“โตโน่” คอนเฟิร์ม “แตงโม” เปลี่ยนไปมาก มีความคิดดีขึ้นหลังได้ใกล้ชิดศาสนา
2014-04-10 21:41:46
Advertisement
คลิก!!!

“โตโน่” ฟุ้งสงกรานต์นี้ควง “แตงโม” กราบแม่ที่ขอนแก่น โวตอนนี้ตนทั้งคู่มีความสุขมาก ดีใจที่แฟนสาวเปลี่ยนไปหลังได้ใกล้ชิดศาสนา ทั้งเรื่องของอารมณ์และมีความคิดดีขึ้นมาก รับอยากมีลูกแล้วแต่แตงโมติดเป็นพรีเซ็นเตอร์ต้องรออีก 1 ปี เปรยอยากมีลูก 2 คน ก่อนโต้เปลี่ยนคนดูแลจากคนของเอ็กแซ็กท์มาเป็นผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม

กลับมาหวานกันอีกครั้ง หลังจากผ่านเรื่องราวร้ายๆ มาได้ สำหรับครอบครัวใหม่วงการบันเทิง “โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” กับ “แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์” โดยเจ้าตัวเผยว่าสงกรานต์ที่จะถึงนี้เตรียมพาแฟนสาวไปกราบแม่ที่ จ.ขอนแก่น พร้อมฟุ้งตอนนี้ครอบครัวของตนมีความสุขมาก ดีใจที่แตงโมเปลี่ยนไปหลังได้ใกล้ชิดศาสนา

“ว่าจะพาสุดที่รักของผมกลับไปขอนแก่น พาไปพบแม่ย่า แล้วก็พาไปดูว่าคนขอนแก่นเขาเล่นน้ำยังไงกัน ทริปนี้ไม่มีอะไรพิเศษเพราะทุกวันก็พิเศษอยู่แล้ว ทุกทริปก็เป็นทริปที่พิเศษอยู่แล้วเพราะเราได้อยู่กับคนที่เรารู้ใจ ครอบครัวเราตอนนี้มีความสุขมาก ความจริงเรื่องของการจะไม่เข้าใจกันมันก็เป็นเรื่องธรรมดาของทุกครอบครัว ลิ้นกับฟันเนอะ ก็ต้องมีกระทบกันอยู่แล้ว แต่คงไม่มีใครอยากจะเสียลิ้นหรือว่าเสียฟันหรอก ความรักของผม ผมก็บอกไปแล้วว่าผมรักโมคนเดียว รักโมที่สุดแล้วก็จะรักตลอดไป แล้วผมก็ไม่ต้องการจะผิดคำพูดหรือผิดคำสัญญาของตัวเอง แล้วตัวของโมเองก็ดีขึ้นในทุกๆ วัน เรามีความสุขกันมาก เราเข้าใจกันมากขึ้นในทุกๆ วัน”

“เรื่องอารมณ์ร้อนมันก็คงเป็นทุกคนแหละ ที่ผ่านๆ มาผมว่ามันจบไปแล้วไง ถ้าเรามัวแต่ไปพูดถึงเรื่องเมื่อก่อนว่ามันคืออะไรอย่างนี้มันก็ไม่จบเสียที แต่สิ่งที่ตอนนี้ผมเห็นคือแฟนผมเขาดีขึ้น แล้วผมเชื่อในสิ่งที่ดีของเขา มันก็มีความสุขในการที่เห็นเขามีความสุข แค่นี้มันก็น่าจะแฮปปี้แล้ว”

โวตั้งแต่แฟนสาวมีศาสนาคริสต์เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจก็ทำให้อาการนอนไม่หลับเรื้อรัง ที่ต้องพึ่งยามานานกว่า 10 ปีนั้นดีขึ้น จนตอนนี้แทบจะไม่ได้ใช้พึ่งยานอนหลับแล้ว
“ที่ดีขึ้นนี่เพราะว่าโมได้มาใกล้ชิดกับศาสนา การได้ไปโบสถ์ การได้ศึกษาพระคัมภีร์ไบเบิล ตัวของผมเองก็ร่วมศึกษาด้วย มันก็ทำให้อบอุ่นมากขึ้น รวมไปถึงตัวผมเองก็พัฒนามากขึ้น เดินไปด้วยกันกับโมให้ชีวิตเรามีความสุข ตอนนี้เขาก็ดีขึ้นในทุกๆ วัน ตอนนี้เขาดีขึ้นเยอะมาก ตอนนี้เขาทานยานอนหลับน้อยลง เรียกว่าตอนนี้แทบจะไม่ได้ใช้แล้วก็ได้ เขาทานยาน้อยลงตั้งแต่เขาได้อยู่ใกล้ศาสนา ซึ่งเป็นอะไรที่ผมดีใจมาก”

