ทางเลือกของคนอยากผิวใส
2012-04-22 17:59:27
Advertisement
Pyramid Game

ทางเลือกของคนอยากผิวใส (นิตยสาร Appeal)
โดย นพ.จินดา โรจนเมธินทร์


"ไวท์เทนนิ่ง เลเซอร์ กลูต้าไธไอน peeling….แต่ละวิธีช่วยให้ผิวกระจ่างใสได้แค่ไหน"

กี่ยุคกี่สมัยเทรนด์ผิวขาวก็ยังอินเทรนด์ในประเทศร้อน ๆ อย่างบ้านเรา ซึ่งมีบรรพบุรุษเป็นคนผิวคล้ำ แต่ลางเนื้อชอบลางยา คนดำ อยากขาว คนขาวอยากดำ แต่ขาวอย่างไรจึงจะปลอดภัยนี่สิเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้น นพ.จินดา โรจนเมธินทร์ หัวหน้ากลุ่มงานตจศาสตร์ และเลเซอร์ และรองผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง จึงไขข้อข้องใจเกี่ยวกับการทำให้ผิวใสด้วยวิธีต่าง ๆ ว่าได้ผลมากน้อยอย่างไรและปลอดภัยแค่ไหน

เลเซอร์ปราบเม็ดสี เป็นเลเซอร์ที่ใช้แสงยิงลงไปที่ผิว จากนั้นตัวแสงจะถูกดูดซับด้วยเม็ดสีในผิวหนังหรือที่เรียกว่าเมลานิน พลังงานแสงจะเปลี่ยนเป็นความร้อน และพลังงานความร้อนที่เหมาะสมจะไปทำลายเม็ดสี ทำให้ส่วนที่เป็นเม็ดสีถูกทำลายแล้วก็หลุดไป ผิวจึงดูกระจ่างใสขึ้น

Fact : กลุ่มแสงเลเซอร์สามารถรักษาให้ดีขึ้นชั่วคราว เมื่อหยุดทำและโดนแดดจากชีวิตประจำวันก็จะกลับมาคล้ำเหมือนเดิม นอกจากนี้ ถ้าแพทย์ควบคุมพลังงานความร้อนไม่ดีก็จะเกิดผลข้างเคียง เช่น ผิวไหม้ อักเสบ ระคายเคือง และดำคล้ำหรือถ้ายิงแรงเกินไปก็จะเกิดการอักเสบ เกิดแผลและเป็นแผลเป็น ที่สำคัญคือหลังยิงเลเซอร์ผิวจะไวต่อแดด จึงต้องพยายามหลบแดด อย่าตากแดดจัด

PEELING คือการใช้กรดลอกผิวซึ่งมีหลายชนิด เช่น กรดผลไม้ กรดเอเอชเอ กรดสารเคมี ฯลฯ ตัวน้ำยาที่ทาผิวจะทำให้เซลล์ผิวที่มีเม็ดสี เมลานินตายและหลุดลอกออก เป็นการกำจัดเซลล์เก่าที่คล้ำ ๆ ให้หลุดออกไปแล้วเกิดเซลล์อ่อนขึ้นมาใหม่ สีผิวจึงดูเนียนสม่ำเสมอและกระจ่างใสขึ้น การจะได้ผลมากน้อยขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของน้ำยาและสภาพผิวของแต่ละคน เช่น ผิวมัน ผิวบาง ผิวแห้ง ถ้าทำอย่างพอดีจะเห็นผล ไม่เกิดผลข้างเคียง แต่ถ้าทำแรงเกินไปจะทำให้ผิวระคายเคืองจากกรดที่ไปกัด หรือถ้าลอกมากเกินไปก็จะเกิดการระคายเคือง เช่น แดง แสบ อักเสบ และเมื่อลอกไปแล้ว ผิวที่ขึ้นมาใหม่เป็นผิวอ่อนที่ยังไม่แข็งแรงแล้วไปตากแดด ก็อาจเกิดการระคายเคืองแดงคล้ำและดำ

Fact : การลอกผิวในปัจจุบันจะลอกแค่ชั้นหนังกำพร้า ช่วยให้ผิวดูเนียนใสขึ้น หรือใช้วิธีอื่นช่วย เช่น ลอกเสร็จตามด้วยเลเซอร์ที่ไม่รุนแรง ซึ่งเป็นการประยุกต์ใช้ในปัจจุบัน

ยาทารักษาฝ้า มี 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งคือเร่งขจัดเม็ดสีส่วนเกินให้หลุดไป ฝ้าจะได้จางลงกลุ่มที่สอง จะไปยับยั้งไม่ให้เกิดการสร้างเม็ดสีใหม่ และเพิ่มการกำจัดฝ้า ทำให้หน้าผ่องใสขึ้น ยารักษาฝ้าแต่ละกลุ่มมีหลากหลายประสิทธิภาพ และแต่ละชนิดมีกลไกออกฤทธิ์ที่แตกต่างกัน

Fact : ส่วนใหญ่จะได้ผลเฉพาะฝ้าที่อยู่ในชั้นหนังกำพร้า แต่ฝ้าลึกมักไม่ค่อยหาย เพราะธรรมชาติของผิวมีความแข็งแรงมาก จึงไม่ยอมให้สิ่งแปลกปลอมซึมลงไป เวลาทายารักษาฝ้าก็จะอยู่ในชั้นหนังกำพร้าบน ๆ ทำให้เม็ดสีบนส่วนหนังกำพร้าจางลงเท่านั้น ไม่สามารถซึมลึกไปถึงหนังแท้ได้ ฉะนั้นเฝ้าตื้นจะดีขึ้น ในขณะที่ฝ้าลึกจะไม่ตอบสนองกับยา

