ชาอึนอู (Cha Eun Woo) ได้ร่วมพูดคุยถึงเบื้องหลังการถ่ายทำซีรีส์เรื่อง Island พาร์ท 2 และพูดถึงตัวละครของเขาในซีรีส์เรื่องนี้

Island ดัดแปลงมาจากเว็บตูนยอดนิยมชื่อเดียวกัน เล่าเรื่องราวแฟนตาซีของปีศาจที่อาศัยอยู่บนเกาะเชจู และผู้คนที่มีโชคชะตากำหนดให้ต้องต่อสู้เพื่อปกป้องโลก ซีรีส์นำแสดงโดย คิมนัมกิล (Kim Nam Gil) รับบท พาน, อีดาฮี (Lee Da Hee) รับบท มีโฮ และ ชาอึนอู รับบทเป็น บาทหลวงจอห์น

ไม่กี่วันก่อนจะออกอากาศซีรีส์เรื่อง Island พาร์ท 2 ชาอึนอูได้ร่วมให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวในประเทศและพูดคุยเกี่ยวกับผลงานการแสดงล่าสุดของเขา ชาอึนอูพูดถึงตอนที่พาร์ทแรกของซีรีส์เรื่องนี้ออกอากาศว่า 

“เราถ่ายทำกันเมื่อปีก่อนครับ ผมเลยอยากรู้ [ว่าซีรีส์จะออกมาเป็นอย่างไร] [ตอนที่พาร์ทแรกออกอากาศ] ในกลุ่มแชทของนักแสดงต่างคุยกัน เช่น ‘ว้าว [ไม่คิดว่า] ฉากนี้จะออกมาเป็นแบบนี้’ หลังจากนั้นผมคุยกับผู้กำกับฉากต่อสู้และ หัวหน้าทีม CG เยอะมาก ตอนนี้ผมก็สงสัยแล้วว่าผู้ชมจะมีความคิดเห็นอย่างไรต่อพาร์ท 2 ผมอยากรู้ว่าผู้ชมจะว่ายังไง และตื่นเต้นที่จะได้เห็นเนื้อเรื่องในตอนต่อไปครับ”
 

ชาอึนอูได้พูดถึงการแสดงของเขาว่า

“มีบางฉากที่ดีและบางฉากที่น่าผิดหวังครับ ผมคิดว่าผมมีความรู้สึกปนๆกัน จะด้วยเนื้อเรื่องและตัวละครที่มีไหวพริบ ผมคิดว่าเป็นเรื่องท้าทายที่น่าสนใจในการแสดงบทจอห์น มันสนุกและผมคงอยากทำมันอีกถ้ามีโอกาส” 

สิ่งที่ทำให้เขาเลือกร่วมงานกับเรื่องนี้ ชาอึนอูบอกว่าเป็นเพราะนักแสดงที่เขาจะได้ร่วมงานในซีรีส์ 

“ผมไปเจอกับผู้กำกับครั้งแรกที่ออฟฟิศของเขา และเขามีภาพปีศาจตัณหาอยู่บนกำแพง ผู้กำกับบอกว่า ‘ผมอยากจะทำโปรเจคนี้กับคุณ’ ขณะที่ผมกำลังคิด คุณคิมนัมกิลได้ชวนผมไปทานข้าวเที่ยงด้วยกัน เขาบอกว่า ‘อึนอู แสดง [ซีรีส์] เรื่องนี้ด้วยกันเถอะ’ เขามอบความกล้าหาญให้ผม ผมเชื่อใจเขาและผู้กำกับและตอบ ‘ตกลง’ ไปในที่สุด หนึ่งในเหตุผลที่ผมอยากแสดงเรื่อง Island ก็เพราะว่ารุ่นพี่ที่น่าทึ่ง ผมรู้สึกภูมิใจที่ได้แสดงซีรีส์กับพวกเขา ผมสงสัยมาตลอดว่ารุ่นพี่นักแสดงเข้าถึงตัวละครและปฏิบัติต่อทีมงานอย่างไร และผมคิดว่าผมได้เรียนรู้อะไรดีๆจากการทำงานกับพวกเขาในครั้งนี้” 

ชาอึนอูเล่าถึงบรรยากาศในกองถ่าย เขาเล่าว่าได้เห็นคิมนัมกิลแนะนำฉากเพิ่มเติม หรือ เสนอไอเดียจากเว็บตูนต้นฉบับ 

