาบรรณาธิการที่มีอิทธิพลและนักข่าวที่เขาจะสามารถเขียนข่าวเข้าข้างเขา และเขาได้เจอ K และได้ว่าจ้าง K ให้มาทำงานในบริษัทในเครือของ HYBE อย่าง Weverse Magazine
K ได้รับเงินเดือนสูงจากตำแหน่งหัวหน้าบรรณาธิการของ Weverse Magazine แต่หน้าที่สำคัญของเขาคือการรวบรวมรายการกระแสของวงการ เพื่อสรุปให้แก่ผู้บริหารของ HYBE ฟังถึงเทรนด์ล่าสุดในวงการเคป็อปในขณะนั้น บังชีฮยอกเห็นว่ารายงานนี้สำคัญมาก เพราะเขาให้ความสนใจกับเทรนด์ที่เปลี่ยนแปลงไป และความคิดเห็นของผู้บริโภค นอกจากนี้รายงานจะเป็นข้อมูลให้กับผู้บริหารที่ผันตัวจากวงการเกมมาทำงานในอุตสาหกรรมเคป็อป
อย่างไรก็ตาม รายงานของ K มีเนื้อหาเอนเอียงและอคติสูง ซึ่งมีการดูถูกศิลปินคู่แข่ง
มินฮีจิน (Min Hee Jin) อดีตซีอีโอของค่าย ADOR เป็นผู้บริหารคนแรกที่ส่งอีเมล์ร้องเรียนต่อสำนักงานใหญ่ของ HYBE เมื่อวันที่ 16 เมษายนปีนี้ มินฮีจินเขียนว่า
“รายงานกระแสของวงการที่เขียนโดยบรรณาธิการ K ของ Weverse Magazine ในแต่ละสัปดาห์ มีเนื้อหาอคติและใส่ความคิดเห็นของตัวเองลงไป อย่างไรก็ตาม ADOR ต้องการยอดตัวเลขและดัชนีตามความเป็นจริง หรืออย่างน้อยช่วยรายงานด้วยความเป็นกลางระดับหนึ่ง”