สหรัฐอเมริกา, ฝรั่งเศสและใต้หวันได้แนะนำให้ประชาชนงดการเดินทางท่องเที่ยวไปยังเกาหลีใต้และฮ่องกงร่วมกับประเทศอื่นๆ ที่ได้มีการห้ามนักท่องเที่ยวจากประเทศดังกล่าวเดินทางเข้าประเทศแล้วเนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าที่เพิ่มขึ้น
เกาหลีใต้มีการพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากในสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยจำนวนที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดจาก 30 คนในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ไปเป็น 977 คนในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ และมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสดังกล่าว 11 คนแล้ว
เมื่อวันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐอเมริกาได้ออกประกาศคำเตือนสูงสุดเกี่ยวกับการเดินทางไปเกาหลีใต้ โดยแนะนำให้ชาวอเมริกาหลีกเลี่ยงการเดินทางไปที่ประเทศเกาหลีใต้โดยไม่จำเป็นเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า
การประกาศครั้งใหม่นี้ออกมาเพียง 2 วันหลังศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐอเมริกาเพิ่งประกาศคำเตือนในระดับ 2 ไปเพื่อยกระดับการเตือนสำหรับคนที่จะเดินทางไปเกาหลีใต้ โดยกระทรวงการต่างประเทศได้ยกระดับคำแนะนำเรื่องการเดินทางไปประเทศเกาหลีใต้ขึ้นอีก 1 ระดับเป็นระดับ 2 จากทั้งหมด 4 ระดับ
ประเทศฝรั่งเศสก็ยกระดับคำแนะนำเรื่องการเดินทางไปเกาหลีใต้ขึ้นอีก 2 ระดับเช่นกัน จากระดับธรรมดาสีเขียวไปเป็นระดับแจ้งเตือนสีส้ม ซึ่งหมายถึงระดับที่ 3 จากทั้งหมด 4 ระดับ
จากระดับการแจ้งเตือนและคำแนะนำที่ยกระดับเพิ่มขึ้นนี้ ปารีสได้แนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปเกาหลีใต้โดยไม่จำเป็นเนื่องจากการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัส มาตรการหนึ่งที่มีการดำเนินการโดยกระทรวงต่างประเทศก็คือหน่วยงานการศึกษาของฝรั่งเศสได้สั่งการให้โรงเรียนที่มีนักเรียนที่เพิ่งเดินทางไปประเทศเกาหลีใต้กักตัวอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 14 วันและหากนักเรียนคนใดมีสมาชิกในครอบครัวที่เพิ่งเดินทางไปประเทศเกาหลีใต้มาก็ให้ปฏิบัติตามมาตรการนี้เช่นกัน
แหล่งข่าวแจ้งว่าถึงแม้จะมีการยกระดับคำเตือนเพิ่มขึ้น แต่ทางการฝรั่งเศสก็ไม่ได้บังคับใช้การปิดกั้นการเข้าประเทศจากประชาชนที่เดินทางมาจากเกาหลีใต้ ถึงแม้บุคคลที่มีอาการเสี่ยง เช่น มีไข้หรือมีปัญหาเรื่องการหายใจจะมีการมอบหมายเลขฉุกเฉินไว้ให้ใช้ติดต่อในกรณีที่มีอาการแย่ลงก็ตาม
นอกจากนี้ ประเทศไต้หวันก็ยังแนะนำประชาชนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปเกาหลีใต้โดยไม่จำเป็นด้วย ในขณะที่ญี่ปุ่นก็ประกาศคำแนะนำประเภทเดียวกันต่อการเดินทางไปยังพื้นที่ 2 จังหวัดทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ที่มีการรายงานการติดเชื้อ COVID-19 จำนวนมาก
ประเทศฮ่องกงก็เป็นประเทศล่าสุดของ 23 ประเทศที่มีการปิดกั้นการเข้าประเทศหรือใช้มาตรการกักกันสำหรับชาวเกาหลีหรือชาวต่างชาติที่มีประวัติการเดินทางไปประเทศเกาหลีใต้ในช่วง 2 สัปดาห์เช่นกัน