เลเซอร์รักษาฝ้า สามารถกำจัดเม็ดสีส่วนเกิน แต่ไม่สามารถยับยั้งการสร้างเม็ดสีใหม่ได้ ฉะนั้น การรักษาด้วยเลเซอร์อย่างเดียว จะทำให้ฝ้าจางลง แต่ไม่หายขาด เพราะฮอร์โมนก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดฝ้าได้

Fact : เมื่อเม็ดสีถูกทำลายด้วยเลเซอร์ ฝ้าก็ยังคงขึ้นมาใหม่ เลเซอร์จึงไม่ทำให้ฝ้าหายขาด แต่ทำให้จางลง หลังจากฝ้าจางลงแล้ว คนไข้ก็ต้องดูแลตัวเองให้ดี หลบแดด ทาครีมกันแดด ทายาฝ้าหรือไวท์เทนนิ่ง เพื่อไม่ให้ฝ้ากลับมาใหม่หรือกลับมาช้าที่สุด

ยารับประทานรักษาฝ้า ปกติจะไม่แนะนำให้กินยารักษาฝ้า เพราะจะมีผลทั่วร่างกาย ซึ่งยากินมี 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งอาจเป็นวิตามินจากอาหารเสริม ค่อนข้างปลอดภัยถ้ากินตามโดสที่กำหนด กลุ่มที่สองมีผลต่อการสร้างเม็ดสี่โดยตรง เช่น ยากลุ่มทรานซามิน ซึ่งมีสรรพคุณทำให้เลือดแข็งตัวง่าย ทำให้เลือดหยุดไหล ต่อมาแพทย์ชาวญี่ปุ่นค้นพบว่ายาทรานซามินมีฤทธิ์ยับยั้งการสร้างเม็ดสี จึงมีการนำมาใช้รักษาฝ้า

Fact : ถ้าหยุดกินยา ฝ้าก็จะกลับมาเหมือนเดิม และถ้ากินต่อเนื่องไปนาน ๆ ไม่รู้ว่าจะมีผลเสียกับตับไตอย่างไร เพราะมันอาจทำให้เลือดในร่างกายแข็งตัวแล้วเกิดปัญหาเลือดดำ อุดตัน ขาบวม ขาดเลือดไปเลี้ยงที่สมอง

เลเซอร์รักษากระ การใช้เลเซอร์รักษากระมีโอกาสหาย ถ้ารักษาให้ถูกวิธี ซึ่งกระมีหลายชนิด มีทั้งกระเนื้อ กระสี กระลึก แต่ละชนิดรักษาให้หายขาดได้ บางชนิดอาจรักษาหลายครั้ง บางชนิดรักษาครั้งเดียวหาย

ครีมไวท์เทนนิ่ง ส่วนใหญ่หมายถึงเวชสำอาง ไม่ใช่ยา ซึ่งพัฒนามาจากเครื่องสำอาง แต่มีฤทธิ์มากกว่าเครื่องสำอาง ช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้น ไม่ซึมเข้าไปในกระแสเลือด

Fact : ไวท์เทนนิ่งส่วนใหญ่ค่อนข้างปลอดภัย เพราะมีส่วนผสมที่ไม่เป็นอันตราย เช่น ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ (เอเอชเออ่อน ๆ ) และมีการควบคุมไม่ให้มีความเข้มข้นสูงนัก

กลูต้าไธโอน มีทั้งแบบรับประทานและแบบฉีด แต่แบบฉีดห้ามนำเข้าในประเทศไทย มีแต่แบบรับประทานซึ่งมาในรูปแบบอาหารเสริม ในความเป็นจริงแล้ว กลูต้าไธโอนเป็นโปรตีนที่ร่างกายสามารถสังเคราะห์ขึ้นมาได้เอง แต่อาจมีปริมาณไม่มาก

Fact : การรับประทานกลูต้าไธโอนร่างกายเราดูดซึมได้น้อยมาก จึงไม่ค่อยได้ผลเท่าที่ควร อย.จึงอนุญาตให้มีการบริโภคกลูต้าไธโอนในรูปแบบกินเพราะค่อนข้างปลอดภัย โดยควบคุมไม่ให้มีโดสสูงเกินไป ในขณะที่การฉีดกลูต้าไธโอนจะมีผลเสียมาก เพราะอาจไม่สะอาด มีการติดเชื้อ แพ้ยารุนแรง

วิตามินซี การฉีดวิตามินเข้าเส้นเลือดเป็นความนิยมอย่างหนึ่ง เนื่องจากวิตามินซีมีฤทธิ์ ยับยั้งการสร้างเม็ดสี และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ หรือบางคนนิยมใช้วิตามินซีฉีดแล้วช่วยให้สุขภาพผิวดีขึ้น แต่ไม่ได้ผลกับทุกคน



Tip : โดยธรรมชาติแล้วคนเอเชีย เช่น คนไทยมีเม็ดสีเยอะ เพราะเราอยู่ในเมืองร้อนและมีแสงแดดตลอดปี ถ้ามีเม็ดสีน้อยแล้วโดนแสงแดดมาก ๆ จะทำให้ผิวหนังเกิดการเปลี่ยนแปลง เช่น เป็นมะเร็งผิวหนัง ฉะนั้น การมีเม็ดสีเมลานินจึงเปรียบเสมือนเกราะปกป้องเซลล์ผิวไม่ให้ถูกทำลาย แต่เทรนด์อยากขาวเป็นที่นิยมกันมาก จึงมีการพยายามทำให้เม็ดสีน้อยลงด้วยวิวัฒนาการต่าง ๆ


ข้อมูลจาก

:: APPEAL Magazine ::

onlyfans leaked xxx onlyfans leaked videos xnxx 2022 filme porno filme porno
.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X