นักแสดงนำจากซีรีส์เรื่อง “Twenty Five, Twenty One” ร่วมกล่าวคำอำลาซีรีส์ พร้อมเลือกฉากที่น่าจดจำมากที่สุด

คลิก!!!

“Twenty Five, Twenty One” เล่าเรื่องราวของคนหนุ่มสาวในช่วงปลายปี 1990 ที่ความรักของพวกเขาเกิดขึ้นท่ามกลางวิกฤตเศรษกิจ IMF คิมแทรี (Kim Tae Ri) รับบทเป็น นาฮีโด เด็กสาวมัธยมปลายที่มีความมุ่งมั่นในกีฬาฟันดาบ และ นัมจูฮยอก (Nam Joo Hyuk) รับบทเป็น แพคอีจิน นักข่าวที่มาจากบ้านที่ล้มละลายเพราะประสบปัญหาเศรษฐกิจ ร่วมด้วย โบนา (Bona) วง WJSN รับบทเป็น โกยูริม นักกีฬาฟันดาบทีชาติที่พยายามอย่างดีที่สุดเพื่อครอบครัวของเธอแม้ว่าฐานะทางบ้านจะลำบากก็ตาม

คิมแทรี กล่าวอำลาซีรีส์เป็นคนแรก “ฉันทำงานอย่างหนักตลอด 7 เดือนที่ผ่านมา ฉันคิดว่าตัวเองคงลืม Twenty Five, Twenty One ไม่ได้” เธอส่งข้อความถึง นาฮีโด ตัวละครของเธอ “ฮีโด ถือเป็นเกียรติมากที่ได้เจอกับคนที่เท่แบบเธอ ฉันดีใจที่ได้เจอเธอนะ”

คิมแทรีเลือกให้ฉากที่น่าจดจำที่สุดเป็นช่วงตอนจบของตอนที่ 2 ที่เธอพูดว่า “เวลาอยู่กันแค่ 2 คน เรามาแอบมีความสุขโดยที่คนอื่นไม่รู้กันเถอะ นี่เป็นความลับของเรา” เธออธิบายถึงฉากนี้ว่า “มันเป็นฉากที่สมบูรณ์แบบที่ทุกอย่างมารวมกัน”

นัมจูฮยอก บอกว่า “ผมทำงานอย่างหนักมาตลอด 7 เดือน เวลาผ่านไปเร็วมากเพราะผมสนุกกับการถ่ายทำทั้งกับนักแสดงและทีมงานของซีรีส์” จากนั้นเขาขอบคุณผู้ชมที่ติดตามซีรีส์เรื่องนี้

นัมจูฮยอกเลือกให้ฉากจบในตอนที่ 10 เป็นฉากที่น่าจดจำที่สุดสำหรับเขา เป็นฉากที่ตัวละครหลักทั้ง 5 คนนั่งมองทะเล เขาบอกว่า “คนหนุ่มสาว 5 คนรวมตัวกันที่ทะเล ไม่ว่าจะเป็นทะเลที่สงบหรือมีคลื่น หนุ่มสาวที่ยืนอยู่ตรงนั้นทำให้นึกถึงพวกเรา”

โบนา วง WJSN บอกว่า “รู้สึกเหมือนเพิ่งเมื่อวานที่ฉันเตรียมตัวถ่ายทำ และถ่ายทำมาเป็นเวลานาน ฉันรู้สึกเสียใจที่เรื่องนี้จบแล้ว และรู้สึกขอบคุณที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเรื่อง Twenty Five, Twenty One ในฐานะโกยูริม ตลอดช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา เพราะว่าได้ทำงานกับโปรเจคและผู้คนที่ยอดเยี่ยม ทำให้เป็นช่วงเวลาที่มีค่าที่ฉันได้เรียนรู้, รู้สึก และได้คิดอะไรหลายอย่างเลยค่ะ”

เธอพูดต่อว่า “รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ทำงานร่วมกับผู้กำกับ, นักเขียนบท, ทีมงาน และรุ่นพี่นักแสดงที่ช่วยเหลือฉันเป็นอย่างมาก รู้สึกขอบคุณมากค่ะ และอยากจะขอบคุณทุกคนที่ติดตามซีรีส์ของเราและเป็นกำลังใจให้เราจากใจจริงค่ะ”

