ซมฮเยอิน (Som Hein) หนึ่งในผู้เข้าแข่งขันรายการ Idol School ทางช่อง Mnet เพื่อหาเด็กสาวที่จะเดบิวส์ไอดอลวงใหม่
| คลิก!!! |
ซมฮเยอิน เกิดปี 1996 และตอนนี้เธอมีอายุ 21 ปี
เธออยู่ในอันดับที่ 29 จากผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด 41 คน แต่ซมฮเยอินตัดสินใจถอดตัวจากรายการตั้งแต่ตอนแรก โดยได้ออกมาชี้แจงภายหลังว่าเพราะอาการโรคกลัวอ้วนของตัวเอง :
“เหตุผลที่ฉันถอนตัวออกจากรายการเนื่องจากโรคกลัวอ้วน ซึ่งเป็นมาตั้งแต่ก่อนเริ่มถ่ายทำรายการ แต่ตอนนั้นฉันไม่ได้สนใจ และคิดว่าไม่น่าจะเป็นปัญหา แต่พอเริ่มถ่ายทำ กลับไม่เป็นอย่างที่ฉันคิด สุขภาพของฉันไม่เอื้ออำนวยต่อการถ่ายทำและทำให้ไม่สามารถถ่ายทำตามตารางได้ หมอยังบอกอีกว่าถ้าฉันไม่รักษาต่อเนื่องหรือขาดการติดตามอาการ ร่างกายของฉันอาจแย่ลง ฉันเลยคิดอย่างหนักและตัดสินใจออกจากรายการในที่สุด ที่ไม่ได้บอกใครเรื่องโรคก่อนหน้านี้เพราะฉันไม่อยากเปิดเผยมันค่ะ ตอนนี้ฉันกำลังเข้ารับการรักษาและทำตามคำสั่งของหมออย่างเคร่งครัด ไปโรงพยาบาลตามนัดและรับยาอย่างสม่ำเสมอ”
— ซมฮเยอิน
หลายคนยังไม่ปักใจเชื่อ และคิดว่าซมฮเยอินน่าจะถอนตัวจากรายการด้วยเหตุผลอื่น
เพื่อนมัธยมต้นของซมฮเยอินกล่าวหาว่าเคยถูกเธอรังแก
ชเวมินคยอง ผู้หญิงที่ออกมาเปิดเผยว่าเคยถูกซมฮเยอินแกล้งและทำร้ายร่างกายระหว่างที่เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น
“ฉันหวังว่าฉันจะสามารถให้อภัยและลืมเรื่องราวในอดีตที่ถูกทำร้ายและสร้างแผลภายในจิตใจของฉันได้ เพราะตอนนั้นเราทั้งคู่ยังเด็ก ถ้าให้อภัยในเรื่องนั้นได้ ฉันก็จะสบายใจขึ้นด้วย แต่ว่ามันไม่ง่ายเลย
ฉันได้เห็นคนคนนั้นผ่านหน้าจอโทรทัศน์อีกครั้ง และเรื่องฝันร้ายตอนนั้นได้กลับมาหลอกหลอนฉันอีกหน เหมือนเมื่อตอนที่เป็นเด็ก ฉันควรทำอย่างไรดี หากฉันต้องการจะให้อภัยใครซักคน ?” — ชเวมินคยอง
ชเวมินคยองอธิบายถึงตอนที่ซมฮเยอินรังแกเธอในร้านคาราโอเกะ
“ฉันภาวนาให้ไม่ต้องมาเจอเธออีกครั้ง เมื่อตอนที่ฉันเรียนอยู่ชั้นมัธยมต้น เธอชวนฉันไปโนแรบัง (ร้านคาราโอเกะ) ก่อนจะซื้อชั่วโมง 3 ชั่วโมงเพื่อทุบตีฉันด้วยไมโครโฟน,ให้ฉันนั่งคุกเข่าบนพื้นที่มีน้ำลาย,เหยียบฉันขณะใส่รองเท้าส้นสูง และล้อฉันว่าจมูกโต ทั้งหมดนี้เกิดจากที่เธอคิดว่าฉันไปว่าเพื่อนของเธอ ทั้งๆที่ฉันไม่เคยทำอย่างนั้น
เธอยังสั่งให้ฉันไปซื้อบุหรี่ให้ และเมื่อฉันกลับมาก็ใช้หนังสือเพลงในร้านฟาดฉัน เจ้าของร้านคาราโอเกะสงสัยว่าทำไมในห้องถึงมีแต่เสียงดนตรีไม่มีเสียงร้องเพลงเลย จึงเข้ามาดู ถ้าไม่ได้เขา ฉันคงถูกเธอตีอยู่อย่างนั้น
