สัมผัสคาเวียร์... ไข่ปลากิโลละแสน!
2016-03-23 16:46:55
Advertisement
Pyramid Game

"คาเวียร์" อาหารชั้นเลิศที่ได้ยกชื่อชั้นว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดของทั้งด้านรสชาติที่ดีและมีราคาสูงลิบลิ่ว

 

 คาเวียร์นั้นเป็นภาษาเปอร์เซีย มีความหมายถึงไข่ปลาปรุงรสโดยทั่วไปแล้ว เมื่อพูดคำว่า คาเวียร์ ผู้คนจะนึกถึงคาเวียร์ดำอันจะพบได้ในปลาสกุลสเตอร์เจียน ซึ่งคาเวียร์ดำจะอุดมไปด้วยคุณประโยชน์ทางโภชนาการ ที่ไม่เพียงเฉพาะมีโปรตีนสูง ยังมีส่วนประกอบของวิตามินเอ บี ซี ดี และอี กรดไขมันไม่อิ่มตัวโอเมก้า 3 และ 6 รวมถึงแร่ธาตุ สารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายหลายชนิด โดยไม่มีคอเลสเตอรอล พร้อมช่วยในด้านความจำ และเสริมสร้างระบบการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด 

 

 ในบางประเทศนิยมมอบคาเวียร์เป็นของเยี่ยมผู้ป่วยที่มีระดับฮีโมโกลบินต่ำ เนื่องจากคาเวียร์ช่วยชดเชยภาวะร่างกายขาดธาตุเหล็กได้ ทั้งนี้ ในโลกของความงาม คาเวียร์ยังได้รับการยอมรับให้เป็น Perfect Collagen ที่ช่วยในเรื่องความอ่อนเยาว์และแข็งแรงของผิว ซึ่งสรรพคุณครบถ้วนและรสชาติยอดเยี่ยมนี้ จึงจะถูกยกชื่อชั้นให้เป็น True Caviar 

 

 คาเวียร์ที่มีจำหน่ายในท้องตลาดมีหลายเกรดหลายระดับ ไม่ใช่เพียงเฉพาะที่เป็นไข่ของปลาสเตอร์เจียน หรือ True Caviar เท่านั้น บ้างก็นำไข่ปลาประเภทอื่นมาบรรจุ อาทิ แซลมอน, เทราต์, ลัมป์ฟิช เป็นต้น หรือบ้างก็ผลิตขึ้นจากน้ำมันปลาก็มี ทำให้คาเวียร์มีราคาจำหน่ายแตกต่างกันไปด้วย หากต้องการโภชนาการครบถ้วนจากคาเวียร์ดำแล้วละก็ จำเป็นต้องสังเกตฉลากข้างบรรจุภัณฑ์เป็นสำคัญว่า เป็น True Caviar หรือไม่

 

 สำหรับประเทศไทยคาเวียร์ที่วางจำหน่ายนั้น ได้นำเข้ามาจากต่างประเทศทั้งหมด แต่อีกไม่นานเกินรอคนไทยกำลังจะได้ลิ้มลองคาเวียร์ที่ผลิตขึ้นในประเทศไทย เพราะปัจจุบันบริษัท ไทย สเตอร์เจิน ฟาร์ม จำกัด ได้เปิดฟาร์มปลาสเตอร์เจียนแห่งเดียวในประเทศไทยขึ้นที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยเป็นฟาร์มปลาระบบปิด Recirculating Aquaculture System (RAS) แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งได้มีการคาดการณ์ว่าจะสามารถผลิตคาเวียร์ได้มากถึง 1,500 กิโลกรัมต่อปี

 

 

 นพดล คำใส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย สเตอร์เจิน ฟาร์ม จำกัด ได้เผยว่า ปัจจุบันตนเองได้นำเข้าคาเวียร์จากบริษัทพาร์ตเนอร์เข้ามาจำหน่ายในประเทศอยู่แล้ว ภายใต้แบรนด์คาเวียร์ เฮ้าส์ ซึ่งใช้มาตรฐานเดียวกันกับฟาร์มปลาที่หัวหิน ซึ่งจะควบคุมอุณหภูมิอยู่ที่ 22-26 องศาเซลเซียส ช่วงที่ปลาวางไข่จะลดเหลือ 4-6 องศาเซลเซียส

 

 พร้อมทั้งยังมีการควบคุมอาหารปลา ซึ่งจะส่งผลให้ไข่ปลามีรสชาติดี ทั้งนี้ ยังต้องใช้เทคนิคพิเศษในการรีดไข่ปลาเพื่อป้องกันคาเวียร์มีกลิ่นคาว พร้อมกันนี้ยังได้จำแนกคาเวียร์ตามรสชาติให้นักชิมทั้งหลายได้เลือกไปลิ้มลองกันอย่างถูกปาก

 

 ในส่วนของคาเวียร์เฮ้าส์ผลิตภัณฑ์จะมี 4 ประเภท ได้แก่ คาเวียร์สเตอร์เจียนแบบคลาสสิก ได้จากปลาไซบีเรียน สเตอร์เจียน อายุ 5-7 ปี รสชาติละมุน เนื้อสัมผัสค่อนข้างนิ่ม มีตั้งแต่สีดำถึงสีน้ำตาลเข้ม

 

 คาเวียร์สเตอร์เจียนแบบพรีเมี่ยม ผลิตจากปลารัสเซียน สเตอร์เจียน หรือไซบีเรียน สเตอร์เจียนที่มีอายุมากกว่า 12 ปี ขนาดเม็ดจะใหญ่กว่าแบบคลาสสิก มีรสกลมกล่อม เนื้อสัมผัสค่อนข้างกรุบมัน มีสีตั้งแต่สีดำไปจนถึงสีน้ำตาลเข้ม

 

 รอยัล ออสเซตร้า คาเวียร์ ซึ่งได้จากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างเบลูกากับสเตอร์เจียน เนื้อสัมผัสที่แข็งกว่า 2 ชนิดแรก มีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์ มีสีเทามุก หรือสีเฮเซลเข้ม 

 

 และที่ถือเป็น The Best คือ เบลูกา คาเวียร์ ได้จากปลาสเตอร์เจียนขาว ที่เรียกว่า เบลูกา ไข่ปลาจะมีขนาดใหญ่ รสมันหอมนวลคล้ายเนย มีหลากหลายสีตั้งแต่น้ำตาล น้ำตาลทอง ไปจนถึงน้ำตาลเข้ม มีราคาแพงที่สุดในบรรดาคาเวียร์ทั้งหมด ตกราว 140,000 บาทต่อกิโลกรัมเลยทีเดียว 

 

 ทั้งนี้ ทั้งนั้น นอกเหนือจากความต้องการในการผลิตคาเวียร์แล้ว เรายังเห็นว่าฟาร์มเลี้ยงปลาสเตอร์เจียนที่หัวหินนี้ ยังสามารถเป็นแหล่งการเรียนรู้แห่งใหม่ได้อีกด้วย

 

ที่มา  มติชนออนไลน์

 

 






เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X