Squid Game ถือเป็นซีรีส์เกาหลีอีกเรื่องที่มาแรงบน Netflix ในตอนนี้ ซีรีส์แนวจิตวิทยาระทึกขวัญ เตะตาผู้ชมด้วยเนื้อเรื่องสุดดาร์กที่ทำให้ผู้ชมทึ่ง ตกใจ นับครั้งไม่ถ้วนในแต่ละตอน และอีกเรื่องที่อาจทำให้หลายคนเซอร์ไพรส์คือ รู้หรือไม่ว่า Squid Game ใช้เวลากว่า 13 ปี ก่อนจะหลายมาเป็นซีรีส์?

ซีรีส์เรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเกมของเด็กชาวเกาหลี โดยเล่าเรื่องราวของผู้เข้าแข่งขันจำนวน 456 คนที่เข้าแข่งขันเพื่อชิงเงินรางวัล 45.6 พันล้านวอน (ประมาณ 1,300 ล้านบาท) เรื่องราวคงไม่น่ากลัวหากแต่ละครั้งที่ผู้เข้าแข่งขันถูกคัดออกจะจบลงด้วยความตาย แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ต้องแลกด้วยชีวิตและความโหดร้ายมากแค่ไหน ผู้เข้าแข่งขันก็ยังยืนยันจะแข่งต่อไป เพราะหลายคนมีหนี้สินท่วมหัว จึงต้องใช้ชีวิตเป็นเดิมพันในครั้งนี้

ผู้กำกับ ฮวังดงฮยอก ได้เล่าไว้ในงานแถลงข่าวว่า โครงเรื่องของ Squid Game ถูกเขียนขึ้นตั้งแต่ปี 2008 เมื่อถามว่าเขาอยากเข้าร่วมเล่นเกมแบบเดียวกับซีรีส์หรือไม่ ผู้กำกับฮวังดงฮยอกได้เล่าว่า “ตอนที่ผมเขียนเรื่องนี้ ผมคิดว่าผมจะเล่นเกม เพราะตอนนั้นผมมีหนี้สิน ผมคิดกับตัวเองว่าผมคงไปร่วมด้วยหากมีโอกาสแบบนั้นเกิดขึ้น”

เขาบอกว่าที่เขาเลือกเกมสควิดซึ่งเป็นเกมในวัยเด็ก เพราะว่ามันเป็นเกมที่สะท้อนสภาพสังคมที่เราอยู่ในปัจจุบัน นอกจากจะรับหน้าที่ผู้กำกับแล้ว ดงฮยอกยงรับหน้าที่นักเขียนบท และเคยมีผลงานที่สะท้อนสังคมทั้งเรื่อง Silenced และ The Fortress

กงยู (Gong Yoo) และ อีบยองฮอน (Lee Byung Hun) จะมาร่วมเป็นแขกรับเชิญในซีรีส์เรื่องนี้ หลังจากเคยร่วมงานกับผู้กำกับดงฮยอกในภาพยนตร์เรื่องก่อนหน้า

ในเรื่อง Squid Game จะมีคนที่ใส่ชุดเหมือนกัน แต่ใส่หน้ากากที่มีรูปเลขาคณิตต่างกันออกไป, วงกลมคือคนทำงาน, สามเหลี่ยมคือคนติดอาวุธ, สี่เหลี่ยมคือผู้จัดการ ผู้กำกับดงฮยอกบอกว่า เขาได้แรงบันดาลใจนี้มาจากมด “มดจะแบ่งหน้าที่กัน และทำหน้าที่เดียวเท่านั้น ผมได้รับแรงบันดาลใจของคนที่ใส่หน้ากากมาจากเหล่ามด”

การสร้างเรื่อง Squid Game ไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อผู้กำกับพบว่าเรื่องนี้มีความซับซ้อน และ ไม่ได้ตีตลาด ตอนที่เขาเริ่มเขียนมัน เป็นเรื่องยากในการหานักลงทุน เพราะเนื้อเรื่องแปลกใหม่และรุนแรงสำหรับยุค 2000 ทำให้เขาเลื่อนการสร้างเรื่องนี้ออกมา แต่ต้องขอบคุณ Netflix ทำให้เขาได้ทำ Squid Game ให้มาโลดแล่นในจอได้ในที่สุด “มันเป็นเรื่องน่าเศร้านะครับ แต่เกมความตายนี้กลับคล้ายคลึงกับสิ่งที่เราพบเจอในโลกปัจจุบัน อย่างเช่นกันลงทุนหรืออะไรทำนองนั้น เวลาเปลี่ยนและคนบอกผมว่าซีรีส์ทำให้พวกเขาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมที่ยากลำบากปัจจุบัน ก็นั่นแหละครับ ผมขยายเรื่องเพิ่มเมื่อ 2 ปีที่แล้ว และตอนนี้เราก็ทำมันออกมาแล้ว”

และเมื่อถามว่าถ้าผู้กำกับดงฮยอก ชนะเกมในครั้งนี้ เขาจะทำอะไร เขาตอบว่า เขาจะมอบเงินทั้งหมดให้แม่ของเขา ทำให้เรานึกถึงฉากของกีฮุน (รับบทโดย อีจองแจ (Lee Jung Jae)) ในตอนแรกของเรื่องเลย!