หลังจากนั้นฉันต้องไปพบจิตแพทย์ และฝันร้ายทุกวัน
ในฝันของฉันยังเห็นเธอ และตอนนี้ฉันต้องมาพบเจอหน้าเธอบนเฟสบุคและหน้าจอทีวีอีก มันทำให้ฉันนึกถึงฝันร้ายในวันนั้น ได้โปรดอย่าออกมาให้เห็นอีกได้ไหม ฉันรู้สึกคลื่นไส้ทุกครั้งที่ได้อ่านว่าเธอเป็นคนใจดี ทั้งๆที่จริงๆแล้วเธอโหดร้าย เลิกสร้างภาพและหยุดปรากฎตัวในทุกๆที่ได้แล้ว” – ชเวมินคยอง
ซมฮเยอินออกมาตอบเกี่ยวกับเรื่องที่เธอถูกกล่าวหา
หลังจากนั้นไม่นาน ซมฮเยอินได้โพสลงในอินสตราแกรมของเธอ พร้อมเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น
“สวัสดีค่ะ ฉันซมฮเยอิน ฉันเขียนข้อความนี้ขึ้นเพราะรู้สึกผิดเกี่ยวกับข่าวที่ฉันรังแกเพื่อนตอนที่เรียนอยู่ชั้นมัธยม ซึ่งตอนนี้ถูกโพสกันในเฟสบุค
ก่อนอื่นต้องขอโทษที่ออกมาพูดเกี่ยวกับเรื่องที่อาจทำให้ทุกคนไม่สบายใจนี้ ฉันอยากอธิบายว่า ในตอนนั้นฉันเรียนอยู่ ม.3 ขณะที่เพื่อนคนนั้นถูกรังแก ฉันไม่ได้ทำร้ายเธอ ฉันแค่ยืนอยู่ที่นั่นด้วยเท่านั้น
ฉันก็ถูกรังแกจากคนที่รังแกเธอเหมือนกัน ตอนที่ยืนอยู่ที่นั่นฉันกลัวมากจนได้แต่มองดูเธอโดนทำร้าย แต่ฉันไม่ได้เป็นคนทำร้ายเธอจริงๆ ฉันอาจจะพูดรุนแรง เป็นสิ่งที่ไม่ควรพูด แล้วทำร้ายจิตใจเธอ
ฉันไม่อาจอ้างความเด็ก เพราะไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่หากทำพฤติกรรมแบบนี้ก็สมควรแล้วที่จะไม่ได้รับการยกโทษให้
ฉันเตือนตัวเองและบอกตัวเองอยู่เสมอว่าฉันนั้นใจแคบ เมื่อเวลาผ่านไปฉันรู้สึกเสียใจกับเธอมาก แต่ดูเหมือนว่าในสายตาของคนที่ถูกรังแกคงเป็นเรื่องยากที่จะยกโทษให้แก่ฉัน
ฉันเชื่อว่าหลังจากได้เห็นฉันในรายการ Idol School เธอจึงตัดสินในโพสเฟสบุค เธอไม่จำเป็นต้องยกโทษให้ฉัน เพราะสิ่งที่ฉันได้ทำสร้างความเจ็บปวดให้เธออย่างใหญ่หลวง
สิ่งที่ฉันได้ทำกับเธอคงสร้างความเครียดให้แก่เธอเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นฉันจะไม่ขอแก้ตัวโดยใช้คำว่าเด็ก หรือ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพราะยังไงก็ไม่ใช่ข้อแก้ตัวที่จะรับได้
ตอนที่ฉันเด็ก ฉันได้สร้างแผลเป็นในจิตใจให้แก่เธอ ไม่ว่าจะตอนนี้หรือในอนาคต ฉันจะใช้ชีวิตโดยจดจำวันคืนเหล่านั้นและเตือนตัวเองถึงความไม่เหมาะสมในวันนั้นอยู่ตลอด ฉันรู้สึกเสียใจจริงๆสำหรับการที่ตัวเองได้กลายเป็นสาเหตุให้เธอต้องเจ็บปวด” – ซมฮเยอิน
ผู้ถูกรังแกได้โพสหลักฐานเพิ่มเติม