ซึ่งมี 7 ประเทศ ได้แก่ อิสราเอล, บาห์เรน, จอร์แดน, คีรีบาติ, ฮ่องกง, นาอูรูและมอริเชียสที่บังคับใช้การปิดกั้นการเข้าประเทศจากนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้ ตามข้อมูลหน้าเว็บไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศแห่งเมืองโซล
และมีอย่างน้อย 17 ประเทศ ได้แก่ อังกฤษ, เอธิโอเปีย, คีร์กีซสถาน, เติร์กเมนิสถาน, คาซัคสถาน, โอมาน, กาต้าร์, สิงคโปร์และไทย ที่เพิ่มเกาหลีใต้เข้าเป็นรายชื่อประเทศที่เป็นพื้นที่ในการติดเชื้อไวรัสเพื่อเพิ่มมาตรการในการเข้าประเทศที่เข้มงวดที่อาจรวมถึงการจับตาดูและตรวจสอบหลังจากระยะกักกัน 14 วันด้วย
เมืองชิงเต่าในประเทศจีนซึ่งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของมณฑลชานตงก็มีการตรวจสอบไวรัสจากนักเดินทางของเกาหลีใต้เช่นกัน
ทางด้านมองโกเลียและคูเวตก็ได้ประกาศระงับเที่ยวบินชั่วคราวทั้งในขาไปและกลับจาเกาหลีใต้ด้วย
หน่วยงานด้านสุขภาพของไต้หวัน, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, แคนาดาและสิงคโปร์ก็ได้ปรับเปลี่ยนคำแนะนำให้ประชาชนงดการเดินทางไปที่ประเทศเกาหลีใต้และพื้นที่ทางใต้ของเมืองแดกูและประเทศใกล้เคียงซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการติดเชื้อ COVID-19 ล่าสุดเป็นจำนวนมาก
ในการป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นมากไปกว่านี้ กระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีใต้ได้จัดการประชุมกับเจ้าหน้าที่จากคณะทูตต่างประเทศจำนวน 103 คณะในกรุงโซลเมื่อวันอังคารเพื่อสรุปให้พวกเขาทราบถึงความพยายามในการกักกันโรคของประเทศและเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ งดเว้นการออกมาตรการที่เข้มงวดมากเกินไป เช่น การห้ามประชาชนเกาหลีใต้เข้าประเทศ
“เราอธิบายให้พวกเขาทราบถึงมาตรการณ์ในการกักกันของเราและขอให้แต่ละประเทศงดเว้นมาตรการที่เข้มงวดมากเกินไปเนื่องจากความกลัวหรือเนื่องจากความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับสถานการณ์ภายในประเทศของเรา” คิมกอน รองรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศผู้เป็นผู้นำในการจัดการประชุมครั้งนี้บอกกับนักข่าว
ประเทศอิสราเอลเป็นหนึ่งในประเทศแรกๆ ที่เริ่มออกคำสั่งปิดกั้นการเข้าประเทศของชาวเกาหลีใต้ โดยห้ามชาวเกาหลีใต้ราว 130 คนที่เดินทางมาถึงเมือง Tel Aviv ในวันเสาร์จากการเข้าประเทศ ซึ่งการห้ามเข้าประเทศได้เกิดขึ้นก่อนจะมีการประกาศการตัดสินใจห้ามเข้าประเทศอย่างเป็นทางการด้วย
เมืองโซลจึงได้ประกาศถึงความเสียใจกับการตัดสินใจที่เกิดขึ้นดังกล่าวจากบางประเทศที่ไม่มีประกาศล่วงหน้า
โดยเมื่อวันจันทร์ ทางการอิสราเอลได้เช่าเหมาลำเครื่องบิน 2 เที่ยวบินและเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายด้วยตัวเองในการส่งนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้ประมาณ 400 คนกลับประเทศหลังจากติดค้างอยู่ที่นั่นจากการถูกห้ามเข้าประเทศแล้ว