จอนยอบิน (Jeon Yeo Bin) พูดถึงตัวละครของเธอในเรื่อง Vincenzo และ Night in Paradise
2021-05-02 11:49:14
Advertisement
คลิก!!!

สำหรับปี 2021 นี้ นักแสดงหญิง จอนยอบิน (Jeon Yeo Bin) ได้มีผลงาน 2 เรื่องแล้วด้วยกัน เรื่องแรกคงเป็นเรื่องไหนไปไม่ได้นอกจากซีรีส์เรื่อง Vincenzo ของช่อง tvN ที่เธอรับบทเป็นทนายหญิงฝีปากกล้า ส่วนอีกเรื่องคือภาพยนตร์ Night in Paradise กับบทนักแม่นปืน ซึ่งตัวละครทั้ง 2 แตกต่างกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ ทั้ง 2 ตัวละครต่างตามแก้แค้นคนที่ฆ่าครอบครัวของตัวเอง

“ฮงชายองในเรื่อง Vincenzo กลายมาเป็นผู้เรียกร้องความยุติธรรมหลังจากพ่อของเธอเสียชีวิต ส่วน แจยอน ในเรื่อง Night in Paradise ก็กระหายการแก้แค้นหลังจากได้เห็นครอบครัวถูกฆาตกรม” เธอเล่าถึงตัวละครของตัวเองระหว่างการสัมภาษณ์ผ่าน Zoom

จากการต้องมารับบทนักแม่นปืนผู้เงียบขรึมในเรื่อง Night in Paradise จอนยอบินต้องหัดเล็งปืน “ฉันได้รับการเสนอบทตอนช่วงท้ายของการถ่ายทำซีรีส์เรื่อง Melo is My Nature (2019) ของช่อง JTBC ตอนแรกฉันกังวลเรื่องยิงปืน ฉันเลยไปเรียนยิงปืนมาก่อนหน้าจะเริ่มถ่ายทำไม่กี่เดือน ฉันทำงานอย่างหนักเพื่อเตรียมตัวสำหรับบทนี้ ทักษะของฉันดีขึ้นด้วยค่ะ”

จอนยอบินบอกเพิ่มเติมว่า “ฉันพยายามจะมองแบบแข็งตลอดการถ่ายทำ เพราะว่านั่นคือสิ่งที่บทบรรยายแจยอนไว้”


จากการทุ่มเทให้กับบทบาทตัวละครในโปรเจคหนึ่ง เมื่อถามว่ายากหรือไม่ในการสลัดตัวละครนั้นออกไปหลังจากถ่ายทำจบ จอนยอบินบอกว่าไม่ใช่เรื่องยากขนาดนั้นสำหรับเธอ
 

“เวลาฉันถ่ายทำ ฉันจะจมตัวเองไปกับอารมณ์และสถานการณ์ของตัวละคร แต่พอถ่ายทำเสร็จ ฉันกลับมาใช้ชีวิตปกติของตัวเองได้อย่างรวดเร็วเลยค่ะ”

เธอเป็นแฟนคลับของภาพยนตร์ประเภอฟิล์มนัวร์ และที่ชื่นชอบเป็นพิเศษคือผลงานของผู้กำกับชาวฮ่องกง Wong Kar-wai “ฉันเติบโตมากับการดูภาพยนตร์นัวร์ของฮ่องกง ตอนเด็ก ฉันจินตนาการอยู่บ่อยว่าได้เล่นบทนำในภาพยนตร์แนวนี้ แสดงฉากยิงปืน สละชีวิตเพื่อมิตรภาพ” เธออธิบาย

 

“ตอนที่ฉันเริ่มอ่านบทเรื่อง [Night in Paradise] บทแจยอนไม่ดึงดูดเลยค่ะ แต่พอในฉากสุดท้าย ฉันตระหนักได้ว่าเธอน่าจะเป็นตัวละครที่หาได้ยากในหนังนัวร์แอกชั่นของเกาหลี ฉันไม่อยากจะพลาดโอกาสได้แสดงบทแจยอน ที่เป็นตัวละครใหม่ไม่เหมือนใครซึ่งอยู่ท่ามกลางตัวละครชาย”

จอนยอบินบอกว่าเธอรับรู้ถึงความนิยมที่เพิ่มขึ้น จากยอดผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียของเธอ 

“เมื่อไม่นานมานี้ฉันเปิดอินสตาแกรม และคอมเม้นท์ส่วนใหญ่ที่ได้รับมาจากแฟนต่างชาติที่ดูซีรีส์ของฉันใน Netflix ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้เห็นว่าคนทั่วโลกได้รับชมเนื้อหาของเกาหลี”

เธอได้พูดถึงตัวละครที่น่าจดจำมากที่สุดของเธอ บทของ ยองฮี จากซีรีส์เรื่อง After My Death (2018) ซึ่งเธอได้รับรางวัลมากมายจากบทนักเรียนหญิงที่เจอกับความยากลำบากหลังจากสูญเสียเพื่อนจากการฆ่าตัวตาย เธอได้รับรางวัลนักแสดงแห่งปีจากงานประกาศรางวัล Busan International Film Festival ในปี 2017 และ รางวัล Independent Star Award จากงาน Seoul Independent Film Festival ในปีเดียวกัน

 

“ทุกตัวละครที่ฉันเคยแสดงมีความหมายกับฉันมาก แต่สำหรับ ยองฮี ในเรื่อง After My Death ถือเป็นจุดเปลี่ยนจริงๆในอาชีพนักแสดงของฉัน เหมือนเป็นการเปิดประตูสู่โอกาสดีๆอีกมากมาย” เธอบอก

จากการแสดงในภาพยนตร์อินดี้ สู่ ภาพยนตร์ที่เป็นที่ต้องการของตลาด จอนยอบินบอกว่าเธอยังคงเป็นมือใหม่ในวงการนี้ และกำลังทดลองแสดงในบทบาทที่หลากหลายที่น่าสนใจ

“หนังอินดี้เหมือนเป็นสนามเด็กเล่นของฉัน ซึ่งให้ฉันได้ลองอะไรหลายอย่าง โดยที่ไม่ต้องถูกตัดสิน พอมองย้อนกลับไปตอนที่ฉันอายุ 21 ตอนที่เป็นนักศึกษาที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจในการอยากเป็นนักแสดงแต่ไม่มีโอกาส ฉันรู้สึกโชคดีที่ตอนนี้ฉันมีที่ทำงานในไปทุกวัน และสามารถทำตามความฝันของตัวเองได้” 


ผลงานเดบิวต์ของจอนยอบิน คือภาพยนตร์เรื่อง The Treacherous (2015) และ ซีรีส์เรื่อง Save Me (2017) จอนยอบินกำลังจะมีผลงาน Netflix original เรื่อง Glitch ให้ติดตามกันเร็วๆนี้

 

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X