ชเวมินคยองตอบโต้ ซมฮเยอินด้วยการบอกว่าที่ซมฮเยอินพูดนั้นไม่เป็นความจริง พร้อมอัพโหลดภาพการสนทนาในแอพพลิเคชั่น Facebook messenger
“เธอคิดว่าฉันไม่มีหลักฐานเหรอ ? ฉันกำลังจะอัพโหลดให้ทุกคนได้รู้ เห็นแบบนี้ยังกล้าบอกว่าฉันไม่มีหลักฐานอีกหรือเปล่า สิ่งที่เกิดขึ้นมันเลวร้ายมากนะ แล้วนี่ฉันต้องลบโพสหรือเปล่า ? ขณะที่ฉันกำลังพูดความจริง แต่เธอกลับขู่จะฟ้องฉัน ทำไมโลกมันน่ากลัวอย่างนี้ล่ะ…
ถ้าฉันจะโกหกฉันไม่ต้องเปิดเผยชื่อจริงและรูปก็ได้ ฉันคุยกับเธอทาง Facebook messenger ‘ถึงเธอต้องการจะขอโทษฉันจากใจจริง แต่ช่วงเวลาที่ถูกเธอทำร้ายยังคงไม่มีวันหายไปจากความทรงจำ เธอรู้ใช่ไหม’ และเธอตอบว่า ‘ใช่ ฉันรู้’ แต่ตอนนี้เธอกลับออกมาบอกว่าเธอไม่ได้ทำ เธอแค่ยืนอยู่ตรงนั้นเหรอ เธอเพิ่งสร้างรอยแผลใหม่ให้แก่ฉันเลยนะ” –ชเวมินคยอง
จากบทสนทนา ซมฮเยอินทักชเวมินคยองก่อน เพื่อจะขอเบอร์โทรศัพท์เธอ
“นี่เฮอินนะ ฉันขอเบอร์เธอได้ไหม? ฉันไม่ได้จะมาเถียงกับเธอ ต้นสังกัดของฉันอยากจัดการเรื่องนี้ ฉันรู้ว่าเธอคงไม่อยากคุยกับฉันหรอก แต่ฉันคิดว่าถ้าเราคุยกันผ่าน KakaoTalk มันใช้เวลานานไป ขอเบอร์เธอได้ไหม หรือไม่เธอก็โทรหาฉันหน่อย” –ซมฮเยอิน
ชเวมินคยองเปิดเผยคำขอโทษจากซมฮเยอิน ที่เธอคิดว่าซมฮเยอินอาจจะขอโทษเพื่อรักษาภาพลักษณ์นางแบบเอาไว้
“ตอนที่เธอมาขอโทษเมื่อปีที่แล้ว ฉันคิดว่ามันมาจากใจจริงๆ แต่แล้วก็คิดได้ว่า ‘ทำไมเธอถึงเพิ่งมาขอโทษเรื่องที่เกิดมาตั้งแต่ ม.3 เอาตอนนี้?’ฉันเข้าไปเฟสบุคของเธอและพบว่าตอนนี้เธอเป็นนางแบบไปแล้ว ฉันจึงรู้ว่าที่เธอขอโทษก็เพื่อสร้างภาพขอบคุณเธอนะที่ทำให้เวลาฉันได้ยินเพลง “Adult Child” ของกัมมี่ทีไรต้องร้องไห้ทุกที
เพื่อนร่วมงานของฉัน ,แฟนของฉันต่างรู้เรื่องนี้ทั้งนั้น ตั้งแต่เธอปรากฎในเฟสบุคอีกครั้ง ความทรมาณเมื่อตอนนั้นก็กลับมา ตอนที่ต้องถูกตีอยู่ 3 ชั่วโมง นั่งคุกเข่าอยู่อย่างนั้นทั้งที่ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด ขอโทษให้กับสิ่งที่ไม่ได้ทำและร้องไห้
วันคืนเหล่านั้นกลับมาอีกครั้ง และฉันยังฝันร้ายถึงมัน ฉันเหมือนจะเป็นบ้าเมื่อนึกถึงตอนที่ถูกตีด้วยไมโครโฟนและหนังสือเพลง ตอนที่ต้นขาของฉันถูกเหยียบด้วยส้นสูง
ฉันผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นมาได้และใช้ชีวิตอย่างมีความสุข จนกระทั่งได้มาเจอเธออีกครั้ง เธออยู่ทุกที่เลย ฉันรู้สึกแย่จริงๆ” –ชเวมินคยอง
ซมฮเยอินขอโทษชเวมินคยองอีกครั้ง และยืนยันว่าเธอแค่ด่าว่าแต่ไม่เคยทำร้ายร่างกายชเวมินคยองเลย
