รีวิว Run On - วิ่งนำรัก By Nottchakun
2021-02-08 09:45:50
Advertisement
Pyramid Game

สวัสดีเพื่อนๆทุกคนครับ ก่อนจะไปถึงส่วนของการรีวิว
ผมอยากเกริ่นก่อนว่า ตัวผมเองไม่ได้คาดหวังกับเรื่องนี้เท่าไหร่นัก
อาจจะเพราะรูปแบบของซีรีส์ ที่ดูเนือยๆ ในช่วงแรก
และบทพระเอกอย่าง คีซอนกยอม ที่ในเปิดฉากมาต้นเรื่องนั้น
ด้วยคาแรคเตอร์ที่แข็งเกินไปจนขาดความเป็นมนุษย์ธรรมดา
ซึ่งมันขัดกับคาแรคเตอร์ของ โอมีจู สาวฟรีแลนซ์นักแปลที่ดูสดใสซะเหลือเกิน
.
แต่เมื่ออดทน และลองไล่ดูไปเรื่อยๆ จนผ่าน EP4 ของเรื่องไป
ผมก็พบว่าซีรีส์เรื่องนี้ช่างมีบรรยากาศคล้ายคลึงกับหนังรักฝั่งตะวันตก
ที่ฉากเคาะประตูบ้านสารภาพรัก กลายเป็นตำนานมาจนถึงทุกวันนี้
อย่างเรื่อง Love Acyually รักอยู่รอบตัวเรา มากจริงๆ
.
เพราะถึงแม้ใบปิดของเรื่องนี้ และชื่อเรื่องที่ประกาศกันโต้งๆว่า Run On
จะดูเหมือนเป็นซีรีส์กีฬา ว่าด้วยชีวิตของนักวิ่ง ที่ชื่อว่า "คีซอนกยอม"
แต่ภาพที่เราเห็นนั้น กลับเป็นแค่เปลือกนอก
ที่ห่อหุ้มเอาความรักอันหลากหลายไว้ข้างในเรื่องนี้อย่างลงตัว
.
จนผมสามารถพูดได้ว่า ตลอดการเดินทางของทุกตัวละครตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง
ไม่ได้มีอยู่ เพื่อให้คู่ของ โอมีจู กับ คีซอนกยอม เด่นกว่าใครๆ
แต่ความรักของทั้งสองคนต่างหาก ที่ทำให้เกิดการพบกันของผู้คนอีกมาย
โดยเฉพาะพระนางคู่รอง อย่างประธานซอดันอา กับ นักศึกษาหนุ่ม อียองฮวา
ที่สถานภาพทุกอย่างในเรื่องแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง กลับเป็นคู่ที่เคมีเข้ากันมากจริงๆ
.
พูดมาแบบนี้ หลายคนคงอยากรู้แล้ว ว่าพล็อตของ Run On เน้นไปที่อะไร
ดราม่า หรือโรแมนติกหวานใส ที่ตัวเอกจีบกันไปมา และต้องผ่านอุปสรรคมากมาย
คำตอบ คือ ไม่ใช่ทั้งสองอย่าง เพราะ Run On ไม่ได้ขายความดราม่า
แต่ขายความเชื่อที่ว่า ความรักมีหลายแง่มุมให้เราทำความเข้าใจ
.
ไม่ว่าจะเป็นความรักที่เกิดจากการทำงานที่ตัวเองใฝ่ฝัน
ความรักที่เกิดจากการได้สนับสนุนใครบางคนจนถึงเป้าหมาย
ความรักที่อยากเข้าไปเป็นความสุขของคนที่ดูไม่มีหัวใจ
หรือความรักที่ดูเป็นไปไม่ได้ แต่ก็ยังอยากที่จะลอง
.
ประเด็นที่น่าสนใจ คือ Run On ไม่ได้พาเราเข้าสู่โลกของนักกรีฑาเท่านั้น
แต่ยังพาเราเข้าไปสู่โลกของ นักแปลบทภาพยนตร์ ผ่านตัวละคร โอมีจู ด้วย
นี่คือความพิเศษอย่างหนึ่งของซีรีส์เกาหลีเลย ที่ไม่เลือกใส่อาชีพเดิมๆให้กับตัวละคร
แต่กลับเอาอาชีพที่เราไม่ค่อยได้รู้ ได้เห็นวิธีการทำงาน มาขยายให้คนดูรู้สึกสนใจ
จนผมคิดว่าคงมีคนจำนวนไม่น้อย ที่จะได้รับแรงบันดาลใจ
ในการออกไปลองทำอะไรใหม่ๆที่ตัวเองไม่เคยทำ
.
อีกประเด็นนึงในซีรีส์ที่ควรกล่าวถึง เพราะสำคัญมากจริงๆ คือ เวลา
เหล่าตัวละครต่างก็พูดถึงคีย์เวิร์ดนี้บ่อยๆ และย้ำอยู่เสมอว่า ต้องลงมือทำ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน ความฝัน ความรัก หรือความเข้าใจกันในครอบครัว
ซีรีส์ไม่ทิ้งตัวละครไหนให้ค้างคา หรือทิ้งให้คนดูต้องตีความกันแบบ งงๆ เลย
.
ถือว่าเป็น 10 นาทีสุดท้าย ที่มีความหมาย
และผมคิดว่ามันคือข้อความที่ถูกซ่อนไว้
ภายใต้ชื่อ Run On มาตลอดเวลา ข้อความนั้นคือ
.
เราทุกคนต่างมี "ลู่วิ่งแห่งชีวิต" ที่เป็นของเรา
ระยะทาง ความเร็ว ที่จะไปถึงเส้นชัยนั้น ไม่ใช่สิ่งสำคัญ
แต่สิ่งที่สำคัญ คือ ทุกๆระยะทางที่เราก้าวไปหา "เส้นชัย" นั้น
เราได้ก้าวไปข้างหน้าพร้อมกันกับใคร
.
คะแนนความน่าดู 9/10 คะแนน

#RunOn #NetflixTH

 

บทความนี้ได้รับสิทธิงานเขียนคุณ Nottchakun แล้ว

ที่มา https://www.facebook.com/NottchakunWriter/

 

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X