“ผมช่วยเขาไม่ได้หรอกครับ ผมเองไม่ใช่คนที่สะอาด ผมเองก็ยังมีบาปอยู่ ผมได้แต่เป็นคนคอยดูแลในยามที่เขาป่วยไข้ เวลาที่เขาเสียใจ ซึ่งก็เหมือนกันที่เขาก็ดูแลผม การที่คนเราจะพัฒนาไปในเรื่องของภายในได้ มันพึ่งแค่เราสองคนไม่ได้ เราเป็นมนุษย์ เรายังมีกิเลสเยอะแยะ”

“ผมพูดตรงๆ นะ ทุกวันนี้เขาดูแลผมดีกว่าที่ผมดูแลเขาอีก พอเขาดีขึ้นมันเลยทำให้ผมมีความสุขไปด้วย ตอนนี้ผมก็คอยหาวิตามินซี พวกแคลเซียมให้เขาทาน ตอนนี้เขาก็สุขภาพแข็งแรง สวย เราเป็นแฟนเขา เราก็มีหน้าที่ดูแลเขา ผมก็บอกได้แค่ว่าตอนนี้เขาดีขึ้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการใช้ชีวิต อารมณ์ ความคิดเขาดีขึ้นมาก ทุกวันนี้ครอบครัวอบอุ่น เข้าใจกัน ทุกอย่างอบอุ่น ผมว่ามีความสุขแล้ว”

เผยอยากมีลูกแล้วแต่ติดที่ภรรยาสาว “แตงโม” ยังติดพรีเซ็นเตอร์การคุมกำเนิดอีก 1 ปี เปรยอยากมีลูก 2 คน ชาย-หญิง
“จริงๆ ผมตอนไหนก็ได้นะ ตอนนี้ผมก็อายุ 28 ปีแล้ว จริงๆ ผมคิดไว้ว่าอยากจะมีตอนอายุ 25 ปี ก็แล้วแต่เขา อยากจะมาก็มา ผมเองยอมรับว่าอยากมีนะ แต่ยังมีไม่ได้หรอก โมเขาติดเป็นพรีเซ็นเตอร์คุมกำเนิดอยู่ ก็ต้องรออีก 1 ปีครับ ตอนนี้ก็ยังต้องคุมอยู่เพราะว่ายังมีงานยังมีอะไร ที่คิดไว้คืออยากมีลูก 1-2 คน คนโตเป็นผู้ชาย คนเล็กเป็นผู้หญิงผมว่าก็น่ารักดี”

ยันไม่คิดจัดงานแต่งงานแล้ว บอกแค่ได้เข้าพิธีปฏิญาณสัญญาต่อกันก็เพียงพอแล้ว
“ผมไม่ได้ไปให้ความสำคัญกับเรื่องตรงนั้น แค่ได้พูดคำสัญญาปฏิญาณแค่นั้นผมก็มีความสุขแล้ว แค่ผมเห็นโมมีความสุข เราได้มอบสิ่งดีๆ ให้กัน เดินไปด้วยกันในทางที่ดี ผมก็รู้สึกว่านั่นคือของขวัญที่เราได้มอบสิ่งดีๆ ที่ผมจะได้รับ ที่ครอบครัวจะได้รับ ที่ผู้ชายคนนึงจะได้จากผู้หญิงที่เขารัก ผมดีใจมากนะครับ (ยิ้มแฉ่ง)”