โบนาเลือกให้ฉากที่โกยูริมกระโดดน้ำในตอนที่ 8 เป็นฉากที่เธอชื่นชอบที่สุด “ฉากนั้นเป็นฉากที่ฉันเข้าถึงและยังชัดเจนอยู่ในความทรงจำของฉันอยู่เลยค่ะ ตอนที่จะเริ่มถ่ายทำ ฉันกังวลตลอดเลยว่าจะทำออกมาได้ดีไหม และทุ่มเทกับฉากนั้นมาก ฉันจำได้ว่าตัวเองคิดว่าเป็นโกยูริมที่ไม่มีทางเลือกแล้ว และกระโดดลงมาจากแป้นกระโดดน้ำ เป็นฉากที่ยังติดอยู่ในหัวฉันอยู่เลยค่ะ”

ชเวฮยอนอุค (Choi Hyun Wook) นักแสดงซึ่งรับบทเป็น มุนจีอุง บอกว่า “พอรู้ว่าตอนนี้ซีรีส์จบแล้ว ก็รู้สึกเสียดาย รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์เรื่อง Twenty Five, Twenty One ขอบคุณทุกคนที่ชื่นชอบซีรีส์”

ชเวฮยอนอุค เลือกให้ฉากไปเที่ยวทะเลและฉากขโมยเบาะรองนั่งเป็นฉากที่น่าจดจำที่สุดสำหรับเขา “เราคุยกันเยอะมากว่าจะทำยังไงให้ฉากนั้นน่าสนใจ” เขาเล่าต่อ “ฉากไปเที่ยวทะเลกลายเป็นความทรงจำที่มีค่าจริงๆ และฉากขโมยเบาะรองนั่งก็ตลกมาก เป็นฉากที่โดยส่วนตัวแล้วผมภูมิใจครับ”

อีจูมยอง (Lee Joo Myung) นักแสดงหญิงที่รับบทเป็น จีซึงวาน กล่าวว่า “ฉันยังไม่อยากจะแยกจากซึงวานเลยค่ะ ฉันทุ่มเทความคิดลงไปในบทของเธอเยอะมาก ฉันทุ่มความพยายามทั้งหมด และพอทั้งตัวละครและซีรีส์ได้รับความรักมากมาย ฉันเลยคิดว่ามันคงจะอยู่ในความทรงจำของฉันไปอีกนานเลย”

เธอพูดต่อ “รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ทำงานกับนักเขียนบทและผู้กำกับทั้ง 2 คน ที่ให้ฉันได้เป็นส่วนหนึ่งของ Twenty Five, Twenty One และฉันอยากขอบคุณนักแสดงรุ่นพี่ที่หัวเราะและร้องไห้ไปกับฉัน ฉันคิดว่าฉันคงจะคิดถึงซีรีส์เรื่องนี้แบบเดียวกับที่เวลาตัวเองเปิดหนังสือรุ่นเพราะอยากจะย้อนนึกถึงช่วงวัยรุ่นของตัวเอง ฉันขอขอบคุณผู้ชมที่รักและชื่นชอบซีรีส์เรื่องนี้ในบทและตัวละครด้วยค่ะ”

อีจูมยองเลือกให้ฉากที่ จีซึงวาน คุยกับแม่ของเธอในตอนที่ 12 เป็นฉากที่เธอชื่นชอบมากที่สุด “แม้ว่าเธอจะดูเป็นผู้ใหญ่และแก้ปัญหาเก่ง แต่ฉากนั้นเธอได้แสดงความอ่อนแอและด้านที่เป็นเด็กของตัวเอง ฉากนั้นเลยกลายเป็นฉากที่ฉันจดจำค่ะ ฉันรู้สึกดีที่สามารถถ่ายทอดอารมณ์ที่คิดว่าทุกคนอาจเคยมีความรู้สึกแบบนั้นมาก่อนออกมาได้”

ปิดท้ายด้วยทีมงานผู้ผลิตจาก Hwa & Dam Pictures “เราอยากจะขอบคุณ คิมแทรี, นัมจูฮยอก, โบนา, ชเวฮยอนอุค, อีจูมยอง และนักแสดงทุกคน รวมถึงทีมงานที่ทุ่มเทหัวใจของพวกเขาลงไปขณะถ่ายทำ เราอยากจะขอบคุณผู้ชมด้วยที่ส่งกำลังในให้กับ Twenty Five, Twenty One ที่ถ่ายทอดความสดใสของวัยหนุ่มสาว”

ตอนสุดท้ายของ Twenty Five, Twenty One ออกอากาศไปแล้วเมื่อวันที่ 3 เมษายน ติดตามได้ทาง Netflix

ที่มา (1)