|
แบบนี้คงยากที่จะได้นอนตายตาหลับ ไมเคิ่ล แจ็กสัน ''ราชาเพลงป็อป'' และ วิตนี่ย์ ฮุสตัน นักร้องสาวเสียงลูกคอเก้าชั้น สองตำนานแห่งวงการดนตรี หลังจากขนาดลาโลกไปแล้ว ก็ยังไม่วายมีคนขุดคุ้ยเรื่องราวของพวกเขาออกมาสร้างข่าวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด แม็ตต์ ฟิดเดส อดีตบอดี้การ์ด และเพื่อนสนิทของ ''แจ็กโก้'' แฉว่า แจ็กสัน กับ วิตนี่ย์ เคยมีสัมพันธ์สวาทกันแบบลับๆ เมื่อปี 1991
ฟิดเดส เปิดใจกับ ''เดอะ ซัน'' สื่อดังจอมขุดคุ้ยเรื่องชาวบ้านประจำเมืองผู้ดี ว่า แจ็กโก้ ป็อปสตาร์ผู้ล่วงลับ มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะแต่งงานกับ วิตนี่ย์ ที่ดังในยุคเดียวกัน ''วิตนี่ย์ ย้ายมาอยู่ที่บ้านของ ไมเคิ่ล และพวกเขามีช่วงเวลาแสนสุขเหมือนกับคู่รักหนุ่ม-สาวทั่วๆ ไป แต่ ไมเคิ่ล พูดหลังจากนั้นว่า เขาหวังที่จะสานสัมพันธ์ต่อไป และผมรู้ว่าเขาฝันที่จะได้แต่งงานกับเธอ''
สำหรับความสัมพันธ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นแค่ 2 สัปดาห์เท่านั้น โดย ฟิดเดส ระบุว่าตลอดช่วง 10 ปีถัดมา ทั้ง 2 คนมีโอกาสได้พบกันในคอนเสิร์ตที่นิวยอร์ก เพื่อเฉลิมฉลอง 30 ปีของ ''แจ็กโก้'' บนถนนสายดนตรี ''จริงๆ พวกเขาดูสับสน พวกเขากอดกดันเป็นครั้งสุดท้าย และ ไมเคิ่ล ขอร้องให้ วิตนี่ย์ เลิกยา เพราะว่ามันจะทำลายชีวิตเธอ พวกเขากระซิบกระซาบว่าพวกเขารักกัน อารมณ์ความรู้สึกทั้งหมดมันบ่งบอกออกมาทางใบหน้าของพวกเขา''
เมื่อแฉแล้วต้องจัดเต็ม โดย ฟิดเดส อ้างเรื่องความรักลึกซึ้งของ สองซูเปอร์สตาร์ผิวสี อย่างสนุกปาก แถมยังยืนยันว่า แจ็กสัน ติดยาหมอ, เนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยเข็ม, หัวล้าน และไร้สมรรถภาพทางเพศ นอกจากนี้ในช่วงปีท้ายๆ ของ แจ็กสัน เขากลายเป็นพวกคลั่งลัทธินาซี หลังโดนคนใกล้ตัวเป่าหู ''มีพวกเหยียดผิวยัดความคิดเรื่องการเกลียดชังชาวยิวใส่หัวของเขา เรากำจัดคนที่ปั่นหัว ไมเคิ่ล ด้วยเรื่องไร้สาระแบบนี้ออกไป และเราจัดการใส่ข้อมูลใหม่ลงไปในจิตใจของเขา ทำให้เขาไม่คิดเรื่องการเกลียดชังชาวยิวอีก''
ยังไม่หมดแค่นั้นเพราะ ฟิดเดส ซึ่งมีโรงเรียนสอนศิลปะการป้องกันตัวทั่วโลก ยืนยันว่าตนเองเป็นพ่อแท้ๆ ของ แบล็งเค็ต ลูกชายคนเล็กของ แจ็กสัน โดยงานนี้เจ้าตัวระบุว่า ''แจ็กโก้'' ขอสเปิร์มของเขาในปี 2001 เพราะต้องการลูกที่เป็นนักกีฬา และตอนนี้เขามีแผนเดินทางไปศาลในลอสแอนเจลีส เพื่อขอให้มีการตรวจดีเอ็นเอ ''ผมต้องการพบกับ แบล็งเค็ต 2 ครั้งต่อปีเท่านั้น มันไม่ใช่การต่อสู้เพื่อสิทธิ์การเลี้ยงดูนะ''