“คิมนัมกิลจะปล่อยมุกไปทั่วและสนุกสนานเวลาอยู่หลังกล้อง แต่พอตอนซ้อมหรือตอนที่เราต้องถ่ายทำ เขาจะกลายเป็นตัวละครของเขา น่าทึ่งมากเลยครับ ผมได้รับอิทธิพลทางบวกและได้เรียนรู้จากเขาหลายอย่างจากแค่เฝ้ามอง” 

นักแสดงอีกคนที่ชาอึนอูพูดถึงคือ ชเวแทจุน (Choi Tae Joon) ที่มาเป็นแขกรับเชิญในซีรีส์ โดยมารับบทเป็นพี่ชายของชาอึนอูในเรื่อง ชาอึนอูพูดถึงเรื่องราวน่าเศร้าของ 2 พี่น้องในฉากสุดท้ายว่า

“ผมคิดว่าฉากนั้นยากที่สุดเลยครับ แต่เป็นฉากที่ผมชอบที่สุดด้วย”

เขาอธิบายต่อ

“ตอนอ่านบทผมร้องไห้ครับ การที่ผมต้องฆ่าพี่ชายของตัวเองด้วยมือของตัวเอง...คือตัวผมเองก็มีน้องชายครับ ผมเลยเข้าใจความรักระหว่างพี่น้อง กลายเป็นว่าผมจินตนาการถึงความเจ็บปวดและความเศร้าที่จอห์นจะรู้สึกในสถานการณ์นั้นและพยายามจะถ่ายทอดอารมณ์นั้นผ่านการแสดงของตัวเอง ตอนที่ถ่ายทำ ผู้กำกับยังร้องไห้เลยครับ ผมรู้สึกภูมิใจและรู้สึกดีมาก ชเวแทจุนกอดผมหลังจากถ่ายทำเสร็จและบอกว่า ‘นายทำได้ดีนะ’” 

นอกจากฉากอารมณ์แล้ว ชาอึนอูยังได้รับคำชมจากผู้ชมในฉากแอคชั่นด้วย ชาอึนอูพูดอย่างภูมิใจว่า

“ผมถามผู้กำกับฉากต่อสู้ว่า ‘ผมดูดีหรือยัง?’ และเขาบอกว่า ‘ไม่มีใครต้านทานคำชมได้หรอก’ เขาบอกแบบนั้น ผมเลยบอกว่าจะทำงานให้หนักขึ้นครับ”

เขาอธิบายโดยยกตัวอย่างฉากหนึ่ง 

“มีฉากที่ผมต้องสู้กับพาน แต่ทีมงานบอกว่า [ของประกอบฉาก] จะซ่อมไม่ได้นะถ้ามันแตก เราเลยต้องถ่ายให้สำเร็จในเทคเดียว เป็นครั้งแรกของผมที่ต้องขึ้นสลิง แต่ผู้กำกับชมผมว่าผมทำได้ดี” 

คำชมของเขาได้มาจากความพยายามและความตั้งใจ ชาอึนอูเล่าถึงการเตรียมตัวสำหรับฉากแอคชั่นของเขาว่า “ก่อนจะเริ่มถ่ายทำ ผมไปโรงเรียนสอนแอคชั่นเป็นเวลา 3 เดือน วันที่ผมไม่มีตารางงาน ผมจะไปซ้อมทุกวัน ผู้กำกับฉากต่อสู้ ในดาวพลาสติกขนาดเท่าดาบของจอห์นกับผม ผมจะซ้อมไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนทั้งที่บ้านหรือห้องรอแสดง” 

อีกเรื่องที่ยากในการมาแสดงเป็นตัวละครจอห์นคือ ภาษา เพราะต้องรับบทเป็นบาทหลวงจากอิตาลีทำให้เขาต้องพูดภาษาอิตาเลี่ยนและละตินได้คล่อง ชาอึนอูบอกว่า

“ภาษาอิตาเลี่ยนและละตินเป็นภาษาที่ผมไม่เคยเรียนรู้มาก่อน ผมไปที่โบถส์ในอิลซานและหาบาทหลวง ผมบันทึกคำพูดและการออกเสียงของบาทหลวง ผมฟังและซ้อมซ้ำๆ จากนั้นผมอัดเสียงตัวเองและส่งกลับไปให้บาทหลวงและถามว่าการออกเสียงของผมโอเคหรือยัง”