ซมฮเยอิน : ฉันไม่รู้เลยว่ามันจะกลายเป็นแผลในใจของเธอ ฉันขอโทษจริงๆ ฉันขอโทษที่ด่าว่าเธอ ฉันรู้ว่าคำพูดที่ฉันพูดออกไปนั้นทำร้ายเธอ ฉันอยากขอโทษทั้งหมด
ชเวมินคยอง : เฮ้อ…ถึงเธอจะขอโทษฉัน แต่เธอก็รู้ใช่ไหมว่าฉันไม่สามารถลบความทรงจำทั้งหมดออกไปได้
ซมฮเยอิน : ฉันรู้”
ชมเฮอินอธิบายว่าเธอไม่อยากพูดคุยกับชเวมินคยองผ่านทางข้อความเนื่องจากจะใช้เป็นหลักฐานได้
ซมฮเยอิน : บริษัทของฉันบอกฉันว่า ไม่ให้คุยกับเธอผ่านทางข้อความ กลัวเธอจะใช้เป็นหลักฐาน ให้โทรหาเธอแทน อย่าคุยกับเธอผ่านทาง KakaoTalk นั่นคือเหตุผลที่ฉันอยากคุยโทรศัพท์กับเธอ
ชเวมินคยอง : ทำไมมันจะกลายเป็นหลักฐานล่ะ ? เธอจะบอกว่าเธอไม่เคยตีฉันเหรอ ?
ซมฮเยอิน : ฉันเสียใจจริงๆที่ทำลายความรู้สึกเธอ
ชเวมินคยอง : ความรู้สึกของเธอทำร้ายฉันอีกแล้ว
ซมฮเยอิน : ฉันทำให้เธอเจ็บปวด ฉันจะไม่เถียงเรื่องนั้น
ซมฮเยอินบอกว่าที่เธอปฏิเสธว่าไม่ได้ทำร้ายร่างกายชเวมินคยอง แต่แค่อยู่ในเหตุการณ์เท่านั้นเพราะต้นสังกัดของเธอสั่งห้ามไว้
ซมฮเยอิน : ฉันอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถพูดอะไรได้ ฉันเล่าให้บริษัทฟังว่าที่เธอพูดนั้นเป็นเรื่องจริง
ชเวมินคยอง : เธอบอกพวกเขา แล้วพวกเขาสั่งให้เธอบอกว่าเธอไม่ได้ทำเหรอ???
ซมฮเยอิน : ฉันบอกพวกเขาว่าที่เธอพูดคือเรื่องจริง และบอกว่าฉันจะติดต่อกับเธอเอง บริษัทของฉันบอกให้ฉันทำแบบนั้น ให้บอกว่าที่เธอพูดไม่ช่ความจริง ฉันไม่ได้ตั้งใจปฏิเสธเอง
ซมเฮอินพยายามเตือนชเวมินคยองว่าสถานการณ์อาจเลวร้ายลงหากเธอไม่ยอมลบโพสในเฟสบุค
ซมฮเยอิน : เธออาจคิดว่าทำไมเธอต้องลบโพส ? แต่ฉันอยากขอเธอให้ลบเถอะ สถานการณ์จะได้ไม่แย่ลงไปกว่านี้ มันอาจทำให้เธอเจ็บปวดอีกก็ได้
ชเวมินคยอง : ต้นสังกัดเธอจะปล่อยข่าวว่าที่ฉันโพสมันไม่จริง และทำให้ฉันกลายเป็นตัวตลกเหรอ
เมื่อชเวมินคยองปฏิเสธที่จะลบข้อความทิ้ง ซมฮเยอินพูดกลายๆว่าบริษัทของเธออาจดำเนินคดีทางกฎหมาย
ซมฮเยอิน : ฉันไม่อยากเห็นเธอลำบากอีก ฉันจึงมาขอให้ลบข้อความ ยิ่งปล่อยผ่านไปยิ่งแย่ลง ฉันไม่สามารถจะหยุดบริษัทฉันได้นะ ฉันขอร้องล่ะ ลบโพสทิ้งเถอะ”
บันทึกการสนทนาทางโทรศัพท์ของทั้ง 2 คนหลุดออกมาด้วย
และนี่คือบันทึกเสียงการคุยโทรศัพท์ระหว่าง ชเวมินคยองและ ซมฮเยอิน
ชเวมินคยอง : เธอเขี่ยบุหรี่ใส่หน้าฉัน เธอบอกเองไม่ใช่เหรอว่าถ้าฉันร้องเพลงได้คะแนนเต็มร้อย เธอจะปล่อยฉันไป แต่สุดท้ายเธอก็ตีฉัน
ซมฮเยอิน : เธอจำที่ปาร์คโบคยองพูดกับเธอไม่ได้เหรอ มินคยอง ?