“ผมดีใจที่ผมได้เห็นแฟนของผมดีขึ้น อย่างงานแต่งคนอื่นๆ ผมไม่ได้เปรียบเทียบหรืออะไรนะครับ เขาไปถ่ายรูปกับบ่าว-สาว บางทีแทบไม่รู้จักกันด้วยซ้ำ แต่เพียงเพราะว่าเขาเป็นคนใหญ่คนโต หรือเป็นคนรวย แต่เขาไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกับความรักของเราเลย สู้เราอยู่ในบรรยากาศของพ่อแม่ ของญาติของเพื่อนๆ ที่รักเรา ผมว่ามันอบอุ่นที่สุดแล้ว มันเต็มไปด้วยความจริงใจ ผมเลยรู้สึกว่ามันดีแล้วสำหรับผม เราไม่ใช่คนรวยที่จะมาจัดงานใหญ่โต หรือจองโรงแรมใหญ่ๆ สิ่งที่เรามีอย่างเดียวเลยคือเราเชื่อในเรื่องของความรักที่เรามีต่อกัน มันสำคัญที่สุดแล้ว”

ไม่สนคนเอาเอาตนไปเปรียบเทียบกับหนุ่ม “บอม ธนิน มนูญศิลป์” เรื่องความแมน บอกส่วนตัวไม่เคยตัดสินใจเพราะตนก็มีทั้งส่วนที่ดีและไม่ดี
“(ส่ายหน้า)ไม่ครับ…ผมไม่ชอบตัดสินใคร แล้วก็ไม่ชอบบอกว่าใครดีหรือไม่ดี เพราะตัวผมเองก็ยังเป็นคนที่บาปอยู่ ผมมีส่วนที่ไม่ดีอยู่ ถ้าผมยังไม่ดีพอผมจะไม่ตัดสินใครว่าคนนั้นทำถูกหรือว่าทำผิด แต่ละคนที่จะเลือกทำหรือเลือกใช้ชีวิต เขาก็คงมีทางเลือก มีสิ่งที่ตัวเองคิดเป็นของตัวเขาเอง แต่ถ้าสิ่งนั้นทำให้ใครเขาเดือดร้อน ทำให้ตัวเองเป็นทุกข์เราก็ต้องแก้ไข ปรับปรุง นี่ผมพูดในส่วนของตัวผมเองนะครับ”

“ส่วนเรื่องของ บอม ธนิน หรือคนอื่นๆ ผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องของผม ถามว่าดีใจไหม ส่วนตัวผมเฉยๆ ครับ ผมไม่ได้คิดว่าการที่ผมจะบอกว่าผมรักผู้หญิงคนนึงแบบสุดชีวิตของผม แล้วผมจะไม่ทิ้งเขา นั่นคือสิ่งที่คนทุกคนต้องทำ แต่เพียงแค่ว่าผมเชื่อ แล้วผมรู้สึกอย่างนั้นผมถึงพูด ผมไม่อยากจะโกหกคนที่ผมรัก ผมพูดตลอดว่า แฟนคลับ คนดูคือครอบครัวผม ดังนั้นผมโกหกไม่ลงหรอกครับ ผมก็ทำในสิ่งที่ผมเชื่อมันก็เท่านั้นเอง ผมไม่ได้รู้สึกว่าบอมจะเป็นคนดีหรือคนไม่ดี ผมรู้สึกว่าคนทุกคนมีทั้งส่วนที่ดีและไม่ดีทั้งนั้น”

ปัดเปลี่ยนคนดูแลคิวงานมาเป็นผู้จัดการของสาว “แตงโม” ยันค่าย “เอ็กแซ็กท์” ยังดูคิวงานให้เหมือนเดิม
“ไม่ใช่ครับ ได้พี่เมย์ (ผจก.แตงโม) มาช่วยครับ แต่การทำงานของผมก็ยังอยู่ที่เอ็กแซ็กท์เหมือนเดิม แต่ก็จะมีพี่เมย์มาช่วยในเรื่องของการทำงานด้วย วันนี้เป็นงานด่วนครับ บางครั้งที่ผมมาทำงานแล้วมีพี่เมย์อยู่ บางครั้งก็ไม่เป็นไร แล้วแต่ความสะดวก ถ้าทีมงานมาจากทางเอ็กแซ็กท์ก็เป็นคนของเอ็กแซ็กท์ ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน ที่เราทำแบบนี้ไม่ได้ทำเพราะมีปัญหา เราแค่ทำให้การทำงานมันง่ายขึ้น ไม่เกี่ยวกับผลพวงจากคราวที่แล้ว จริงๆ พี่เมย์เขามาช่วยดูหลายงานแล้ว”

http://www.manager.co.th

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X