ในซีรีส์ ชาอึนอูเป็นบาทหลวงที่ชอบฟังเพลงฮิปฮอป ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่ถูกพูดถึงในตัวละครของเขา การห้อยหูฟังไว้ที่คอและใส่ต่างหูเป็นเอกลักษณ์ของตัวละครจอห์น แต่ชาอึนอูเล่าว่าในตอนแรกทีมงานผลิตตกลงกันว่าจะไม่ให้จอห์นใส่ต่างหู 

“แต่ผมยืนกรานครับ” 

เขาเล่าต่อ

“ผมบอกว่าจอห์นน่าจะดูดีถ้าใส่มัน ตอนที่จอห์น ‘ตื่น’ ขึ้นมา พลังของเขาเพิ่มขึ้นมาก และผมคิดว่าผมอยากจะหาเครื่องมือที่เป็นตัวแทนของพลังนั้น ผมคิดว่า [ต่างหู] น่าจะเป็นเครื่องมือนั้นได้ ผมอยากจะทำให้เขาดูโดดเด่นและผมคิดว่ามันน่าจะช่วยดึงตัวละครในออกมามีชีวิตได้” 

สำหรับหูฟังและเพลงฮิปฮอปที่จอห์นฟังในซีรีส์ ชาอึนอูเล่าถึงเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า 

“ผมไม่ได้เปิดเสียงตอนถ่ายทำครับ ผมแค่แกล้งเหมือนโยกตามจังหวะ แต่ผู้กำกับก็ติดต่อมาระหว่างที่เขากำลังตัดต่อ และถามว่า ‘อยากให้จอห์นฟังเพลงอะไร?’ ผมเลยตอบไปว่า ‘ใส่เพลงของ ASTRO เข้าไปได้ไหม?’ แต่ผู้กำกับบอกว่า ‘ก็อยากทำนะ แต่ฉันคิดว่าไม่เหมาะกับบรรยากาศในฉากนั้น’ ผมถึงกับคิดว่าจะทำเพลงใหม่เลยดีไหม แต่สุดท้ายเราตัดสินใจว่าจะใส่เพลงฮิปฮอปไปครับ” 

เมื่อถามว่าเคยเจอคนโฟกัสที่หน้าตาของเขามากกว่าการแสดงหรือเปล่า ชาอึนอูตอบอย่างมีไวพริบว่า

“ผมคิดว่า [หน้าตา] ของผมก็เป็นจุดแข็งหนึ่งของผมเหมือนกันครับ”

จากนั้นเขาบอกว่าให้คะแนนหน้าตาของตัวเองแค่ 50 เท่านั้น

“ผมมักจะกดดันตัวเองครับ ที่ให้ 50 คะแนนเพราะว่ามีคนเท่ๆอีกเยอะเลย และทุกคนมีเสน่ห์ของตัวเอง ผมดีใจที่ได้รับคำชมเรื่องหน้าตานะครับ แต่พูดตามตรงมันไม่ตรงใจครับ น่าจะเป็นเพราะว่าคุณแม่เลี้ยงผมมาอย่างเข้มงวด ผมพยายามให้ความสนใจกับจิตใจมากกว่าหน้าตา ผมคิดว่าคนที่ทำแบบนั้นดูเท่กว่าครับ”

ชาอึนอูให้คะแนนเรื่องการแสดงของเขา 50 คะแนน พร้อมอธิบายว่า

“ยิ่งแสดงมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งยากมากขึ้นเท่านั้นครับ ผมรับฟัง [คำวิจารณ์ที่แตกต่างกัน] ผมเข้าใจและรู้สึกขอบคุณสำหรับฟีดแบคในแง่บวก ครอบครัวและเพื่อนของผมบอกว่า ‘ฉันชอบ Island เพราะนายดูสบายๆ’”

ชาอึนอูเล่าเรื่องตลกว่า

“สมาชิกวง ASTRO บอกว่าที่ผมดูสบายเพราะนี่ไม่ใช่ซีรีส์โรแมนติกครับ เพราะว่าพวกเราอยู่ด้วยกันมาตลอดตั้งแต่เป็นเด็กฝึกหัด คิดว่านี่น่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเขาคิดแบบนั้น มุนบินบอกว่าเขาจะดูแน่นอนและบอกว่าเขาจ่ายค่าบริการของ TVING เพราะผมเลยครับ” 