ชเวมินคยอง : จำไม่ได้ ฉันจำได้แค่ว่าเธอทั้งตี และด่าฉัน
ซมฮเยอิน : ฉันรู้ว่าฉันทำอย่างนั้น แต่เธอจำที่โบคยองพูดไม่ได้เหรอ
ชเวมินคยอง : พวกเธอบอกว่าฉันอ่อนแอ ฉันไม่มีเงิน เพราะฉะนั้นแล้วฉันออกมาเที่ยวไม่ได้ แต่พวกเธอก็บอกให้ฉันออกมา ฉันมาแล้วพวกเธอก็ตีฉัน ฉันเกลียดทั้งเธอและโบคยอง
พวกเธอเปิดเพลง Adult Child เกือบ 3 ชั่วโมงแล้วตีฉันด้วยด้านหัวและด้านท้ายของไมโครโฟน ถามฉันว่าด้านไหนเจ็บกว่า ให้ฉันคุกเข่าบนพื้นที่เต็มไปด้วยน้ำลายของพวกเธอ เดินย่ำฉันด้วยรองเท้าส้นสูง แล้วจุดบุหรี่ใกล้หน้าฉัน รู้ไหมว่ามันคือฝันร้ายของฉันในทุกๆคืน
วันนั้นแม่ของฉันได้รู้ว่าฉันมีชีวิตอย่างไรอยู่ที่โรงเรียน ฉันไปพบพวกเธอโดยใส่เสื้อของพ่อของฉัน แล้วกลับมาบ้านพร้อมกับรอบดำที่ถูกพวกเธอเหยียบย่ำ แม่ฉันเลยรู้ว่าฉันเป็นอย่างไร
ฉันไปที่สถานีตำรวจ แต่ไม่ได้แจ้งความ เพราะไม่อยากให้เธอเสียประวัติ เพราะเธอก็ยังเด็กอยู่ ตอนนั้นฉันคิดอย่างนั้นจริงๆ ฉันจึงตัดสินใจย้ายโรงเรียน เธอรู้ใช่ไหม?
ซมฮเยอิน : ฉันรู้หลังจากเธอย้ายไปแล้ว
ชเวมินคยอง : หลังจากย้ายโรงเรียน ฉันไม่สามารถเรียนได้ ฉันมองหน้าคนไม่ได้ ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ฉันฝึกเป็นช่างตัดผม และฉันก็เริ่มคิดว่า ฉันคงทำอะไรไม่ได้หากฉันยังคงกลัวคนอยู่อย่างนี้ ฉันจึงตัดสินใจกลับมาโรงเรียน
ฉันไม่อยากให้ใครต้องพบเจอเหตุการณ์แบบฉันอีก เธออาจบอกว่าตอนนั้นเธอก็กลัวเหมือนกัน แต่ตอนนั้นเธอก็อยู่ฝ่ายนั้นนี่
ซมฮเยอิน : ฉันรู้ว่านั้นเป็นสิ่งที่ฉันเลือกเอง และเป็นสิ่งที่ผิด ฉันไม่ควรตีเธอ ฉันจะไม่หาเหตุผลเข้าข้างตัวเอง ฉันทำให้เธอเจ็บปวดและสร้างบาดแผลให้ชีวิตของเธอ ฉันไม่มีข้อแก้ตัวใดใด
เมื่อได้รับคำขอโทษ ชเวมินคยองบอกว่าเธอไม่อยากเห็นหน้าซมฮเยอินไม่ว่าจากที่ใดอีก
“เธออาจจะขอโทษ แต่คำขอโทษไม่อาจลบล้างความเจ็บปวดในอดีตได้ ฉันหวังว่าเธอจะยอมรับผิดและใช้ชีวิตอยู่นอกสายตาของฉันไปตลอดกาล” –ชเวมินคยอง
ทั้งนี้ทั้งนั้นต้นสังกัดของซมฮเยอินยังไม่ออกมาให้รายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น
ที่มา http://www.koreaboo.com
แปลโดย https://popcornfor2.com