เมื่อพูดถึงวง ASTRO ชาอึนอูถูกถามเรื่องแผนการในอนาคตของวง เขาตอบว่า

“ตอนนี้เรายังไม่มีแผนโปรโมทของ ASTRO เลยครับ แต่ผมอยากจะทำกิจกรรมวง ผมอยากจะแสดงบนเวที และอยากจะลองทำโซโล่ด้วย ผมสนุกที่ได้ยืนและร้องเพลงบนเวที และมันคือสิ่งที่ผมรู้สึกขอบคุณครับ”

เมื่อไม่นานมานี้วงเพิ่งฉลองครบรอบเดบิวต์ 7 ปี ชาอึนอูบอกว่า

“ผมไม่อยากจะเชื่อว่าผ่านมา 7 ปีแล้ว เมื่อไม่นานมานี้ระหว่างทานอาหารค่ำกับสมาชิกในวง เราพูดกันเรื่องที่เราจะทำอะไรในโอกาสครบรอบ 7 ปีของพวกเรา เรากำลังคิดว่าจะไปเยี่ยม เอ็มเจ (MJ) ที่กองทัพ แต่วันนั้นผมมีถ่ายละครครับ”

เมื่อช่วงปลายปี 2022 Fantagio ต้นสังกัดของ ASTRO ได้ออกมาบอกว่า จินจิน (JinJin), ชาอึนอู (Cha Eun Woo), มุนบิน (Moonbin) และ ยุนซานฮา (Yoon Sanha) ต่อสัญญาใหม่กับค่าย ในขณะที่ ร็อคกี้ (Rocky) ไม่ต่อสัญญา ส่วนเอ็มเจ ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ในกองทัพจะมีการพูดคุยเรื่องสัญญาอีกครั้งหลังจากปลดประจำการ

เมื่อถามถึงสถานะสัญญาของวงที่เพิ่งต่อไปใหม่ ชาอึนอูพูดอย่างระมัดระวังว่า

“เราคุยกับบริษัทตัวต่อตัวครับ และยังไม่เคยคุยกันแบบจริงจังระหว่างสมาชิกด้วยกันเอง แต่ไม่ว่าแต่ละคนจะเลือกยังไง พวกเขาจะเป็นเพื่อนผมตลอดไป สมาชิกมีมิตรภาพที่ดีต่อกัน เราอยู่ด้วยกันมานานตั้งแต่เป็นเด็กฝึกหัดที่ไม่มีชื่อเสียง จนถึงตอนนี้เราก็ยังสนิทกันดีเหมือนเดิม เราเป็นกำลังใจให้แก่กันและกันเยอะมากๆ”

ชาอึนอูปิดท้ายด้วยการบอกสิ่งที่น่าติดตามใน Island พาร์ท 2 ว่า

“ฉากแอคชั่นจะเข้มข้นไปอีกระดับ เรื่องราวเบื้องหลังแต่ละตัวละครจะถูกเปิดเผย เหตุผลของแต่ละคนจะถูกอธิบาย ผู้ชมจะสนุกไปกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อทั้งหมดมาเชื่อมโยงกัน”

สำหรับตัวละครของเขา ชาอึนอูบอกว่า

“ผมเจ็บปวดมากที่จอห์นต้องไล่ปีศาจในร่างพี่ชายของเขาในพาร์ท 1 และในพาร์ท 2 จิตใจของเขาจะสับสนและความขัดแย้งจะก่อตัวขึ้น เขาเชื่อและทำตามพระเจ้ามาโดยตลอด แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เขาตั้งคำถามว่า ‘พระเจ้ามีจริงหรือเปล่า?’ ในพาร์ท 2 คุณจะได้เห็นการเติบโตของจอห์น ผมหวังว่าคุณจะสนุกในการรับชมเพราะพวกเราทำงานกันหนักมาก ได้โปรดมอบความรักให้กับ Island และ จอห์นกันเยอะๆนะครับ” 

“Island” พาร์ท 2 ออกอากาศตอนแรกในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ และออกอากาศตอนใหม่ทุกวันศุกร์ทาง TVING และรับชมได้ทั่วโลกผ่านทาง Amazon Prime Video

ที่มา  (1) (2) (3) (4) (5) (6) (7) (8)